เพศที่สาม ศาสนาอิสลาม ทำไมจึงผิด เพศที่สาม ใครสร้าง
อยากให้ช่วยอธิบายในเชิง ความเท่าเทียมกันของการเป็นมนุษย์จริงหรือไม่ ในศาสนาอิสลาม มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน ชาย หญิง ขาว ดำ รวย จนถ้าจริง ทำไม เพศที่สาม จึงผิด
คำตอบจาก Pantip
ณ อัลเลาะห์ แต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความยำเกรงของตนเองที่มีต่อพระองค์ว่า มีมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นครับ ซึ่งอันนี้ ไม่ได้ขึ้นกับเพศ สีผิว หรือทรัพย์สินแต่อย่างใด
อัลเลาะห์ ซบ. ทรงตรัสไว้ในอัลกุรอาน ความว่า :
" โอ้มนุษยชาติทั้งหลาย แท้จริงเราได้สร้างพวกเจ้าจากเพศชาย และเพศหญิง และเราได้ให้พวกเจ้าแยกเป็นเผ่า และตระกูลเพื่อจะได้รู้จักกัน แท้จริงผู้ที่มีเกียรติยิ่งในหมู่พวกเจ้า ณ ที่อัลลอฮ.นั้น คือผู้ที่มีความยำเกรงยิ่งในหมู่พวกเจ้า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน " (49:13)
".. นางทั้งหลายนั้นคือเครื่องนุ่งห่มของพวกเจ้า และพวกเจ้าก็คือเครื่องนุ่งห่มของพวกนาง .." (บางส่วนจากอัลกุรอาน 2:187)
นอกจากนี้ มีรายงานจากอะบีซัร เล่าว่า ท่านนบี (ซ.ล.) กล่าวแก่เขาว่า
"ท่านจงมองดูตัวเองให้ดี เพราะว่าท่านไม่ได้ดีกว่าคนผิวแดง ไม่ได้ดีไปกว่าคนผิวดำแต่อย่างใด นอกจากท่านจะประเสริฐกว่าเขา ก็ด้วยการมีความตักวา(ยำเกรง)ต่ออัลลอฮ์ มากกว่ากันเท่านั้น" รายงานโดย อะหมัด
รายงานจากท่านอับดุลลอฮฺ บินอัมรฺ (ร.ด.) จาก ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า :
"พวกท่านทั้งหลายจะรวมตัวกันในวันกิยามะฮฺ แล้วจะถูกถามขึ้นว่า บรรดาคนยากจน ขัดสนของประชาชาตินี้อยู่ที่ไหน?
ท่านกล่าวว่า พวกเขาก็จะยืนขึ้น แล้วพวกเขาจะถูกถามว่า : พวกเจ้าได้ทำอาม้าลอะไร?
พวกเขาจะตอบว่า : โอ้ผู้อภิบาลของเรา พระองค์ทรงทดสอบพวกเรา แล้วพวกเราก็ได้อดทน พระองค์ทรงมอบทรัพย์สินและอำนาจการปกครองแก่ผู้อื่นนอกจากเรา
อัลลอฮฺตะอาลาจะตรัสว่า : พวกเจ้าพูดจริง
ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : ดังนั้นพวกเขาจะได้เข้าสวรรค์ก่อนผู้คนทั้งหลาย และการสอบสวนอันเข้มงวดจะคงอยู่แก่บรรดาคนรวย และผู้มีอำนาจ" (อิบนุฮิบบาน)
สำหรับเรื่องศาสนา อัลเลาะห์ (ซบ.) ทรงตรัสความว่า
"...วันนี้ข้าได้ให้สมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งศาสนาของพวกเจ้าและข้าได้ให้ครบถ้วนแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งความกรุณาเมตตาของข้า และข้าได้เลือกอิสลามให้เป็นศาสนาแก่พวกเจ้าแล้ว..." (บางส่วนจากอัลกุรอาน 5:3)
"และผู้ใดแสวงหาศาสนาหนึ่งศาสนาใดอื่นจากอิสลามแล้ว ศาสนานั้นก็จะไม่ถูกรับจากเขาเป็นอันขาด และในปรโลกเขาจะอยู่ในหมู่ผู้ขาดทุน" (3:85)
จากข้างต้นแสดงว่า อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ทรงเลือกให้อิสลามเป็นศาสนาของพวกเราซึ่งเป็นประชาชาติสุดท้ายแล้ว
ดังนั้น หากคุณยังเชื่อในอัลเลาะห์ (ซ.บ.) พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว และเชื่อในมูฮัมมัด (ซ.ล.) ผู้นำสารจากพระองค์ก็ขอให้หนักแน่นในความเชื่อนี้ต่อไป
ไม่มีศาสนาใดที่จะดีงาม และเที่ยงธรรมยิ่งกว่าศาสนาอิสลามอีกแล้ว
คุณรู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมรักร่วมเพศชาย ไม่ได้เพิ่งเกิดมาในยุคนี้ แต่พฤติกรรมดังกล่าว เคยมีมานานมากแล้ว
ดังที่พระองค์อัลเลาะห์ได้ทรงระบุไว้ในอัลกุรอาน หลายๆ ส่วน ถึงนบีลูฏ (อ.ล.) และกลุ่มชนของเขา
ตัวอย่างเช่น
"หมู่ชนของลูฏ ได้ปฏิเสธบรรดาร่อซูล. ขณะที่พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือลูฏได้กล่าวแก่พวกเขาว่า โอ้พวกท่านไม่ยำเกรงบ้างหรือ?. แท้จริงฉันคือร่อซูลผู้ซื่อสัตย์สำหรับพวกท่าน. ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺ และเชื่อฟังฉัน. และฉันมิได้ขอค่าตอบแทนในการนี้จากพวกท่าน ค่าตอบแทนของฉันมิได้มาจากผู้ใด นอกจากพระเจ้าแห่งสากลโลก พวกท่านเข้าหาผู้ชายในหมู่ผู้คนทั้งหลายกระนั้นหรือ? และพวกท่านปล่อยทิ้ง สิ่งที่พระเจ้าของพวกท่านทรงบังเกิดมาสำหรับพวกท่าน คือภรรยาของพวกท่าน แน่นอนพวกท่านเป็นหมู่ชนผู้ฝ่าฝืน พวกเขากล่าวว่า โอ้ลูฏเอ๋ย! หากท่านไม่หยุดยั้ง แน่นอนท่านเป็นผู้หนึ่งที่จะถูกขับไล่ให้ออกไป เขากล่าวว่า แท้จริงฉันเป็นผู้ที่เกลียดยิ่งต่อการกระทำของพวกท่าน" (26:160-168)
"และจงรำลึกถึงลูฏ ขณะที่เขาได้กล่าวแก่ประชาชาติของเขาว่า ท่านทั้งหลายจะประกอบสิ่งชั่วช้าน่ารังเกียจ ซึ่งไม่มีคนใดในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย ได้ประกอบมันมาก่อนพวกท่านกระนั้นหรือ? แท้จริงพวกท่านจะสมสู่เพศชายด้วยตัณหาราคะอื่นจากเพศหญิง
ยิ่งกว่านั้นพวกท่านยังเป็นพวกที่ละเมิดขอบเขตด้วย และคำตอบแห่งประชาชาติของเขานั้นมิปรากฏเป็นอื่นใด นอกจากการที่พวกเขากล่าวว่า ท่านทั้งหลายจงขับไล่พวกเขาออกไปจากเมืองของพวกท่านเสีย แท้จริงพวกเขาเป็นพวกที่บริสุทธิ์. และเรา ได้ช่วยเขาและครอบครัวของเขาให้รอดพ้น นอกจากภรรยาของเขาเท่านั้น ซึ่งนางปรากฏอยู่ในหมู่ที่คงอยู่ (เพื่อรับการลงโทษ). และเราได้ให้ฝน ตกลงมาบนพวกเขาแล้วเจ้า จงดูเถิดว่า ผลสุดท้ายของบรรดาผู้กระทำผิดนั้นเป็นอย่างไร?” " (7:80-84)
มีรายงานจากญาบิรฺ อิบนิ อับดิลลาฮฺ เล่าว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัย ฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“อันที่จริงสิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุดว่าจะเกิดกับประชาชาติของฉัน คือการมีพฤติกรรมเสมือนกับกลุ่มชน ของนบีลูฏ”
(บันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ : 2563 ติรมีซียฺ : 1457 เศาะเ๊ยะหฺอิบนุมาญะฮฺอัลบานียฺ : 2093 เศาะเ๊ยะหฺอัลญามิอ ฺอัลบานียฺ : 1552 เศาะเ๊ยะหฺติรมีซียฺ : 1457)
พฤติกรรมรักร่วมเพศชาย จัดเป็นพฤติกรรมที่ถูกสาปแช่งจากอัลเลาะห์และนบีมูฮัมมัด และท่านนบียังกลัวมากๆ กับพฤติกรรมดังกล่าวว่ามันจะเกิดกับประชาชาติของท่านเอง
ดังนั้น หากคุณยังรักและหวังความโปรดปรานจากอัลเลาะห์ และรักท่านนบีขอให้ลดละเลิกพฤติกรรมดังกล่าวจะดีมาก
เพศที่สาม......ใครสร้าง ?
การเบี่ยงเบนทางเพศ เกิดจากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่บางคนมักกล่าวว่าที่เป็นแบบนี้เพราะพระเจ้าให้มา หรือเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิด แท้จริงพระเจ้าสร้างมนุษย์จากดิน พระองค์ทรงสร้างทั้งหมดเป็นคู่ๆ ฉะนั้นมนุษย์จึงมีเพียงสองเพศ คือ เพศหญิง และเพศชาย และให้ทั้งสองเพศเป็นคู่ครองกัน คอยดูแลซึ่งกันและกัน ห่วงใยซึ่งกันและกัน และให้กำเนิดบุตรจากน้ำอสุจิของเพศชาย และไข่ของเพศหญิง เพื่อเป็นโซ่ทองคล้องใจ ของบิดามารดา และให้ทั้งหมดดำเนินวิถีชีวิตตามหลักการที่พระเจ้าได้บัญญัติไว้ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความสงบสุขและสันติของมวลมนุษย์ชาติ
"และเราได้บังเกิดพวกเจ้าให้เป็นคู่ครองกัน" (อันนะบะ 8)
"และเมื่อชีวิตทั้งหลายถูกจัดเป็นคู่" (อัตตักวีร 7)
อัลลอฮ์ ทรงสร้างมนุษย์มีเพียงแค่เพศชายและเพศหญิง เพื่อให้ทั้งสองเพศนี้แพร่กระจายเผ่าพันธุ์ไปตามส่วนต่างๆของโลก มีหลากหลายเชื้อชาติ หลายหลายผิวพรรณ หลากหลายภาษา เพื่อให้เรียนรู้กัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ดังจะเห็นได้ว่า อัลลอฮ์ ทรงสร้าง เพศหญิง และเพศชาย มีเพียงสองเพศเท่านั้น ไม่มีเพศที่สาม!
“มนุษยชาติทั้งหลาย ! จงยำเกรงพระเจ้าของพวกเจ้าที่ได้บังเกิดพวกเจ้ามาจากชีวิตหนึ่ง และได้ทรงบังเกิดจากชีวิตนั้นซึ่งคู่ครองของเขา และได้ทรงให้แพร่สะพัดไปจากทั้งสองนั้น ซึ่งบรรดาชายและบรรดาหญิงอันมากมาย และจงยำเกรงอัลลอฮฺที่พวกเจ้าต่างขอกัน ด้วยพระองค์ และพึงรักษาเครือญาติ แท้จริงอัลลอฮฺทรงสอดส่องดูพวกเจ้าอยู่เสมอ” (อัน-นิซาอฺ 1)
การเบี่ยงเบนทางเพศเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้
1. การขาดความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่
เด็กที่กำลังเติบโตมักต้องการความรัก ความอบอุ่น และการดูแลอย่างใกล้ชิดจากพ่อแม่ เมื่อเด็กขาดความรัก ความอบอุ่นจากครอบครัว โดยเฉพาะจากแม่ หรือเด็กที่เกิดมาจากครอบครัวที่พ่อแม่ไม่รักกัน มีปัญหาภายในจิตใจ ลูกชายที่กำลังเติบโตจึงแสดงความต้องการในสิ่งที่ตนเองขาด เพื่อชดเชยให้กับตนเอง หรือกับคนรอบข้าง โดยเปลี่ยนตนเองให้เหมือนแม่ คือการเลียนแบบผู้หญิง เพื่อให้ความรักของแม่ได้อยู่ใกล้ชิดตนเอง และเผื่อแผ่ความรักนี้ให้กับผู้อื่นด้วย จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กชายเบี่ยงเบนทางเพศกลายเป็นผู้หญิงเพื่อชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิต สำหรับเด็กหญิงจะแสดงออกโดยการเลียนแบบความเข้มแข็ง ก้าวร้าวเพื่อปกป้องตนเอง และคนรอบข้าง และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งให้เด็กหญิงมีพฤติกรรมแบบเด็กผู้ชาย
2. ความลำเอียง(รักลูกไม่เท่ากัน)
ความรักที่ให้ลูกไม่เท่ากัน หรือลำเอียง เนื่องจากพ่อแม่ชอบลูกสาวมากกว่า ทำให้ลูกชายที่ต้องการความรัก แสดงตนเองให้เหมือนพี่น้องผู้หญิงเพื่อเรียกร้องความสนใจ และความรักจากพ่อแม่ กรณีนี้อาจเกิดในเด็กผู้หญิงได้เช่นกันแต่ไม่ทั้งหมด เมื่อความลำเอียงในความรักเกิดขึ้นในบ้าน เด็กผู้หญิงจะออกไปโหยหาความรักนอกบ้าน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาสังคมในยุคปัจจุบัน เช่นการที่วัยรุ่นมีแฟน หรือออกมาอยู่ด้วยกันโดยมิได้แต่งงาน หรือหนีออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนผู้ชาย เพื่อชดเชยความรักที่ตนเองขาดจากครอบครัว
3. โรคจิตชนิดถาวร
ความเป็นจริงของสังคมในทุกสมัย คือการไม่ยอมรับ กลุ่มที่เบี่ยงเบนทางเพศ รักร่วมเพศ เพศที่สาม กระเทย สาวประเภทสอง หรือ ผู้หญิงข้ามเพศ ไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อเรียก สักกี่ครั้งสังคมก็ยังไม่สามารถรับบุคคลกลุ่มนี้ได้อย่างสนิทใจ เพราะสังคมยังถือว่าบุคคลเหล่านี้เป็น “โรคจิตถาวร” ที่รักษาไม่หาย กลุ่มคนเหล่านี้ออกมาเรียกร้องป่าวประกาศเพื่อให้ตนเป็นที่ยอมรับของสังคมส่วนรวม และพยายามที่จะบอกว่าพวกตนนั้นไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เพื่อให้มีการยอมรับมากขึ้น และนำไปสู่การเรียกร้องสิทธิต่างๆ ตามมาอย่างไม่รู้จบ
4. การเลียนแบบดารา นักร้อง หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง
สื่อบันเทิงต่างๆมีการโฆษณาและสนับสนุนกลุ่มคนที่ออกมายอมรับว่าตนเองนั้นเป็นพวกเบี่ยงเบนทางเพศ รักเพศเดียวกัน การสนับสนุนทางด้านชื่อเสียง เงินทอง เพื่อหวังผลกำไรทางการค้า ทำให้เยาวชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ตกเป็นเหยื่อของการเลียนแบบ เช่น การแต่งกาย เครื่องสำอาง อาหารการกิน การดำเนินวิถีชีวิตที่ฟุ่มเฟือย ผลประโยชน์ที่ได้จากการโฆษณาชวนเชื่อตกอยู่ในมือของผู้ประกอบการที่แสวงหาผลกำไรโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบเลวร้ายทางสังคม หรือบางคนแย้งว่าพวกเพศที่สาม มีความสามารถพิเศษ จริงๆแล้วถึงแม้ว่าเขาไม่เป็นเพศที่สาม เขาก็ยังคงความสามารถเหมือนเดิม ไม่มีใครดึงความสามารถในสิ่งที่เขาแสดงออกไปได้ แต่การใช้ความสามารถให้ถูกทางนั้นคือสิ่งที่ถูกต้องยิ่งกว่า
5. โดนข่มขืนกระทำชำเรา
เด็กวัยรุ่นบางคนโดนพวกกระเทยข่มขืน จนเกิดความเคยชินต่อการร่วมเพศแบบวิตถาร หรือบางคนอยากลองร่วมเพศกับผู้ชายที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว หรือบางคนยังไม่ผ่าตัดแปลงเพศแต่มีรูปลักษณ์เหมือนผู้หญิง ความอยากรู้อยากเห็น อยากลอง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนรสนิยมทางเพศแบบวิตถารโดยถาวร
เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งจากสาเหตุของการเบี่ยงเบนทางเพศ ซึ่งอาจจะเกิดจากอีกหลากหลายสาเหตุ เช่น สาเหตุทางการแพทย์ คือ การได้รับฮอร์โมนเพศหญิง หรือ เพศชายมากเกินไป จากยาที่ใช้เพื่อการรักษาโรค
แม้สังคมจะเจริญทางด้านวัตถุอย่างมากแต่กลับตกต่ำทางด้านศีลธรรมจรรยา ไม่มีศาสนาใดที่ยอมรับการเบี่ยงเบนทางเพศ ไม่มีศาสนาใดที่ยอมรับการอยู่ร่วมกันฉันท์สามีภรรยาของเพศเดียวกัน และไม่มีศาสนาใดในโลกนี้ที่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับบุคคลที่เบี่ยงเบนทางเพศ นอกจาก ศาสนาอิสลาม
อัลลอฮ์ ได้ตรัสเกี่ยวกับกลุ่มชนนี้ว่า
“และจงรำลึกถึงลูฏ ขณะที่เขาได้กล่าวแก่ประชาชาติของเขาว่า ท่านทั้งหลายจะประกอบสิ่งชั่วช้าน่ารังเกียจ ซึ่งไม่มีคนใดในหมู่ประชาชาติทั้งหลายได้ประกอบมันมาก่อนพวกท่านกระนั้นหรือ?”
“แท้จริงพวกท่านจะสมสู่เพศชายด้วยตัณหาราคะอื่นจากเพศหญิง ยิ่งกว่าพวกท่านยังเป็นพวกที่ละเมิดขอบเขตด้วย" (อัล-อะอฺรอฟ 80-81)
การเบี่ยงเบนทางเพศ ไม่เป็นที่ยอมรับในอิสลาม ถ้าได้ศึกษาจากคัมภีร์อัลกุรอาน จะได้ทราบว่าการเบี่ยงเบนทางเพศมีมาตั้งแต่สมัยของนะบีลูฏ ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดในยุคปัจจุบัน แต่จะเริ่มมาเปิดเผยมากขึ้นในสมัยนี้ เพื่อให้มีการยอมรับของสังคมในกลุ่มคนที่สมสู่เพศเดียวกัน
อัลลอฮ์ ได้ทรงตักเตือนและชี้ให้เห็นถึงความผิดบาป ของผู้ที่สมสู่เพศเดียวกันนั้น มีความสกปรกโสมม ความชั่วช้า ความเลวร้าย และความโง่เขลาอย่างยิ่ง
"และ (จงรำลึกถึง) ลูฏ เมื่อเขากล่าวแก่หมู่ชนของเขาว่า “พวกท่านกระทำการลามก ทั้งๆ ที่พวกท่านรู้เห็นอยู่กระนั้นหรือ ?
“แท้จริงพวกท่านสมสู่พวกผู้ชายด้วยตัณหา แทนพวกผู้หญิงกระนั้นหรือ ? ยิ่งกว่านั้นพวกท่านเป็นหมู่ชนที่โง่เขลา” (อันนัมลฺ 54-55)
"เขา (ลูฎ) กล่าวว่า “แท้จริง เขาเหล่านั้นคือแขกของฉัน ดังนั้น พวกท่านอย่าทำให้ฉันอัปยศ"
“และจงยำเกรงอัลลอฮ์ และอย่าทำให้ฉันได้รับความละอาย” (อัลฮิจรฺ 68-69)
แท้จริงชีวิตของผู้ที่เบี่ยงเบนทางเพศนั้นจะมีแต่ความเจ็บปวดยิ่งกว่าตกนรก หาใครรักจริงไม่มี เงินทองที่ได้มาก็ปรนเปรอกับกามราคะ สูญเสียความเป็นตัวตน โดนสังคมประนามลับหลัง แม้ต่อหน้าจะชื่นชมก็ตาม สุขภาพที่บั่นทอนลงเพราะความผิดในเพศ บางคนตายเพราะโรคร้าย มีแต่เสียกับเสียจะเห็นว่าไม่มีข้อดีเลย
อัลลอฮ์ ได้ตรัสถึงการลงโทษที่รุนแรงจากพระองค์ นั่นแสดงให้เห็นว่าการสมสู่เพศเดียวกัน จะนำมาซึ่งความหายนะอันใหญ่หลวงต่อสังคมมนุษย์ในด้าน ต่างๆ เช่น การหยุดยั้งการกำเนิดของมนุษย์ การเกิดโรคร้ายที่รักษาไม่หาย สังคมเกิดความปั่นป่วนโดยไม่สามารถจำแนกเพศที่แน่นอนออกจากกลุ่มคนที่เบี่ยงเบนทางเพศได้ ฉะนั้นการลงโทษจากอัลลอฮ์ จึงเป็นการลงโทษที่รุนแรง และคู่ควรกับกลุ่มชนเหล่านั้น
“และเราได้ให้ห่าฝน ตกลงมาบนพวกเขา ดังนั้น ฝนของบรรดาผู้ถูกตักเตือนมันชั่วช้าเสียนี่กระไร ! ” (อันนัมลฺ 58)
“และได้ให้ห่าฝนตกลงมาบนพวกเขา ดังนั้น ฝนของบรรดาผู้ถูกตักเตือนมันชั่วร้ายเสียนี่กระไร! ” (อัชชุอะรออฺ 173)
“ขอสาบานด้วยชีวิตของเจ้า แน่นอนแท้จริงพวกเขาอยู่ในการมึนเมาหลงทาง ดังนั้น เสียงกัมปนาทได้คร่าพวกเขาเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น แล้วเราได้พลิกกลับส่วนบนของมันเป็นส่วนล่าง และได้ให้หินจากนรกหล่นลงมาทับพวกเขา” (อัลฮิจรฺ72-74)
อีกทั้งยังมีสถานที่ให้เห็น จากกลุ่มเบี่ยงเบนทางเพศที่ถูกลงโทษจากพระองค์อัลลอฮ์ จนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นข้อเตือนสติ และข้อตักเตือนให้กับหมู่ชนทั้งหลายถึงความเลวร้ายของพวกเขา
" แท้จริงเราเป็นผู้นำการลงโทษจากฟากฟ้าสู่ชาวเมืองนี้ เนื่องจากพวกเขาฝ่าฝืน และโดยแน่นอน เราได้ทิ้งสัญญาณอันชัดแจ้งของเมืองนี้ ไว้สำหรับหมู่ชนผู้มีปัญญาพิจารณา" (ซูเราะฮฺ อัลอังกะบูต 34-35)
มุสลิมกำลังเผชิญกับวิกฤตที่ว่านี้ทั่วทุกมุมโลก เพราะมีบางกลุ่มที่ไม่ต้องการให้มุสลิมผลิตประชาชาติมากๆ จึงส่งเสริมให้มนุษย์เป็นกลุ่มรักร่วมเพศ ทำให้การแต่งงานเป็นสิ่งที่ยากลำบาก และพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้มองเห็นว่าการอยู่คนเดียวจะเป็นอิสระและดีกว่าพวกที่แต่งงาน
แท้จริงแล้วการแต่งงานกับคนที่เข้าใจ การมีลูกๆ ทำให้เราได้มีชีวิตอยู่อย่างมีความหมาย มีเป้าหมายมากขึ้น การที่เราพิสูจน์ความสามารถของตนเองที่ได้เล่าเรียนและประสบการณ์ที่สั่งสมมาในชีวิตว่า คนสองคนจากเพศชายและเพศหญิงจะสามารถเลี้ยงเด็กๆให้เติบโตเป็นคนดีได้หรือไม่ ซึ่งต้องร่วมมือกันทำงานเป็นทีม ที่เรียกว่า “ครอบครัว”
อัลลอฮ์ ทรงตักเตือนให้มนุษย์ได้รู้ถึงสิ่งที่จะเกิดตามมาจากความผิดปกติของจิตใจ และทรงป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดสิ่งเลวร้ายต่างๆขึ้น แต่มนุษย์ที่เกิดมาจากน้ำอันไร้ค่า ได้ทำให้สังคมมีความตกต่ำมากยิ่งขึ้นจากกลุ่มชนที่อัลลอฮ์ทรงสาปแช่ง คือ “พวกที่สมสู่เพศเดียวกัน”
ขออัลลอฮ์ ให้พวกเรา ครอบครัวของพวกเรา และสังคมของผู้ศรัทธาห่างไกลจากกลุ่มชนที่โดนลงโทษเหล่านี้ด้วยเถิด.........
อามีนญารอบบัลอาลามีน
“และพระเจ้าของเจ้าทรงสร้างสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และทรงเลือก สำหรับพวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการเลือก มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮ์ และพระองค์ทรงสูงส่งจากสิ่งที่พวกเขาตั้งภาคี” (อัลเกาะศ็อศ 68)
ที่มา: pantip.com , www.islammore.com




