ผู้หญิงตกนรกมากที่สุด ก็เพราะปากของเธอ


20,561 ผู้ชม

การนินทากับผู้หญิงเป็นของคู่กันมิขาด ปรากฏเห็นตามสังคมงานเลี้ยงสังสรรค์อยู่ร่ำไป เพราะปากของผู้หญิงเป็นสิ่งที่เธอต้องระวังมากที่สุด และส่วนมากในวงสังสรรค์ก็อาจวนเวียนอยู่ไม่กี่เรื่อง...


ท่านรอซูล กล่าวว่า "ผู้หญิงตกนรกมากที่สุด ก็เพราะปากของเธอ"

การนินทากับผู้หญิงเป็นของคู่กันมิขาด ปรากฏเห็นตามสังคมงานเลี้ยงสังสรรค์อยู่ร่ำไป เพราะปากของผู้หญิงเป็นสิ่งที่เธอต้องระวังมากที่สุด และส่วนมากในวงสังสรรค์ก็อาจวนเวียนอยู่ไม่กี่เรื่อง แต่หลายเรื่องด้วยกันมักจะเป็นเรื่องของชาวบ้านทั้งสิ้น แต่สิ่งที่แย่มากที่สุด คือปากภรรยานินทาไปถึงเรื่อง "สามีของตัวเอง"

เราเห็นได้จากตามละครสะท้อนสังคมที่ฟอนเฟะ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน แต่หารู้ไม่สิ่งที่สังคมต่างศาสนิกกระทำ ในหมู่มุสลิมะฮ์ก็มีเช่นกันอันเนื่องจากความไม่รู้ในความผิดดังกล่าว นะอูซุบิ้ลลาฮิมินซาลิก (ขออัลลอฮ์ ให้เรารอดพ้นการกระทำนี้เถิด)

มีรายงานจากท่านอบีสอีด อัลคุดรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า "แท้จริงอมานะฮฺอันยิ่งใหญ่ ณ ที่อัลลอฮฺ ในวันกิยามะฮฺ ก็คือบุคคลที่แนบกายร่วมหลับนอน"

และอีกรายงานหนึ่งว่า "แท้จริงมนุษย์ที่มีฐานะเลวที่สุด ณ อัลลอฮฺ ในวันกิยามะฮฺนั้น ก็คือชายที่แนบกายหลับนอนกับหญิงของเขา (ภรรยา) และหญิงที่แนบกายร่วมหลับนอนกับสามีของนาง แล้วเขาผู้นั้น เอาความลับของนางมาเปิดเผย" บันทึกโดยมุสลิม

ผู้หญิงตกนรกมากที่สุด ก็เพราะปากของเธอ

และในอีกรายงานหนึ่งซึ่งบันทึกโดยอบูดาวูดมีว่า 

ท่านรอซูล กล่าวว่า

"ในวันกิยามะฮ์ คนที่มีฐานะเลวที่สุด คือ คนที่ร่วมหลับนอนกับภรรยา และภรรยาก็ร่วมหลับนอนกับเขาแล้วคนใดคนหนึ่ง(สามีภรรยา) ได้แพร่งพายความลับของอีกฝ่าย"

....................

ย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ขณะที่ท่านนะบีอิบรอฮีม มาเยี่ยมท่านนะบีอิสมาอีลลูกชายตน ท่านเคาะประตูบ้าน แต่ไม่พบลูกชายจึงถามภรรยาของนะบีอิสมาอีลว่า อิสมาอีลไปไหน

เธอตอบว่า "ท่านออกไปทำงานมาเลี้ยงดูพวกเรา" ได้โอกาสดีท่านนะบีอิบรอฮีมจึงไต่ถามชีวิตการเป็นอยู่ของพวกเธอ

เธอเห็นว่าเขาเป็นแขกของสามีคนหนึ่ง เธอจึงตอบว่า "พวกเราลำบากยากแค้นเหลือเกิน"

ยามที่ปากของผู้หญิงเริ่มพูด และขาดสติ เธอจึงเผลอเล่าเรื่องสามีจนลามไปร้องทุกข์และตำหนินบีอิสมาอีล 

ท่านนะบีอิบรอฮิม ฝากนางไปบอกลูกชายว่า "จงเปลี่ยนธรณีประตูบ้านเสีย"

เมื่อท่านนบีอิสมาอีลกลับมา ภรรยาก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังโดยไม่รู้ว่า คำว่า "เปลี่ยนธรณีประตูบ้าน" หมายถึงอะไร ซึ่งเธอก็ไม่เห็นว่าประตูบ้านเสียหายตรงไหน

นบีอิสมาอีล บอกว่า "ชายคนนั้นคือบิดาฉันเอง เขาสั่งให้ฉันแยกทางกับเธอ เธอกลับไปอยู่กับครอบครัวเธอเถิด ฉันหย่าเธอแล้ว"

ซึ่งคำตอบนี้ทำให้เธอไม่คาดคิดกับความพลั้งเผลอที่ทำลงไป ท่านนะบีอิบรอฮีม ผู้เป็นพ่อตระหนักดีว่า ผู้หญิงที่เปิดเผยความลับ ร้องทุกข์สามีตนเองให้กับคนภายนอกฟังซึ่งยังไม่ทราบว่าผู้นั้นเป็นใคร ไม่เหมาะสมที่จะเป็นภรรยาของนะบี

เรื่องราวในบ้านเป็นความลับที่คนในบ้านต้องรักษา อย่าให้คนภายนอกล่วงรู้ว่าสมบัติภายในบ้านเรามีดีหรือไม่ดีอย่างไร และอย่านำเรื่องราวนอกบ้านมาสร้างความวุ่นวายให้คนในบ้าน ใครเล่าจะอยากฟังเรื่องวุ่นๆ ทั้งที่เรื่องในบ้านก็อาจจะวุ่นวายเต็มที

มุสลิมะฮ์ที่ดี จำต้องมีสติ ระงับปาก มิฉะนั้นแล้ว คุณจะเป็นคนใกล้ตัวที่ไม่น่าไว้ใจที่สุด ดังคำพูดที่ว่า "ไฟในอย่านำออก......ไฟนอกอย่านำเข้า"

อะมานะฮฺอันยิ่งใหญ่ที่อัลลอฮฺ ทรงสอบสวนทั้งสามีและภรรยาในวันกิยามะฮฺ นั่นก็คือความ ลับของทั้งสองฝ่ายที่อัลลอฮฺสั่งให้รักษาและปกปิดไว้อย่างดี และห้ามไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเปิดเผยความลับแก่ผู้ใดทั้ง สิ้นไม่ว่าจะเป็นบิดามารดาญาติที่ใกล้ชิดหรือคนอื่นก็ตาม นอกจากในกรณีจำเป็นเท่านั้น ซึ่งไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิของแต่ละฝ่าย ความลับนี้ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างสามีภรรยาในขณะที่มีการหลับนอนกัน

ไม่มีความสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่กว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสหรือสามีภรรยานั้นเอง ที่พูดเช่นนี้ เพราะในบรรดาสัญญาที่มีขึ้นระหว่างมนุษย์ด้วยกันไม่มี สัญญาใดที่มีความสำคัญยิ่งเมื่อเทียบกับสัญญาที่มีขึ้นระหว่างสามีกับภรรยา ดังที่อัลลอฮฺซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

ความว่า "และเรา (อัลลอฮฺ) ได้เอาคำมั่นสัญญาอันหนัก แน่นจากพวกเขาด้วย"

ในดำรัสของอัลลอฮฺ ระบุว่าพระองค์เรียกการมีชีวิตร่วมกัน ระหว่างสามีและภรรยานั้นจะมีด้วยคำมั่นสัญญาอันหนักแน่น ซึ่งเป็นการชี้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตร่วมกัน และเป็นการเตือนให้สามีหรือภรรยาคำนึงถึงเรื่องนี้เป็นสำคัญ

อัพเดทล่าสุด