นบียูนุส ในท้องปลากี่วัน ประวัตินบียูนุส ย่อ


35,644 ผู้ชม

นบียูนุส ในท้องปลากี่วัน ประวัตินบียูนุส ย่อ โดย อ.อารุณ บุญชม 25 ศาสดาในศาสนาอิสลาม


นบียูนุส ในท้องปลากี่วัน ประวัตินบียูนุส ย่อ

โดย อ.อารุณ บุญชม 25 ศาสดาในศาสนาอิสลาม

นบียูนุส อะลัยฮิสสลาม เขาคือยูนุส บุตรมัตตา ศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) พวกชาวคัมภีร์ บางคนกล่าวว่าเขาชื่อ “ยูนาน บินอิมตายะ” แต่อัลกุรอานได้เล่าประวัติของเขาให้พวกเราได้รับทราบ และได้แนะนําให้พวกเราได้ทราบชื่อและลักษณะต่างๆ ของเขา คือ ยูนุสและซุนนูน หมายถึง เพื่อนของปลาวาฬ

สําหรับเรื่องราวของนบียูนุสกับปลาวาฬนั้นเป็นประวัติมที่มีคําสอนและอุทาหรณ์ที่กินใจ และปลุกสัญชาติญาณให้รําลึกถึงเดชานุภาพอันเกรียงไกรของพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) และความเมตตาของพระองค์ที่มีต่อบ่าวซึ่งวินวอนขออภัยโทษและสํานึกผิด

นบียูนุส ในท้องปลากี่วัน ประวัตินบียูนุส ย่อ

ภาพไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

นบียูนุสในท้องปลาวาฬ

นบียูนุส (อ.ล.)ได้ออกเดินทางไปโดยทิ้งชาวเมืองผู้ปฏิเสธความโปรดปรานของอัลลอฮ์ (ซ.บ.)ไว้เบื้องหลัง บนชายฝั่งทะเลเขาได้พบเรือลําหนึ่งกําลังจะออกเดินทาง เขาจึงขออนุญาตเจ้าของเรืออาศัยเดินทางร่วมไปด้วย พวกนั้นอนุญาตให้เขาโดยสารไปและให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดี เรือได้ออกจากท่ามุ่งหน้าสู่ท้องทะเลลึกและในการเดินทางครั้งนี้ย่อมต้องเกิดเหตุการณ์ต่างๆที่ไม่คาดฝันที่จะแสดงเดชานุภาพอันเกรียงไกรของอัลลอฮ์ (ซ.บ.)แก่นบีของพระองค์ และเพื่อให้ประวัติของนบียูนุสเป็นบทเรียนและอุทาหรณ์แก่บรรดาบ่าวของพระองค์จวบจนถึงวันกิยามะห์

อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ตาอาลาทรงกริ้วโกรธนบียูนุส (อ.ล.) ที่เขาได้ตัดสินใจเลิกทําการเผยแผ่ศาสนาโดยพละการ ไม่ได้รับอนุมัติจากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร และไม่ได้รับวะฮีย์จากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ให้ดําเนินการในสิ่งที่เขาไม่เคยดําเนินการมาก่อน และเพราะเขาละทิ้งหน้าที่ที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้มอบหมายให้เขากระทํา ซึ่งเขาจะต้องต่อสู้ในวิถีทางนั้นจนกว่าอัลลอฮ์ (ซ.บ.) จะให้ภาระหน้าที่ของเขาบรรลุผลหรือเขาจะต้องตายในหน้าที่ ไม่เป็นการเหมาะสมเลยที่เขาจะหลบหนีหน้าที่

เรือได้นํานบียูนุส (อ.ล.) ออกท้องทะเลลึก แต่สายลมที่จะนําเรือไป ไม่เป็นอย่างที่ทุกคนในเรือมุ่งหวัง มันเป็นลมกรรโชกที่พัดกระหน่ํา ทําให้สั่นสะเทือนเกิดคลื่นใหญ่เข้าถาโถมทุกด้านจนทําให้เรือเกือบจมลง เจ้าของและผู้โดยสารคิดหาวิธีการแก้ไขเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันมาก่อน และเป็นเหตุการณ์ที่พวกเขาไม่เคยพบว่า เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้มาก่อนเลย พวกเขาพากันกล่าวว่า คลื่นสูงใหญ่เหล่านี้และกระแสลมที่รุนแรง อย่างนี้ พวกเราไม่เคยพบเห็นมาก่อนและโดยไม่มีสาเหตุใดๆ นอกจาก เพราะอัลลอฮ์ (ซ.บ.) โกรธกริ้วเรือลํานี้

พวกเขาไต่ถามกันว่า เหตุใดอัลลอฮ์ (ซ.บ.) จึงแสดงอาการกริ้วโกรธ อย่างนี้ ? โดยที่ในหมู่พวกเราก็ไม่มีใครที่สมควรได้รับการลงโทษอย่างนี้ ? มีผู้รู้บางคนกล่าวว่า อัลลอฮ์ (ซ.บ.)จะไม่โกรธกริ้วอย่างนี้นอกจากกับบุคคลที่ละเมิดพระองค์ และหันเหออกจากหนทางที่เที่ยงตรง และคนๆ นั้นต้องอยู่ ในหมู่พวกเขานี่เอง และถ้าหากพวกเราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร และนําเขาออกไปจากเรือลํานี้ ภัยพิบัตินี้จะต้องเกิดกับพวกเราทุกคนอย่างแน่นอน

นบียูนุส ในท้องปลากี่วัน ประวัตินบียูนุส ย่อ

ภาพไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

พวกเขาต่างถามกันเซ็งแซ่ว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นใคร ? และ เราจะนําเขาออกไปจากเรือได้อย่างไร ทั้งที่เรือลํานี้อยู่กลางทะเล พวกเขาตกลงกันจับฉลาก ผู้ใดจับฉลากได้ เขาผู้นั้น คือ ผู้ที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) โกรธกร็วและพวกเขาจะคิดหาวิธีนําเขาออกไปจากเรือในภายหลัง

พวกเขานําลูกธนูมาเพื่อทําเป็นฉลาก และทุกคนในเรือจะต้องจับฉลาก และนบียูนุส (อ.ล.) เป็นผู้จับฉลากนั้นขึ้นมาซึ่งแสดงว่าเขาเป็นบุคคลที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงกริ้วโกรธ และเขาจะต้องถูกขับออกมาจากเรือด้วยวิธีการจับโยนลงทะเล

เมื่อนบียูนุส (อ.ล.) ได้ยินมตินี้ เขาเกิดความรู้สึกว่านี่ คือ ผลลัพธ์ที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) กริ้วโกรธเขา และเขาก็รู้ว่ามันเกิดจากความผิดที่เขากระทํา คือ ละทิ้งหน้าที่การเผยแผ่ศาสนาและไม่ต่อสู้ในการทําหน้าที่เป็นศาสนทูตของเขา

แต่ความเมตตาของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) แผ่ไพศาลเหนือทุกสิ่ง อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ส่งปลาวาฬตัวหนึ่งมารออยู่ใต้เรือ และมันก็ได้มารอตามคําบัญชาของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) และมันได้ปฏิบัติหน้าที่ของมันตามที่ได้รับคําสั่ง และมันได้กลายเป็นอุทาหรณ์ถูกระบุไว้ในอัลกุรอานให้ได้อ่านกันจวบจนถึงวันกิยามะห์

ทันทีที่พวกเขาโยนยูนุส (อ.ล.) ลงในท้องทะเล ปลาวาฬได้ให้การต้อนรับเขาด้วยการเปิดปากกลืนเขาทันที เพื่อไม่ให้เขาต้องตายเพราะ จมน้ำทะเล เมื่อคลื่นลมสงบ เรือก็สามารถแล่นไปบนผิวน้ำได้อย่างราบรื่น และปลอดภัยเหมือนกับไม่เคยเกิดคลื่นลมอย่างรุนแรงมาก่อนเลย และคล้ายกับเรือไม่เคยได้เผชิญกับความท้าทายที่เกือบทําให้ทั้งเรือและผู้โดยสารต้องจมน้ำเมื่อไม่กี่นาทีมานี้

การที่ปลาวาฬได้กลืนนบียูนุส (อ.ล.)ไว้นั้น เป็นสัญลักษณ์หนึ่งจากบรรดาสัญลักษณ์ของอัลลอฮ์ (ซ.บ.)ผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร และเป็นหลักฐานยืนยันถึงเดชานุภาพของพระองค์ และความเมตตาแผ่ไพศาลยิ่งของพระองค์อีกด้วย ท้องปลาได้ขยายกว้างขึ้น นบียูนุส (อ.ล.) เข้าไปอยู่ในท้องปลาโดยที่ฟันปลาไม่ได้กระทบร่างกายของเขาแม้แต่น้อย และกระเพาะปลาก็ไม่ได้บดย่อยร่างของเขาอีกด้วย และร่างของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเหทชมือนกับอาหารที่เข้าไปในท้องปลา

นบียูนุส ในท้องปลากี่วัน ประวัตินบียูนุส ย่อ

ภาพไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

นบียูนุส (อ.ล.) อยู่ในท้องปลาเป็นเวลา3 วันเต็ม ด้วยความโปรดปรานด้วยเดชานุภาพของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร ที่ทําให้น้ำย่อยที่รุนแรงในกระเพาะปลาไม่สามารถทําอันตรายอะไรกับนบียูนุส (อ.ล.) ได้ ทั้งที่มันสามารถย่อยสลายกระดูกของปลาหรือสัตว์น้ําต่างๆ ที่มันกลืนเข้าไปในท้องแม้แต่มนุษย์ได้ในเวลาไม่นานนัก และฟันของปลาก็ไม่ได้ทําให้เกิดรอยขีดข่วนใดๆกัน ร่างกายของเขา ทั้งที่ฟันอันแหลมคมนั้นสามารถบดเคี้ยววัตถุที่แข็งที่สุดลงได้

แต่นบียูนุส (อ.ล.)ก็ได้รับความปลอดภัยทั้งชีวิต วิญญาณและสติปัญญาของเขา แม้ว่าท้องทะเลและความแปรปรวนของความกดอากาศในท้องทะเล และความหนาวเหน็บของท้องทะเลที่ไม่อาจทนทานได้ ทั้งหมดที่กล่าวนี้ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดผลใดๆกับ นบียูนุส (อ.ล.) ตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่ในท้องปลา เพราะเขาได้ทุ่มเทชีวิต ให้กับการกล่าวคํารําลึกถึงอัลลอฮ์ (ซ.บ.) และสดุดีของพระองค์ เขาไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าเวลาที่ผ่านพ้นไปนั้นเป็นเวลาเช้าหรือเวลาเย็น เป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน เขามีความสับสนในเรื่องเวลาและเวลาก็ไม่ได้มีความแตกต่างสําหรับเขา เขายังอยู่ในท้องปลาอย่างสงบ นบียูนุส (อ.ล.)ไม่มุ่งหวังสิ่งใดอีกแล้วนอกจากการอภัยจากพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ผู้อภิบาลสากลจักรวาล

นบียูนุส (อ.ล.) อยู่ในท้องปลา เขาไม่ได้วุ่นวายกับการหาหนทางออก แต่สิ่งที่เขาแสวงหานั้น คือ ความพอพระทัยและการให้อภัยจากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ตาอาลา และความเมตตาของพระองค์ นบียูนุส (อ.ล.) กล่าวคําสดุดีพร้อมด้วยสรรเสริญของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) และวิงวอนขออภัย และยกโทษอยู่ตลอดเวลา และนบียูนุส (อ.ล.) ได้ทิ้งคําวิงวอนดังกล่าวนั้นไว้ให้แก่พวกเรา ซึ่งอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ให้เป็นสาเหตุในการช่วยให้เขารอดพ้นและช่วยคลายความโศกเศร้าให้แก่เขา เพราะเขาพร่ำกล่าวอยู่เสมอว่า

ซึ่งมีความหมายว่า “ไม่มีพระเจ้าที่ถูกสักการะโดยเที่ยงแท้ เว้นแต่พระองค์ท่านเท่านั้น แท้จริงฉันเป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้ทุจริต”

อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ตอบสนองคําวิงวอนของนบียูนุส (อ.ล.) เพราะอัลลอฮ์ (ซ.บ.)ทรงอภัยยิ่ง ทรงเมตตายิ่ง และเพราะพระองค์ใกล้ชิดกับบ่าวยิ่งกว่า เส้นเลือดที่อยู่ข้างลําคอ พระองค์จะตอบรับคําวิงวอนของผู้ที่วอนขอเมื่อเขาได้วิงวอนขอต่อพระองค์ และพระองค์จะทรงให้อภัยทรงไม่ถือโทษและทรงเมตตา พระองค์คือผู้ทรงเมตตายิ่งจากบรรดาผู้เมตตาทั้งหลาย

และด้วยบัญชาจากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ปลาวาฬได้ออกไปที่ชายฝั่งทะเล และได้คายร่างนบียูนุส (อ.ล.) ออกจากท้องของมันและได้เหวียงเขาขึ้นไปบนฝั่ง และในท่ามกลางแสงอาทิตย์ แสงสว่างและอากาศ ซึ่งก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในชีวิตของเขาจากความมืดมิดของท้องปลา ซึ่งมันพาเขาแหวกว่ายไปในท้องทะเลอันมืดมิดสู่แสงสว่างของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) บนผืนดิน แต่ทว่านบียูนุส (อ.ล.) มิได้อยู่ในร่างกายที่เป็นปกติธรรมดาจะเป็นปกติได้อย่างไร ผู้ที่ต้องเผชิญกับการทดสอบนี้เป็นเวลา3 วันติดต่อกันในความมืดมิด ภายใต้ความมืดมิด โดยไม่มีอาหารและเครื่องดื่ม พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) เพียงผู้เดียวที่ทรงทราบ ว่าช่วงเวลาดังกล่าวนั้น นบียูนุส (อ.ล.) ได้นอนหลับหรือไม่ หรือการนอนก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สําหรับเขาด้วยเช่นกัน

นบียูนุส ในท้องปลากี่วัน ประวัตินบียูนุส ย่อ

ภาพไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

นบียูนุส (อ.ล.) ป่วยไข้เหน็ดเหนื่อยและหิวโหย อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ให้ต้นน้ำเต้ามหึมางอกงามขึ้นมา และมันได้แผ่ใบของมันปกคลุมร่างของนบียูนุส (อ.ล.) เพื่อปกป้องนบียูนุส (อ.ล.)จากความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ และเพื่อนบียูนุส (อ.ล.)จะได้นําผลของมันมาเป็นอาหาร เพื่อขจัดความหิวโหยอันทรมาน นบียูนุส (อ.ล.) ดีใจมากที่ได้รับต้นน้ำเต้า อย่างที่ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้จะเทียบได้ นบียูนุส (อ.ล.)ดูแลเอาใจใส่ต้นน้ำเต้านั้น เหมือนที่ชาวไร่ดูแลเอาใจใส่ต้นไม้ที่หวงแหนอย่างที่สุดของเขา นบียูนุส (อ.ล.) นําน้ำมารดต้นน้ำเต้าและนอนหลับพักผ่อน ภายใต้ร่มเงาของมันอย่างรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง

ชีวิตของนบียูนุส (อ.ล.)ดีวันดีคืนอยู่ในสถานที่แห่งนั้น และเขาคิดว่าต้นไม้นี้ ก็เพียงพอแล้วสําหรับเขา แต่อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ประสงค์ให้เขาได้รําลึกถึงหน้าที่อันสําคัญยิ่งของเขาที่พระองค์แต่งตั้งเขามาเพื่อทําหน้าที่นั้น อัลลอฮ์ (ซ.บ.) จึงได้ส่งสัตว์ที่มีฟันแหลมคมตัวเล็กมากัดแทะรากและโคนต้นน้ำเต้าจนตาย กิ่งมันเริ่มเหี่ยวเฉาและใบก็แห้ง จนไม่สามารถให้ร่มเงาและให้อาหารแก่เขาได้อีกต่อไป

อัลกุรอานได้นําเสนอชีวประวัติของนบียูนุส (อ.ล.) ให้พวกเราได้เรียนรู้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ผู้มีสติปัญญา ชีวประวัติของท่านไดดกล่าวไว้หลายแห่งในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ตาอาลา ได้ตรัสว่า 

“แท้จริงยูนุสนั้นเป็นคนหนึ่งจากบรรดาศาสนทูต จงรําลึกขณะที่เขาได้หนีไปยังเรือที่บรรทุกผู้คนอยู่เต็มเพียบ ต่อมาเขาได้ร่วมจับฉลาก และเขาได้ฉลากที่จะต้องถูกโยนลงจากเรือ แล้วปลาตัวใหญ่ได้กลืนเขา โดยที่ เขาก็สมควรถูกตําหนิ และถ้าหากเขาไม่ใช่เป็นผู้หนึ่งที่สดุดีอัลลอฮ์ (ซ.บ.) แล้ว เขาจะต้องอยู่ในท้องปลาจวบจนวันที่ผู้คนจะถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง อย่างแน่นอน ต่อมาเราได้เหวี่ยงเขาขึ้นบนที่โล่งริมฝั่งในสภาพของผู้ป่วย และเราได้ให้มีต้นไม้เลื่อยคือต้นน้ำเต้างอกเงยออกมาปกคลุมตัวเขา และเราได้ส่งเขาไปยังเมืองหนึ่งที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจํานวนแสนหรือมากกว่านั้น พวกเขาได้มีอีหม่านศรัทธา ดังนั้นจึงให้พวกเขาได้มีความสุขสําราญชั่วระยะเวลาหนึ่ง” (อัซซอฟฟาต : 139-148)

และในซูเราะห์อัลกอลัม อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ตาอาลา ได้ปลอบใจท่านนบี (ซ.ล.) และเตือนเขาไม่ให้สิ้นหวัง จนไปกระทําเหมือนที่นบียูนุส (อ.ล.) ได้กระทําลงไป พระองค์ตรัสว่า

"ดังนั้น โอ้มุฮัมมัด เจ้าจงอดทนต่อไปเถิดต่อคําตัดสินขององค์อภิบาลของเจ้าและอย่าเป็นเช่นเพื่อนของปลา (นบียูนุส) เมื่อเขาได้วิงวอนในสภาพที่เขาต้องระทมทุกข์ หากมิใช่เพราะความเมตตาจากอภิบาลของเขาที่มีมายังเขาแล้ว เขาคงถูกเหวี่ยงไปยังที่โล่งเตียน และทรงให้เขาอยู่ในหมู่ผู้ทําความดี” (อัลกอลัม : 48-50)

และในซูเราะห์อัลอัมบิยา ได้กล่าวถึงคําวิงวอนที่ยูนุสใช้วิงวอนขอต่อองค์อภิบาลของเขา และพระองค์ก็ได้ช่วยเหลือเขา และช่วยให้เขาพ้นจาก ความหม่นหมองและโศกเศร้า เมื่อพระองค์ทรงตรัสว่า

“และจงรําลึกเรื่องราวของซันนูน(นบียูนุส) เมื่อเขาเดินทางออกไป ด้วยความโกรธเคืองพวกพ้องของเขา เขาคิดว่าเราไม่สามารถจะทําให้เขาได้รับความยากลําบาก แล้วเขาก็ได้อ้อนวอนในท่ามกลางความมืดมิดว่า ไม่มีพระเจ้าที่ถูกสักการะโดยเที่ยงแท้นอกจากพระองค์ท่าน มหาบริสุทธิ์แด่ พระองค์ท่าน แท้จริงฉันเป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้ทุจริต” (อัลอัมบิยาอ์ : 87-88)

มุสลิมไทยโพสต์

https://islamhouse.muslimthaipost.com/

อัพเดทล่าสุด