มุสลิมกักตุนสินค้า (จำหน่ายราคาสูง) บาปอันมหันต์นะจ้า


2,679 ผู้ชม

ท่านนบีของเรากำชับการกักตุนสินค้า หรือการกักตุนอาหาร หรือสิ่งซึ่งมีความต้องการในเวลานั้นๆ ไม่ยอมปล่อยสินค้าออกสู่ท้องตลาด...


มุสลิมกักตุนสินค้า (จำหน่ายราคาสูง) บาปอันมหันต์นะจ้า

บทความโดย อ.มุรีด ทิมะเสน

ท่านรสูลุลลอฮฺ กล่าวว่า:

مَنِ احْتَكَرَ فَهُوَ خَاطِئٌ

“บุคคลใดกักตุนสินค้า (หรืออาหาร เพื่อนำมาจำหน่ายในราคาที่สูง) เช่นนั้นเขาคือผู้ซึ่งกระทำบาป (แล้วนั่นเอง)” (หะดีษเศาะหี้หฺ, บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 1605)

สิ่งที่ได้รับจากหะดีษ

อิสลามห้ามในเรื่องดอกเบี้ย ทว่าส่งเสริมเรื่องการค้าขาย โดยเฉพาะการค้าขายที่ยุติธรรม ปราศจากการโกหกหลอกลวง และการเอากำไรเกินควร อีกทั้งยังห้ามค้าขายและกักตุนสินค้าไว้ก่อน ปล่อยระยะเวลาสักพัก ครั้นพอสินค้าขาดตลาดก็นำออกจำหน่ายในราคาแพงสูงลิ่ว

ท่านนบีของเรากำชับการกักตุนสินค้า หรือการกักตุนอาหาร หรือสิ่งซึ่งมีความต้องการในเวลานั้นๆ ไม่ยอมปล่อยสินค้าออกสู่ท้องตลาด ทั้งๆ ที่สินค้าดังกล่าวเป็นที่ต้องการของผู้คนจำนวนมาก แต่ยังไม่ยอมปล่อยออกจำหน่าย ทิ้งช่วงสักระยะเวลาหนึ่ง ครั้นผู้คนโหยหา หรือปรารถนาอย่างแรงกล้า จึงปล่อยสินค้านั้นออกจำหน่ายด้วยราคาแพงกว่าปกติหลายเท่านั้นนัก นี่หละเรียกว่า “การกักตุนสินค้า” ท่านนบีห้ามเอาไว้อย่างชัดเจน ถึงกลับกล่าวว่า ผู้กักตุนสินค้านั้น คือ ผู้กระทำบาปมีความผิดอันมหันต์นัก, ที่จริงคนที่ได้ชื่อว่าพ่อค้า (แม่ค้า) นั้นคือผู้บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้คนให้ได้รับความสะดวก

ส่วนเรื่องกำไรนั่นได้ผลกำไรอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ผลกำไรคือ การแสวงหาประโยชน์บนความทุกข์ของผู้อื่น นั่นไม่เรียก “กำไร” แต่เรียกว่า “การเอารัดเอาเปรียบ ขูดเลือดขูดเนื้อผู้ซึ่งได้รับความเดือนร้อน” การสร้างกำไร หรือผลประโยชน์บนความเดือนร้อนของผู้อื่น อิสลามเรียกว่าเขาผู้นั้นว่า “คนบาป” กำไรที่ได้มาก็คือ “เงินบาป” ด้วย

ยิ่งผู้คนเขาเดือดร้อน เรายิ่งต้องให้เขา, บริการเขา หรือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เขา ไม่ใช่ไปเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น เห็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์ก็ตักตวงจนไม่สนใจว่าใครเขาจะเดือนร้อนอย่างไร? ฉันขอกอบโกยเสียก่อน ยิ่งเรามีตำแหน่งซึ่งสามารถกักตุนสินค้าได้ แต่เราไม่กักตุน เร่งปล่อยสินค้าบริการชาวบ้าน นี่หละคือสุดยอดแห่งการทำบุญ หรือการคลายความทุกข์ของผู้เดือดร้อน

แต่ถ้าเรามีตำแหน่งรู้ช่องทางกักตุน หวังเพียงเงินทองอันมหาศาล แล้วปล่อยสินค้าแก่ผู้คนโหยหา พร้อมราคาสูงลิ่ว เพราะยังไงผู้คนก็ต้องซื้ออยู่วันยังค่ำ นี่หละที่อิสลามเรียกว่า “ผู้ก่อการบาป” ตัวจริง

อัพเดทล่าสุด