เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเนื้อคู่ ที่อัลลอฮฺกำหนด


91,181 ผู้ชม

เราจะทราบได้อย่างไรว่าคนนั้นคือคู่แท้ของเราที่อัลลอฮฺกำหนด และถ้าเขามีทัศนคติต่างกับเราอย่างเช่น เขาทำเมาลิดแต่เราไม่ทำ และวันอาชููรอ และวันนิสฟูชะอฺบาน ฯลฯ


เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเนื้อคู่ ที่อัลลอฮฺกำหนด

คำถาม:  เราจะทราบได้อย่างไรว่าคนนั้นคือคู่แท้ของเราที่อัลลอฮฺกำหนด และถ้าเขามีทัศนคติต่างกับเราอย่างเช่น เขาทำเมาลิดแต่เราไม่ทำ และวันอาชููรอ และวันนิสฟูชะอฺบาน ฯลฯ ซึงทุกอย่างล้วนขัดกับเรา และอีกหลายอย่างที่ขัดกับศาสนา แต่ถ้าหากเขาคือเนื้อคู่เราแล้วจะให้เราตัดสินใจอย่างไรคะ หรือเลือกคนทีมีทัศนคติเหมือนเรา และเราสามารถขอให้อัลลอฮฺประทานเนื้อคู่ทีมีความเพียบพร้อม มีคุณสมบัติครบ 4 ประการได้หรือเปล่า เราจะขอพรให้ได้อย่างใจหวังได้อย่างไรคะ

คำตอบ: อัสสลามุอะลัยกุม วะเราะหฺมะตุ้ลลอฮฺ วะบะร่อกาตุฮฺ

การที่เราจะรู้ว่าเนื้อคู่ของเราที่อัลลอฮฺทรงกำหนดเป็นคนใดนั้น ก่อนที่จะเป็นคู่ครองจริงๆไม่ได้โดยสิ้นเชิง เพราะเป็นเฆบ(สิ่งเร้นลับ)ที่ถูกปกปิดไว้ และอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้กล่าวไว้ในอัลกุรอานซึ่งมีใจความว่า "และไม่มีใครในชั้นฟ้าและแผ่นดินที่จะรู้เฆบ นอกจากอัลลอฮฺ" ดังนั้นทางเดียวที่จะรู้ คือการที่อัลลอฮฺทรงบอกกับเรา ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับสามัญชนที่ไม่ใช่นบีหรือร่อซูล  แต่อัลลอฮฺทรงให้โอกาสแก่คนสามัญชนให้มีความสัมพันธ์กับความรู้ของพระองค์ และเดชานุภาพของพระองค์ด้วย การละหมาดอิสติคอเราะฮฺ ซึ่งการละหมาดอิสติคอเราะฮฺนี้เป็นหนทางที่ดีเลิศสำหรับผู้ศรัทธา ในการเลือกสิ่งที่ไม่สามารถรู้คุณค่าหรืออันตรายของมันในอนาคต เพราะฉะนั้นจะสังเกตว่าในเนื้อหาดุอาอฺอิสติคอเราะฮฺจะมีการมอบหมายความรอบรู้และไว้วางใจในพระเดชานุภาพของอัลลอฮฺ  ซึ่งจะทำให้ผู้ศรัทธาที่ละหมาดและกล่าวอิสติคอเราะฮฺมีความเชื่อมั่นในการเลือกของอัลลอฮฺ เพราะเราละหมาดอิสติคอเราะฮฺเพื่อเป็นการมอบหมายให้อัลลอฮฺทรงเลือกสิ่งที่ดีสำหรับเราและให้พวกเราห่างไกลจากสิ่งที่ไม่ดี ดังนั้นใครละหมาดและขอดุอาอฺอิสติคอเราะฮฺก็ให้ดำเนินการกิจกรรมต่างๆตามที่ขอดุอาอฺอิสติคอเราะฮฺไว้ หากกิจกรรมนั้นเป็นการดีในอนาคต อัลลอฮฺก็จะทรงประทานความสำเร็จ แต่ถ้าหากมีความชั่วร้ายในกิจกรรมนั้นก็จะให้มันห่างไป และสิ่งที่เราจะประสบหลังจากดำเนินกิจกรรมต่างๆหลังจากละหมาดอิสติคอเราะฮฺแล้ว ย่อมเป็นการดีเสมอถึงแม้ว่าเรามองว่ามีการขาดทุนหรือความเสียหายใดๆ เพราะการคาดการณ์และประเมินผลของเราย่อมไม่รอบคอบเท่ากับความรอบรู้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มิใช่หมายรวมให้ยอมรับในสิ่งที่ปรากฏ ทั้งๆที่มันขัดกับหลักการศาสนา เพราะสิ่งที่ขัดกับหลักการศาสนาย่อมไม่เป็นความปรารถนาของอัลลอฮฺอย่างเด็ดขาด และเรามีหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงความผิดนั้น เพราะอัลลอฮฺมิทรงเลือกสิ่งที่ขัดกับพระบัญชาของพระองค์ ดังนั้นผู้ศรัทธามีหน้าที่หลีกเลี่ยงจากความผิดในหลายขั้นตอน

ขั้นตอนแรกคือ ก่อนกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็ให้วางแผนและเลือกสิ่งที่ไม่ผิดกับหลักการด้วยทุกวิถีทาง อาทิเช่น ผู้หาคู่ครองก็มีหน้าที่คัดเลือกคู่ครองที่มีหลักการและความเที่ยงธรรม และพยายามหลีกให้ไกลจากผู้ที่กระทำความชั่ว และถ้าหากรู้ว่าว่าที่คู่ครองของเรามีความผิดใดๆและเสนอเงื่อนไขให้เลิกพฤติกรรมที่เป็นความผิดนั้น โดยมั่นใจว่าว่าที่คู่ครองนั้นจริงใจในการเปลี่ยนแปลงแล้วไซร้ ก็อยู่ที่ดุลพินิจว่าเราสามารถไว้วางใจว่าที่คนนี้ได้หรือไม่

ขั้นตอนที่สอง เมื่อมีคู่ครองแล้วเราก็มีหน้าที่ผลักดันชีวิตครอบครัวไปสู่ความถูกต้องทุกประการ หากมีความผิดที่ชัดเจนก็มีหน้าที่ต่อต้านความผิดนั้นเช่นเดียวกัน แต่หากมีประเด็นที่มีความขัดแย้ง ก็ให้คู่ครองของเรายอมรับในคำตัดสินด้วยหลักฐานที่ชัดเจน

ขั้นตอนที่สาม หากไม่สามารถชักจูงคู่ครองให้เลิกประพฤติความผิดอย่างน้อยก็ต้องแสดงความไม่พอใจและไม่ให้ร่วมมือในพฤติกรรมที่เป็นความผิดโดยเด็ดขาด

ดังนั้นจะเห็นว่ามุสลิมไม่ควรกังวลเกี่ยวกับความผิดที่อาจเกิดในอนาคต เพราะมุสลิมทุกคนมีจุดยืนชัดเจนแล้ว และจุดยืนนี้จำเป็นต้องเปิดเผยให้กระจ่างแก่ว่าที่เนื้อคู่ของเราให้ทราบ เพื่อเป็นการยืนยันในอุดมการณ์และแนวทางแห่งการแก้ไขปัญหาในอนาคตต่อไป

สำหรับการดุอาอฺ(วิงวอน)หรือขอให้ได้คู่ครองที่เที่ยงตรงเพียบพร้อม ก็เป็นสิ่งที่ดีที่ควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ และดุอาอฺย่อมมีผลหากเราปฏิบัติตามเงื่อนไขของการวิงวอนที่จะได้รับการตอบรับจากอัลลอฮฺ แต่ของบอกกับท่านว่าสิ่งที่เราขอจากอัลลอฮฺนั้น อัลลอฮฺจะตอบรับตามความเหมาะสมที่พระองค์ทรงรู้ว่าเป็นการดีสำหรับเรา เพราะฉะนั้นถ้าหากสิ่งที่เราได้มาไม่เป็นไปตามที่เราขอไป ก็อย่าถือว่าผิดหวังต่ออัลลอฮฺ แต่จงเชื่อมั่นว่าสิ่งที่อัลลอฮฺให้มาย่อมดีเสมอแต่เราคาดไม่ถึง เช่น เราขอคู่ครองที่มีคุณสมบัติทั้งสี่ประการ แต่ได้เพียงเรื่องศาสนา ส่วนอีกสามประการไม่สมบูรณ์ นั่นแสดงว่าสามประการที่ไม่ได้อย่างสมบูรณ์นั้นย่อมไม่ดีสำหรับเรา และการที่เราได้ "ศาสนา" อย่างเดียวก็เป็นความสำเร็จที่เพียงพอสำหรับผู้ศรัทธาอยู่แล้ว แต่ถ้าหากได้พบสามประการแต่ไม่มีประการที่สี่คือ "ศาสนา"  ถ้าเราเป็นผู้ศรัทธา การเลือกก็จะขึ้นอยู่กับเรา เราจะเลือกศาสนาหรือเลือกอย่างอื่น ถ้าหากเราได้เลือกศาสนาแล้วไซร้ แต่ปรากฏผู้ที่เราคาดว่ามีศาสนานั้นกลับเป็นผู้ล้มเหลวทางศาสนา หมายถึงไม่เป็นไปตามที่หวัง เราก็ต้องเริ่มแก้ไขสิ่งเหล่านี้ และพยายามปรับปรุงชีวิตให้เป็นไปตามที่เราต้องการ และการดิ้นรนต่อสู้ในหนทางนี้ก็เป็นการทดสอบชนิดหนึ่งที่ทุกคนต้องประสบในชีวิตของเขา เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเราจะบริบูรณ์ตามความต้องการของเรามิได้ ดังที่เราเห็นในโลกของเรา สำหรับสิ่งที่เราได้ตามที่หวัง เรามีหน้าที่ขอบคุณ(ชุโกร)ต่ออัลลอฮฺ สำหรับสิ่งที่เราไม่ได้ดังหวัง ถ้าเป็นความผิดของเราก็ต้องแก้ไข แต่ถ้าไม่ใช่ความผิดของเราก็ต้องซอบัรอดทนและพยายามปรับชีวิตของเราให้ถูกต้องที่สุดเท่าที่จะทำได้

สุดท้ายนี้ สิ่งดีๆ คนดีๆ มีอยู่ในทุกสังคมทุกสมัย สิ่งดีๆคนดีๆ ย่อมมีเอกลักษณ์และสัญลักษณ์ คนดีๆย่อมพบกับคนดีๆ ถ้าค้นหาสิ่งดีๆที่อยู่ในคนดีๆ  คนดีๆคบคนไม่ดีเพราะไม่อยากคบคนดีๆ เพราะถ้าอยากพบคนดีๆก็จะไม่คบคนไม่ดี สรุปว่า คนดีๆต้องเจอกับคนดีๆครับ

วัสสลามุอะลัยกุม วะเราะหฺมะตุ้ลลอฮฺ วะบะร่อกาตุฮฺ
ริฎอ อะหมัด สมะดี

อัพเดทล่าสุด