จรรยามรรยาทอันดีงามแห่งอิสลาม ซูเราะฮฺ อัลมาอูน


3,312 ผู้ชม

ผู้ที่ผลักไส กดขี่ ข่มเหงเด็กกำพร้า ปฏิเสธที่จะให้สิทธิที่พวกเขาพึงได้รับ ไม่ให้อาหาร


อรรถาธิบายอัลกุรอาน 3 ญุซอ์สุดท้าย จากอัตตัฟสีรฺ อัลมุยัสสัรฺ

เจ้าเห็นสภาพของผู้ที่ปฏิเสธการฟื้นคืนชีพและการตอบแทนหรือไม่

นั่นคือ ผู้ที่ผลักไส กดขี่ ข่มเหงเด็กกำพร้า ปฏิเสธที่จะให้สิทธิที่พวกเขาพึงได้รับ ไม่ให้อาหาร หรือความช่วยเหลือใดๆ เลย

จรรยามรรยาทอันดีงามแห่งอิสลาม ซูเราะฮฺ อัลมาอูน

เขาไม่เชิญชวน ส่งเสริมให้ผู้อื่นให้อาหารแก่คนยากจน และนอกจากตัวเขาจะไม่ช่วยเหลือเองแล้ว เขายังไม่ให้ผู้อื่นกระทำด้วย (นั่นคือเมื่อมีคนที่กำลังทุกข์ร้อน ขัดสน ขาดแคลน ต้องการความช่วยเหลือ คนที่เห็นแก่ตัวก็จะไม่สนับสนุนช่วยเหลือคนทุกข์ยากเหล่านั้น)

ความหายนะจงประสบแด่บรรดาผู้ละหมาด (ที่ละเลยการละหมาดของเขา หมายถึงผู้ที่ละหมาดในที่สาธารณะ แต่ไม่ละหมาดในที่ส่วนตัว หรือผู้ที่รักษาการละหมาดอย่างดีในตอนเริ่มต้น และหลังจากนั้นเขาก็ละเลยการละหมาด หรือผู้ที่ละเลยการละหมาดในเวลาของมัน จนกระทั่งทำให้พวกเขาต้องละหมาดนอกเวลาที่กำหนด — จากการรายงานของท่านอิบนุ อับบาส)

บรรดาผู้ที่โอ้อวด แสดงตนด้วยการทำดีให้ผู้อื่นได้เห็นได้ชื่นชม

อีหม่ามอะหฺมัดรายงานว่า นบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า “ผู้ใดก็ตามกระทำการใดการหนึ่งเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงที่ดี อัลลอฮฺจะทรงลดเกียรติของเขาและทำให้เขาต่ำต้อย”

ผู้ที่หวงแหนของใช้เล็กๆ น้อยๆ แก่เพื่อนบ้าน คนในชุมชน หรือปฏิเสธที่จะแสดงความเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก พวกเขาไม่ยอมแม้แต่จะให้การหยิบยืม แก่ผู้ที่ลำบากขัดสน แม้ว่ามันจะเป็นการยืมที่จะได้รับคืนภายหลัง

บทความที่น่าสนใจ:

อัพเดทล่าสุด