ก่อนอื่นผมใคร่ขอตักเตือนท่านทั้งหลาย และตัวของกระผมเอง จงพยายามอยู่ในความยำเกรง ตักวาต่ออัลเลาะห์ ให้มาก ๆ เถิด
จงตักเตือนครอบครัวในเดือนรอมฎอน
โดย: อาจารย์ อิบรอฮีม และซัน
ก่อนอื่นผมใคร่ขอตักเตือนท่านทั้งหลาย และตัวของกระผมเอง จงพยายามอยู่ในความยำเกรง ตักวาต่ออัลเลาะห์ ให้มาก ๆ เถิด โดยประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่พระองค์ทรงใช้ และห่างไกลจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม
ท่านพี่น้องที่เคารพ วันเวลา เดือนแห่งการรอคอยของผู้ศรัทธา มาถึงพวกเขาแล้วอีกครั้ง นั่นคือ เดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ความดีใจ ปลื้มปิติ ที่จะได้มีโอกาสตักตวงบุญกุศล และขอลบล้าง อภัยโทษต่อพระองค์อัลเลาะห์ที่เกิดขึ้นในหัวใจของผู้ศรัทธา ที่พวกเขามุ่งหวังที่จะนำพาเป็นเสบียง สะสมไว้ในโลกหน้าอาคิเราะห์ เพื่อที่จะได้รับความสุข ความเมตตา และพ้นจากการลงโทษของพระองค์ ทั้งในหลุมฝังศพ และวันอาคิเราะห์ มันเป็นความรู้สึกของผู้ศรัทธาทุกคน ที่ใจจด ใจจ่อ รอคอยมาเป็นเวลา 1 ปี
แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ไม่ศรัทธา หรือผู้ศรัทธาอ่อนแอ ก็อาจจะมีความรู้สึกว่า เดือนนี้มาทำให้พวกเขายุ่งยาก ลำบากใจ กินไม่ได้ ดื่มไม่ได้ ทำอะไรตามใจชอบไม่ได้ เพราะกลัวผู้คนเขาจะว่า ตำหนิติเตียน ชอบแอบที่จะกิน ดื่ม ในเวลากลางวัน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีข้อผ่อนผันตามหลักศาสนา และยิ่งไปกว่านั้นอีก สำหรับผู้ที่ไม่แคร์ ไม่เกรงกลัวสายตาของมนุษย์ และต่อบทบัญญัติของพระองค์ พวกเขาก็จะกิน ดื่ม ดูดบุหรี่อย่างเปิดเผย โดยไม่เกรงกลัวการลงโทษของพระองค์อัลเลาะห์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาตาย
ขอพวกเราจงว่ากล่าวตักเตือนคนที่อยู่ในครอบครัวของเรากันให้มากเถิด อย่าให้พวกเขาทำอะไรที่เป็นการท้าทายอาญาของพระองค์อัลเลาะห์ ขอพวกเราจงเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับครอบครัว ชี้นำ ชี้แนะ ให้ไปสู่หนทางที่ดีงาม ห้ามปรามการละเมิดบัญญัติของอัลเลาะห์
ไม่มีวันคืนไหนจะมาชื่นใจ เท่ากับวันคืนในเดือนรอมฎอนที่จะมาถึง กลางวันเราได้ถือศีลอด ได้อดทน ได้สนองพระบัญชา ได้ละหมาดกราบซุหยูด ในขณะที่เรากำลังถือศีลอดในเดือนรอมฎอน เราทุกคนต่างแสดงความยำเกรงต่ออัลเลาะห์ ออกมาให้ปรากฏ ใครที่ถือศีลอดด้วยใจศรัทธา ด้วยความภักดี ชีวิตของเรานี้ก็ไม่ไร้ค่า บาปกรรมของเราที่เคยทำมา จะได้รับการลบล้าง บุญกุศลของเราก็จะมีเพิ่มพูน เพราะองค์อัลเลาะห์ ทรงสัญญาไว้กับพวกเราบ่าวของพระองค์แล้ว ดังที่ท่านนบี ได้บอกกล่าวไว้
مَنْ صَامَ رَمَضَانَ إِيْمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَ لَهُ مَاتَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ
“ผู้ใดที่เขาถือศีลอดด้วยใจศรัทธา และด้วยความบริสุทธิ์ใจ เขาจะได้รับการอภัยบาปที่เขาได้กระทำล่วงผ่านมา”
และในทุก ๆ ค่ำคืนของเดือนรอมฎอนก็จะมีมลาอิกะห์ ประกาศเรียกร้องเชิญชวนมวลบ่าวของอัลเลาะห์ ให้มาทำความดี ดังที่ท่านนบี กล่าวว่า
وَيُنَادِيْ مُنَادٍ كُلَّ لَيْلَةٍ يَابَاغِيَ الْخَيْرِ هَلُمَّ وَيَابَاغِيَ الشَّرِّ أَقْصِرْ
“และจะมีผู้ป่าวประกาศเป็นประจำในทุก ๆ คืน ในเดือนรอมฎอนว่า โอ้บรรดาผู้ที่ใฝ่หาความดี จงมาสู่การภักดีต่ออัลเลาะห์เถิด โอ้ผู้ที่ยังใฝ่หาเรื่องชั่ว จงได้ยุติเสียเถิด”
เมื่อยามกลางวันเราถือศีลอด ขอให้รักษาศีลอดให้สมบูรณ์เรียบร้อย ขอให้สำนึกไว้ด้วยว่า การถือศีลอดนั้น ไม่ใช่ให้เราอดอาหาร อดน้ำดื่ม แต่เพียงเรื่องเดียว แต่เราต้องอดใจไม่คิดเรื่องชั่ว อดปากไม่พูดเรื่องที่ไร้สาระ ไม่พูดเรื่องบาปเรื่องละเมิดคนอื่น อดการเดินไปในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม หาทางให้หูของเราถือศีลอดด้วย ไม่ไปรับฟังคัมภีร์ของชัยตอน พวกเสียงเพลง เสียงดนตรี ให้หูของเราได้ฟังแต่เสียงที่ดี ๆ เสียงที่มีกุศล เช่น เสียงอ่านอัลกุรอาน ยิ่งปากของเราอ่านอันกุรอาน หูของเราได้รับฟังไปด้วย เรื่องนี้ยิ่งดี เพราะปากอ่าน หูฟัง
และหากเอาคัมภีร์อัลกุรอานมาเปิดอ่านด้วย ตาของเราจะได้ดูอักษรของอัลกุรอาน แบบนี้บุญกุศลมหาศาล คิดไม่ถ้วนคำนวณไม่ได้ อย่าปล่อยให้ชีวิตสูญเปล่าในเดือนรอมฎอน อย่าถือศีลอดแล้วทอดทิ้งละหมาด เพราะความดีทุกแขนงต้องทำควบคู่กันไป ถือศีลอดก็ประเสริฐ ละหมาดก็สำคัญเหมือนตัวเรา จะไปไหนต้องมีศีรษะควบคู่ไปด้วย ไม่ใช่ไปแต่ตัวแล้วหัวไม่มี
เดือนรอมฎอนเป็นเดือนเก็บเกี่ยวอิบาดะห์ทุกชนิด กลางวันเราถือศีลอด ส่วนในตอนกลางคืนเราทำละหมาดสุนัต ตื่นมาทำอิบาดะห์ให้มาก เรื่องนอนเราอย่าไปกังวลกับมันให้มากเกินไปนัก เพราะเมื่อเราไปอยู่ในกุโบรแล้วจะได้ไปนอนรอวันกิยามะห์นานแสนนาน กลางวันเราถือศีลอดด้วย ทำงานด้วย ละหมาดฟัรดูด้วย ส่วนกลางคืนมามัสยิด มาร่วมละหมาดตะรอเวี๊ยะฮ์พร้อมวิเตร เอี๊ยะติกาฟที่มัสยิด แล้วชีวิตของเราจะดีขึ้น ท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) กล่าวว่า:
إِنَّ اللهَ تَبَارَكَ وَتَعَالَى فَرَضَ صِيَامَ رَمَضَانَ عَلَيْكُمْ وَسَنَنْتُ لَكُمْ قِيَامَهُ فَمَنْ صَامَهُ وَقَامَهُ إِيْمَانًا وَاحْتِسَابًا خَرَجَ مِنْ ذُنُوْبِهِ كَيَوْمٍ وَلَدَتْهُ أُمُّهُ رواه النسائى واحمد
“แท้จริงอัลเลาะห์ได้ทรงมีบัญญัติการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนแก่พวกท่านทั้งหลาย และตัวฉันก็ได้ทำแบบอย่างไว้สำหรับพวกท่านในเรื่องของการตื่น เพื่อทำการอิบาดะห์ในตอนกลางคืนของเดือนรอมฎอน
ดังนั้นผู้ใดที่เขาถือศีลอด และไม่หลับนอน เพื่อการทำอิบาดะห์ในเดือนรอมฎอนตามแบบฉบับของฉัน โดยศรัทธาและบริสุทธิ์ใจ เขาจะได้ออกจากมวลบาปของเขา ประดุจดังวันที่มารดาของเขาได้คลอดเขาออกมา”
(รายงานโดยอันนะซาอี และอะหมัด)
ในเดือนรอมฎอนจะขัดสีตัวเราให้เกลี้ยงสะอาดปราศจากบาปเหมือนวันที่เราคลอดออกมาจากครรภ์ของมารดา โดยที่วันนั้นเรายังไม่มีบาปอะไรติดตัวมาเนื่องจากการถือศีลอด และการขวนขวายสร้างทำอามั้ลอิบาดะห์ในยามกลางคืน การเตาบัต เช่นนี้ เราก็ต้องมานะ อดทนซอบัร อย่าเห็นแก่นอน อย่าเห็นแก่กิน อย่าให้รอมฎอนผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ และขอให้เราระวังเรื่องเลว เรื่องชั่ว อย่าได้เฉียดเข้าไปใกล้ อย่าทิ้งละหมาด อย่าขาดถือศีลอด อย่าพูดจานินทาว่าร้ายใคร ทำมาหากินแต่ริสกีที่ดี อย่าหันหลังให้มัสยิด ในอัลกุรอาน ซูเราะห์บะนีอิสรออีล อายะห์ที่ ๗ พระผู้อภิบาลทรงตรัสว่า
“หากพวกเจ้าปฏิบัติความดีงาม ทำตามที่ใช้และงดเว้นเรื่องที่ห้าม พวกเจ้าก็ปฏิบัติความดีงามเพื่อตัวเจ้าเอง
เพราะบุญกุศลย่อมได้แก่เจ้าตัวผู้ปฏิบัติ แต่ถ้าหากพวกเจ้าทำชั่ว กรรมชั่วแห่งพวกเจ้าก็จะตกหนักแก่ตัวพวกเจ้าเอง”
และในซูเราะห์ อันนะห์ลิ อายะห์ที่ 128 พระองค์ทรงตรัสว่า:
“แท้จริงอัลเลาะห์ทรงให้ความช่วยเหลือ และทรงปรานีบรรดาชนผู้ที่มีความยำเกรง และอยู่กับบรรดาชนผู้ที่ประพฤติความดีงามเท่านั้น”
สุดท้ายขอพระองค์อัลเลาะห์ ประทานสุขภาพที่ดี แข็งแรง แด่พวกเรา เพื่อจะได้ทำอามั้ลอิบาดะห์อย่างสุดความสามารถในเดือนรอมฎอนนี้ทุก ๆ คน ด้วยเถิด
ที่มา: ฮะดิษ ที่คัดสรร