อิสลามกับการประท้วง


2,656 ผู้ชม

ศาสนาของเราไม่ใช่ศาสนาแห่งความปั่นป่วน แต่ศาสนาของเรานั้นคือศาสนาที่มีแบบแผน เป็นศาสนาที่มีความเป็นระบบระเบียบและเป็นศาสนาแห่งความสันติ...


อิสลามกับการประท้วง

โดย...อับดุลบารีย์ นาปาเลน

วิธีการที่ดีงาม และนิ่มนวลถือว่าเป็นหนทางที่ดีในการยอมรับความถูกต้อง และวิธีที่หยาบคายและแข็งกระด้างถือว่าเป็นหนทางที่อันตรายในการเรียกร้องความถูกต้อง เช่น การใช้ความรุนแรง การขู่เข็ญ การต่อสู้ การประกาศความเป็นศัตรู และการทำลายข้าวของ หรือการเดินประท้วงที่มีกันอย่างเกลื่อนกลาดที่เราเห็นกันมาก

การเดินประท้วง หรือการหักไม้เท้าผู้นำ มิใช่หนทางแห่งการแก้ไขและเรียกร้องไปสู่ความดี หนทางที่ถูกต้องนั้นต้องด้วยกับการเยี่ยมเยียน การตักเตือนด้วยความนิ่มนวลและลับๆ หรือไม่ก็ด้วยการเขียนจดหมายด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โดยปราศจากการประจาน หรือแฉความชั่วในหมู่ชน พร้อมกับการขอวิงวรณ์จากอัลลอฮ์(ซ.บ.)ให้ทางนำที่ดีแก่เขา  และต้องมีมุมมองต่อพี่น้องของเขาในแง่ดี คิดว่าไม่มีผู้ใดที่จะมีความสมบูรณ์นอกจากท่านนบี (ซ.ล.) เท่านั้น

ท่านนบี(ซ.ล.) ของเราในขณะที่ท่านอยู่ที่มักกะฮ์ เรียกร้องผู้คนไปสู่สัจธรรมเป็นเวลาสิบสามปี ท่านไม่เคยใช้วิธีการเดินประท้วง และไม่ได้ขู่เข็ญผู้คน หรือประจาน หรือลอบสังหารผู้คนแต่อย่างใด ทั้งๆที่ผู้ศรัทธาในช่วงนั้นถูกโจมตีรังแกจากรัฐบาลมักกะอย่างหนัก บางคนต้องถูกฆ่าตาย บางคนต้องถูกหินไฟมาทับ บ้างก็เห็นพ่อแม่ของตัวเองโดนสังหารต่อหน้าต่อตา ถึงเช่นนั้นแล้ว ท่านนบี (ซ.ล.) ก็ยังปลอบใจพวกเขาให้มีความอดทน และได้สัญญาแก่พวกเขาด้วยสวรรค์จะเป็นที่พำนัก  และในสุดท้ายที่ท่านเปิดเมืองมักกะห์โดยที่ท่านไม่ต้องการที่จะสังหารผู้ใดสักคน แถมท่านยังให้อภัยต่อทุกคนที่เคยทำร้ายท่านในอดีต

ส่วนผู้เดินประท้วงนั้นมีเจตนาที่ต้องการความเป็นธรรมหรือเรียกร้องให้ความดีกลับมา  แต่ที่ไหนได้พวกเขากลับต้องไปเผชิญกับความชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น มีการถูกทำร้าย ฆ่าฟันกัน เสียเลีอดเนื้อและสูญเสียทรัพย์สินไปมากมาย และกลับมีแต่ความอาฆาตพยาบาทซึ่งกันและกัน ชีวิตและครอบครัวผู้ตายใครจะรับผิดชอบ  ฉะนั้นเราต้องไตร่ตรองผลที่จะตามมาหลังจากการกระทำนี้ด้วย

สังเกตุเห็นการชุมนุมประท้วง อะไรกันหรือที่พวกเขาทั้งหลายเรียกร้อง มีบ้างไหมที่พวกเขาเรียกร้องไปสู่อิสลาม หรือต้องการใช้กฎหมายอิสลาม หรือพวกเขาเรียกร้องใช้กฎหมายที่แต่งมาโดยความคิดของมนุษย์  หรือบรรดาแกนนำต้องการเงินทองหรือหวังอยากได้ตำแหน่งในดุนยากันแน่ !  และความชั่วที่เห็นในการเดินขบวนหรือประท้วง จะเห็นได้ว่ามีการปะปนกันระหว่างหนุ่มสาว เป็นสาเหตุที่นำมาโดยความชั่วและปัญหาต่างๆ  และได้ทีหมาจิ้งจอกที่คอยหาแกะที่หลงฝูง

และที่หนักไปกว่านั้น บรรดาผู้เดินประท้วงได้ชี้กริยามารยามที่เลวทรามของตัวเองออกมา ไม่ว่าจะเป็นการด่าทอ การโห่ร้องด้วยความหยาบคาย และนี่หรือกริยามารยาทของอิสลาม แบบนี้หรือมารยาทของท่านนบี (ซ.ล.) นี่ไม่ใช่นิสัยจากท่านนบี(ซ.ล.) แน่นอน  พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ทรงห้ามด่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาด้วยซ้ำ พระองค์ได้ทรงตรัสว่า

((وَلاَ تَسُبُّواْ الَّذِينَ يَدْعُونَ مِن دُونِ اللّهِ فَيَسُبُّواْ اللّهَ عَدْوًا بِغَيْرِ عِلْمٍ كَذَلِكَ زَيَّنَّا لِكُلِّ أُمَّةٍ عَمَلَهُمْ ثُمَّ إِلَى رَبِّهِم مَّرْجِعُهُمْ فَيُنَبِّئُهُم بِمَا كَانُواْ يَعْمَلُونَ))

“ และพวกเจ้าจงอย่าด่าว่า บรรดาผู้ที่วิงวรณ์ขออื่นจากอัลลอฮ แล้วพวกเขาจะด่าว่าอัลลอฮ์เป็นการละเมิด....” 

( อัลอันอาม / ๑๐๘)

ท่านนบี (ซ.ล.) ก็สั่งหามมิให้ผู้ศรัทธานั้นมีนิสัยด่าทอ หรือพูดทิ่มแทงผู้อื่น

عَنْ عَبْدِ اللَّهِ، عَنِ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ: «لَيْسَ الْمُؤْمِنُ بِالطَّعَّانِ، وَلَا اللِّعَانِ، وَلَا الْفَاحِشِ وَلَا الْبَذِيءِ»

"ท่านร่อซูลุลลอฮ์ (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นผู้ศรัทธาผู้ที่ชอบตำหนิ(ผู้คนทั้งหลาย) ผู้ที่ชอบสาปแช่ง ผู้ที่ด่าทออย่างน่ารังเกียจ และผู้ที่พูดหยาบคาย"

(รายงานโดยบุคอรีย์ ในอัลอาดับอัลมุฟร็อด)

และการแสดงนิสัยเลวๆแบบนี้เป็นการทำลายการดะวะห์อิสลามด้วย แน่นอนอย่างยิ่ง หากผู้ปฏิเสธศรัทธาได้มาเห็นนิสัยความหยาบคายของมุสลิมที่มาประท้วงแล้วทำให้พวกเขาเข้าใจว่านี่หรือนิสัยของผู้ที่อยู่ในศาสนานี้ และทำให้พวกเขามีข้อรังเกียจอิสลามในที่สุด ซึ่งขัดกับเป้าหมายอิสลามและหลักการดะวะห์อย่างมาก

ข้อผิดที่เห็นอีกคือ การใช้ถนนหนทางในการชุมนุมประท้วง เป็นการทำให้ผู้สัญจรไปมาได้รับความเดือดร้อน ได้มีฮะดิษที่ถึงขนาดไม่สนับสนุนให้นั่งริมถนนด้วยซ้ำไป เพราะอาจจะทำความเดือดร้อนต่อผู้สัญญจร

จากอบีซาอีด อัลคุดรี (รอดียัลลอฮูอันฮฺ) ท่านนบี (ซ.ล.)  ได้กล่าวว่า “ พวกท่านทั้งหลายจงระวังจากการนั่งตามท้องถนน”

พวกเขาเลยถามว่า “โอ้ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ มันเป็นเพียงแค่วงสนทนาของเรา”

ท่านเลยตอบว่า “เมื่อพวกท่านหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันก็เป็นเพียงวงสนทนา พวกท่านก็จงให้สิทธิแก่ท้องถนน”

พวกเขาถามว่า “สิทธิของท้องถนนคืออะไร โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ?”

ท่านตอบว่า “คือ การลดสายตาลงต่ำ การงดการก่อกวน/เบียดเบียน (ผู้อื่น) การกล่าวตอบสลาม และการกำชับให้ทำความดีและห้ามปรามการกระทำชั่ว”

ยังมีบางคนแอบอ้างว่า เราประท้วงด้วยการใช้สันติวิธี ปราศจากความรุนแรง ก็อาจจะเป็นจริงในตอนแรกเริ่ม แต่สุดท้ายก็จะนำไปสู่ความรุนแรงในที่สุด

การประกาศออกจากผู้นำ ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในหมู่บรรดาพวกคอวาริญ  ที่พวกเขาจะคอยแก้ความชั่วด้วยการใช้อาวุธอย่างเดียว และเห็นต่อผู้ที่มีแนวคิดตรงข้ามพวกเขาด้วยกับการฆ่า ทำลายแถวของผู้ศรัทธาให้แตก  และโยนการเป็นกาเฟรแก่คนอื่นอย่างง่ายๆ เป็นการให้ท่าทีแก่ศัตรูอิสลาม เปิดช่องว่างให้พวกเขามาทำลายมุสลิม และบาปใหญ่ที่พวกเขาเคยก่อไว้ในอดีตคือการสังหารท่านอุสมานบินอัฟฟาน โดยที่ท่านไม่ได้มีความผิดใดๆ แต่สาเหตุก็มาจากการยุยงของพวกยิว อับดุลเลาะบินซะบะอฺ และการประท้วงในทุกวันนี้ก็หนีไม่พ้นจากแผนการของพวกยิวเช่นกัน ที่คอยให้มุสลิมเข่นฆ่ากันเอง

การเรียกร้องของท่านนบี (ซ.ล.) และบรรดาสาวกนั้น พวกเขาใช้วิธีการอย่างสุขุมรอบครอบ การตักเตือนให้มีความอดทน และหวังผลการตอบแทนในโลกหน้า

 จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “นี่คือแนวทางของฉัน  ฉันเรียกร้องไปสู่อัลลอฮ์อย่างประจักษ์แจ้งทั้งตัวฉันและผู้ปฏิบัติตามฉัน และมหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮ์ ฉันมิได้อยู่ในหมู่ตั้งภาคี ” (ยูซุฟ ๑๐๘)

ฟาหโรอ์ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ดื้อดึงมาก อัลลอฮ์(ซ.บ.) ยังสั่งใช้ให้ท่านนบีมูชากับฮารูนไปหาเขาและพูดกับเขาด้วยคำพูดที่นิ่มนวล ทั้งๆที่เขาเคยกล่าวว่า ฉันคือพระเจ้าของพวกเจ้าที่สูงส่ง แต่เพื่อว่าเขาอาจจะสำนึกได้ และกลับมายำเกรงต่ออัลลอฮ์

“ เจ้าทั้งสองจงไปหาฟิรเอานฺแท้จริง เขายโสโอหังมาก แล้วเจ้าทั้งสองจงพูดกับเขาด้วยคำพูดที่อ่อนโยน บางทีเขาอาจจะรำลึกขึ้นมาหรือเกิดความยำเกรงขึ้น” (สูเราะฮฺฏอฮา 20 : 43-44)

ฉะนั้น ถ้าเป้าหมายดีแล้ว วิธีการก็ต้องถูกด้วย  ดังนั้น  ขอเรียกร้องพี่น้องตรงนี้  และในวิกฤติแบบนี้ ให้มายึดแนวทางจากอัลกุรอ่านและซุนนะ แบบฉบับของท่านนบี(ซ.ล.) ที่อัลลอฮ์ทรงรับรอง

“ โดยแน่นอน ในร่อซูลของอัลลอฮ์ มีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว สำหรับผู้ที่หวัง (จะพบ) อัลลอฮ์และวันปรโลก และรำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมาก “(อัลอะห์ซาบ ๒๑ )

พวกเราจะต้องตามแบบฉบับของบรรดาสาวกของท่าน และเราก็มีหวังจะเป็นผู้ที่อัลลอฮ์(ซ.บ.)ทรงพอพระทัย เพราะพระองค์ทรงยกย่องชาวบรรดาชาวมูฮาญีรีนและชาวอันศอรฺ และยกย่องบรรดาผู้ดำเนินตามพวกเขาด้วยดี

“ บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่ผู้อพยพ(ชาวมุฮาญิรีนจากมักกะฮ์) และในหมู่ผู้ให้ความช่วยเหลือ(ชาวอันศอรจากมะดีนะฮ์)

และบรรดาผู้ดำเนินตามพวกเขาด้วยการทำดีนั้น อัลลอฮ์ทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย

และพระองค์ทรงเตรียมไว้ให้พวกเขาแล้ว ซึ่งบรรดาสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านอยู่เบื้องล่างพวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล

นั่นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง”  (อัตเตาบะห์ ๑๐๐)

ที่มา: www.islammore.com

อัพเดทล่าสุด