จุดจบของกษัตริย์นัมรูด ผู้ตั้งตนเป็นพระเจ้า


2,038 ผู้ชม

ผู้ที่เริ่มกดขี่ข่มเหงบนหน้าแผ่นดินคือ นัมรูด เมื่อฝูงชนของเขา


ได้รายงานโดยท่านอับดุลรอซาก ท่านอิบนุล ญารีร ท่านอิบนุลมุนซีร ท่านอิบนุอาบีฮาติม อาบูอัลเชค ในหนังสือ อัลอุซมะ จากท่านเชคบินอัสลัม กล่าวว่า “ผู้ที่เริ่มกดขี่ข่มเหงบนหน้าแผ่นดินคือ นัมรูด เมื่อฝูงชนของเขาได้ออกไปรับอาหารจากนัมรูด ซึ่งอิบรอฮีมก็ได้ออกไปรับอาหารในครั้งนั้นด้วย เมื่อฝูงชนเดินผ่านหน้านัมรูด เขาจะถามทีละคนว่า “ใครคือพระเจ้าของเจ้า?” ทุกคนก็ตอบว่า “ท่านนั่นแหละคือพระเจ้าของเรา” จนกระทั่งอิบรอฮีมเดินผ่านนัมรูด นัมรูดก็ถามเหมือนกับที่ถามคนอื่นๆ ว่า ใครคือพระเจ้าของเจ้า?” ท่านอิบรอฮีมจึงตอบว่า “ผู้ซึ่งสร้างความเป็นและความตาย” นัมรูดตอบว่า “ฉันก็ทำให้เป็นและให้ตายได้”

ท่านตอบว่า “แท้จริงอัลลอฮ์ให้ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก ท่านจงทำให้มันขึ้นทางทิศตะวันตกสิ” สร้างความงงงวย และความขุ่นเคืองแก่นัมรูดเป็นอย่างมาก จึงไม่อนุญาตให้อิบรอฮีมรับอาหารไป อิบรอฮีมจึงกลับไปหาครอบครัว ในขณะที่ท่านเดินผ่านกองทรายสีเหลือง แล้วกล่าวกับตัวเองว่า หรือฉันจะเอาสิ่งนี้นำไปฝากครอบครัวของฉัน เขาก็เลยนำทรายใส่ภาชนะกลับไป และวางไว้ก่อนที่จะเข้านอน เมื่อเช้ามาภรรยาของท่านก็เปิดออกดู ก็เจออาหารที่ดีที่สุดซึ่งนางไม่เคยพบเห็นมาก่อน นางเลยจัดแจงอาหารและตระเตรียมสำรับไว้ให้อิบรอฮีม ซึ่งอิบรอฮีมเองก็รู้ดีว่า ท่านไม่ได้นำอาหารอะไรกลับมาให้พวกเขาเลย

ท่านจึงถามภรรยาว่า “ท่านเอาอาหารเหล่านี้มาจากไหน” และนางก็ตอบว่า “ก็เป็นอาหารที่ท่านนำกลับมายังไงเล่า” ท่านอิบรอฮีมเลยรู้ว่า อาหารเหล่านี้เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงประทานให้ท่าน เขาจึงกล่าวสรรเสริญและขอบคุณพระองค์ หลังจากนั้น อัลลอฮ์ได้ส่งมลาอีกะห์ไปหากษัตริย์ผู้กดขี่ดังกล่าว เพื่อเชิญชวนให้เขาศรัทธาในพระเจ้า สิ่งที่นัมรูดตอบกลับมาว่า “มีพระเจ้าอื่นนอกจากฉันอีกหรือ?” มลาอีกะห์ก็กลับไป และไปหาเขาอีก เป็นครั้งที่สองและสาม แต่คำตอบที่ได้รับคือเหมือนเดิม เขาปฏิเสธ (และยังท้ารบกับพระเจ้าของอิบรอฮีมอีกด้วย) มาลาอีกะห์ก็กล่าวกับเขาว่า ท่านจงรวบรวมไพร่พลของท่านภายในเวลา 3 วัน นัมรูดจึงรวบรวมกำลังพลของเขา (กองทัพของนัมรูด เป็นกองทัพที่ไม่เคยพ่ายแพ้ เป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในขณะนั้น) อัลลอฮ์จึงรับสั่งให้มลาอีกะห์เปิดประตูของยุงเข้ามาในขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังส่องสว่าง อยู่ๆ ท้องฟ้าเริ่มมืดมัวลง เนื่องจากฝูงยุงที่มากมายปิดบังแสงอาทิตย์หมด อัลลอฮ์ส่งพวกยุงมาเพื่อทำลายพวกเขา มันเข้าไปกัดกินเนื้อตัวของพวกเขา และดูดกินเลือดพวกเขาจนกระทั่งร่างกายของพวกเขาไม่มีอะไรหลงเหลือนอกจากโครงกระดูก

กองทัพที่แข็งแกร่งของนัมรูดแตกกระเจิง แต่ตัวกษัตริย์ผู้กดขี่ยังไม่โดนฝูงยุงเข้าทำร้าย อัลลอฮ์ได้ส่งยุงเพียงตัวเดียวให้เข้าไปในโพรงจมูกของนัมรูด ทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานอยู่หลายสิบปี ด้วยการตีหัวตัวเองด้วยรองเท้า เนื่องจากความเจ็บปวดที่เขาได้รับจนทนไม่ไหว ในขณะที่ผู้พบเห็นการกระทำของเขาดังกล่าวก็รู้สึกเวทนา ทั้งนี้เนื่องจากเขากดขี่ข่มเหงผู้อื่นเป็นเวลาหลายสิบปี อัลลอฮ์ก็ลงโทษเขาให้ทนทุกข์ทรมานเป็นเวลาเท่ากัน และสุดท้ายอัลลอฮ์ก็ให้มาลาอีกะห์เอาชีวิตเขา ผู้ซึ่งเคยสร้างหอคอยสูงเสียดฟ้า และตั้งใจว่าจะขึ้นไปต่อสู้กับพระเจ้าของอิบรอฮีม

สัจจริงคำกล่าวของพระองค์ (แท้จริงบรรดาผู้ฝ่าฝืนอัลลอฮ์ และรอซูลของพระองค์ ชนเหล่านี้อยู่ในหมู่ผู้อัปยศอดสู) ซูเราะห์ อัลมูญาดาละห์ อายะห์ที่ 20 สำหรับผู้ที่พิเคราะห์พิจารณาถึงหน้าประวัติศาสตร์จะเห็นบทสุดท้ายของผู้หยิ่งยะโส ซึ่งจะเป็นบทเรียนและข้อเตือนใจ และแสดงให้เห็นว่าความยิ่งใหญ่นั้นเป็นกรรมสิทธิ์และสิทธิของพระองค์อัลลอฮ์เท่านั้น ผู้เป็นผู้ปกครองแต่เพียงพระองค์เดียว ดังกุรอ่านซูเราะห์ อัลญาซียะ อายะห์ที่ 36-37 ความว่า (ฉะนั้นมวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮ์พระเจ้าแห่งชั้นฟ้า และพระเจ้าแห่งแผ่นดิน พระเจ้าแห่งสากลโลก ความยิ่งใหญ่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และในแผ่นดินนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์เท่านั้น และพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ)

แหล่งที่มา : Al - Ameen

อัพเดทล่าสุด