ดัจญาล (หรือสัญลักษณ์ 666 ในไบเบิล) รู้ไว้ไม่เสียหลาย!


140,835 ผู้ชม

ท่านศาสดาได้ตักเตือนพวกเราไม่ให้หลงเชื่อดัจญาล ดังนั้น ท่านจึงอธิบายแก่พวกเราถึงคุณลักษณะของมันเพื่อให้พวกเราได้ระวังตัว ....


 ดัจญาล คืออะไร

ดัจญาล มีรากศัพย์มาจากคำว่า "ดาญาลา"  หมายถึง "การโกหกชนิดเขี้ยวลากดิน" ในรายงานต่างๆอย่างมากมายที่ได้ให้ความหมายของดัจญาล ในนามของผู้โกหก ผู้หลอกลวง ผู้ชั่วร้าย ผู้ปกปิด ฯลฯ ซึ่งสามารถที่จะสรุปได้ว่าบุคคลใดก็ตามที่เป็นผู้ที่โกหกชนิดเขี้ยวลากดิน และในแต่ละวันอยู่แต่กับการโกหกหลอกลวงเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาคือดัจญาลในวจนะของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) และหากวันใดที่หน้าแผ่นดินนี้เต็มไปด้วยบุคคลเหล่านี้ วันนั้นคือวันซึ่งอิมามมะฮ์ดี (อ.) ตัวแทนแห่งพระผู้เป็นเจ้าคนสุดท้ายจากวงศ์วานของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) จะมาปรากฏกายในไม่ช้า

ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ยังได้กล่าวไว้อีกครั้งหนึ่งว่า "ก่อนการปรากฏของดัญญาล จะมีมากกว่าเจ็ดสิบดัจญาลปรากฏขึ้นก่อน" หรือ "ก่อนวันสิ้นโลก ดัจญาลจะปรากฏขึ้น และก่อนการปรากฏดัจญาล จะปรากฏผู้พูดปดสามสิบคนหรือมากกว่า" ดังนั้นแสดงว่า ดัจญาลมีสองประเภท ประเภทหนึ่งคือดัจญาลตัวจริง และอีกประเภทคือบุคคลกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่พูดจาโกหกปลิ้นปล้อน หลอกลวงประชาชนให้ไปสู่ความหลงผิด ก็คือดัจญาล เช่นกัน

ดัจญาล หรือสัญลักษณ์ 666 ในไบเบิล

มีบันทึกว่า “ท่านศาสดาได้เข้ามายังพวกเราในขณะที่พวกเรากำลังคุยกันอยู่ ท่านถามว่า "พวกท่านกำลังพูดคุยเรื่องอะไรอยู่?"

พวกเราตอบว่า กำลังพูดถึงเรื่องวันการตัดสิน(กิยามะฮฺ) ท่านนบีกล่าวว่า

"วันแห่งการตัดสินหรือยุคสุดท้ายของโลก(กิยามะฮฺ) จะยังไม่อุบัติขึ้นจนกว่าพวกท่านจะได้เห็นสัญญาณก่อนหน้านั้นสิบประการ" โดยท่านได้กล่าวถึง

-ควันออกจากพื้นดิน

-การปรากฏตัวของดัจญาล 

-จะมีสัตว์(พูดกับมนุษย์)

-ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก

-นบีอีซา(เยซูคริส์ต) จะลงมาจากฟ้า

-ยะอ์ญูจญ์และมะอ์ญูจญ์(ผู้ช่วยดัจญาล)จะออกมา

-จะมีเหตุการณ์ธรณีสูบสามแห่ง เกิดทางทิศตะวันออก เกิดทางทิศตะวันตก และเกิดบริเวณคาบสมุทรอาหรับ

-และประการสุดท้ายจะมีไฟพุ่งออกมาจากประเทศยะมัน(เยเมน)ไล่ต้อนมวลมนุษย์ให้ไปที่แหล่งรวม(มะห์ชัร)ของพวกเขา” (มุสลิม : 2901)

ดัจญาล มาจากรากศัพท์ในภาษาอาหรับว่า ดะ-ญะ-ละ แปลว่า " เขาได้ปกปิด...หรือปิดบัง" อีกความหมายก็คือ "พูดเท็จ ผู้หลอกลวง"

เมื่อเทียบกับความหมายทางศาสนศาตร์ ของคริสเตียนแล้ว คำนี้ก็คือ "แอนตี้ไครสต์" หรือผู้ที่ต่อต้าน ขัดขวางพระคริสต์ ซึ่งก็คือ นบีอีซา (อ.ล.) ในศาสนาอิสลาม

ดัจญาลเป็นมนุษย์เพศชาย ซึ่งจะปรากฏตัวในวาระสุดท้ายของโลก มันจะอ้างตนเองว่าเป็นพระผู้เป็นเจ้า โดยจะปรากฏตัวครั้งแรก ณ เมืองคุรอาซาน(ปัจจุบันอยู่ในอิหร่าน ) จากนั้นมันจะเดินทางเข้าไปยังทุกหนแห่ง ยกเว้น มัสยิดบัยตุลมักดิส(มัญยิดโดมทอง-ปาเลสไตน์) มัสยิดอัฏฏูร (แหลมซีนาย ประเทศอียิปต์) เมืองมักกะฮฺ และมะดีนะฮฺ

มันไม่สามารถเข้าไปยังสถานที่ดังกล่าวได้เพราะมีฑูตสวรรค์คอยพิทักษ์รักษาอยู่ (เมื่อมันไม่สามารถเข้าเมืองมะดีนะฮฺได้) มันจะหยุดอยู่ ณ พื้นที่แห้งแล้งไม่มีต้นไม้(อัส-สะบะเคาะฮฺ) แล้วเมืองมะดีนะฮจะสั่นไหวสามครั้ง เมื่อนั้นบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาและพวกกลับกลอก (มุนาฟิก) จะถูกขับกระเด็นออกจากเมืองมะดีนะฮฺทั้งหมด

‎คุณลักษณะของดัจญาล

ท่านศาสดาได้ตักเตือนพวกเราไม่ให้หลงเชื่อดัจญาล ดังนั้น ท่านจึงอธิบายแก่พวกเราถึงคุณลักษณะของมันเพื่อให้พวกเราได้ระวังตัว ท่านได้ระบุว่ามันเป็นชายวัยฉกรรณ์มีผิวสีแดง มีตาพิการ เป็นหมันไม่ให้กำเนิดลูก บนหน้าผากจะมีอักษรอาหรับเขียนว่ากาฟิรฺ มุสลิมทุกคนเมื่อเห็นแล้วสามารถอ่านออกได้ ดังบันทึก(หะดีษ)

ท่านศาสดาได้กล่าวว่า ความว่า “แท้จริงดัจญาลผู้ตาบอดนั้นเป็นชาย รูปร่างเตี้ย เดินขาถ่าง ผมหยิก ตาข้างหนึ่งของมันพิการ (บอด)ไม่มีแวว ดวงตาของมันไม่โปนบวมและยื่นออกมา (ผิวบริเวณตาจะเรียบ) ถ้าหากมันมาหลอกลวงพวกท่านเพิ่งรู้เถิดว่าแท้จริงพระผู้เป็นเจ้าของท่านไม่ได้มีตาพิการ”ความว่า "คืนหนึ่ง ฉันฝันเห็นตัวฉันอยู่ที่กะบะห์และฉันเห็นคนผิวดำรูปร่างสง่างามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเขามีผมยาวลงมาระหว่างหูทั้งสองข้างและบ่าของเขา เป็นเส้นผมที่สวยงามที่สุดเท่าที่ท่านเคยเห็น เขาหวีผมของเขาและมีน้ำหยดลงมา เขาเอนพิงคนสองคนหรือพิงบนบ่าคนสองคนที่กำลังเวียนรอบกะบะห์

ฉันได้ถามเขาว่า เขาเป็นใคร และได้รับคำตอบว่า อัลมะซีฮ์ อิบนุมัรยัม ดงันันเราจึงเดินไปใกล้กับชายผมหยิกและตาบอดเหมือนกับองุ่นที่ลอยน้ำ ฉันได้ถามว่า คนผู้นี้เป็นใคร และได้ถูกบอกว่า มันคืออัลมะซฮ์ อัดดัจญาล"

ยังมีรายงานเสริมอีกว่า ดัจญาลจะครองโลกเป็นเวลา 40 วัน เนื่องจากโกลได้ผ่านสงครามมาอย่างหนักจนแทบเสียสมดุล วันแรกจะเท่ากับหนึ่งปี วันที่สองจะเท่ากับหนึ่งเดือน วันที่สามจะเท่ากับหนึ่งสัปดาห์ ส่วนวันที่เหลือจะเป็นปกติ ดังนั้นดัจญาลจะมีอำนาจปกครองเป็นเวลา 14 เดือน และ 14 วัน

เชื่อกันว่ามันจะล่อหลอกผู้คนเป็นอันมาก และทำให้เกิดสงครามไปทั่วบริเวญที่มันผ่านจนนำมาซึ่งความวุ่นวายจนกระจายกันไปทั่วโลก

มุสลิมเชื่อว่า การปรากฏตัวของดัจญาล เป็นบททดสอบศรัทธาอันยิ่งใหญ่สำหรับผู้ศรัทธา เพราะพระเจ้าจะให้มันมีความสามารถทำอภินิหารให้ผู้คนแปลกใจ

มีหลักฐานจากตัวบทว่าดัจญาลนั้นจะล่อหลอกด้วยสวรรค์และนรก(ปลอม) นรกของมันก็คือสวรรค์ที่แท้จริง ส่วนสวรรค์ของเขาก็คือนรกที่แท้จริง

มันมีภูเขาขนมปัง มีแม่นํ้า มันสามารถสั่งฟ้าให้หลั่งนํ้าฝน สามารถสั่งพื้นดินให้พืชพันธุ์งอกเงยได้ ทรัพยากรมีค่าในดินก็ทำตามมันมันสามารถเดินทางบนพื้นแผ่นดินอย่างรวดเร็ว เหมือนกับฝนเมื่อมีลมพายุพัด มันจะอยู่ในพื้นพิภพนี้นาน 40 วัน โดยจะมี 1 วันที่นานเหมือน 1 ปี มี 1 วันที่นานเหมือน 1 เดือน และมี 1 วันที่นานเหมือน 1อาทิตย์ส่วนวันที่เหลือจะเหมือนวันปกติธรรมดาทั่วไป

จากนั้น นบีอีซา (เยซูคริส์ต) จะเป็นผู้ลงมือฆ่ามัน ณ ประตูลุ๊ดในประเทศปาเลสไตน์

หมายเหตุ         

มุสลิมหลายๆ ยุคตีความในส่วนบรรยาเกี่ยวกับพลังของดัจญาล ต่างกันออกไป  ในยุคปัจจุบันจะเชื่อกันว่ามันได้เสนอความสบายและแนวคิดที่ตามใจจนเกินขอบเขตและนำมาซึ่งการทำให้คนเสียนิสัย  และเสนอกิเลสเป็นสวรรค์  ตอบสนองความอยากของคนของมันอย่างไร้ข้อจำกัด  จนมาครอบครองทรัพยากรของโลกที่เป็นของคนอื่นมาปรนเปรอสาวกของมัน  ความสามารถในการเดินทางของมันแทนเทคโนโลยี        

แต่ที่แน่ๆ มันจะเริ่มด้วยการหลอกลวงและสร้างสาวก

ที่มา: www.oknation.net

 

อัพเดทล่าสุด