วิทยาศาสตร์กับการถือศีลอดของมุสลิม การอดอาหารก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อร่างกายอย่างไร ?
โดยการถือศีลอด เป็นหลักปฏิบัติในศาสนบัญญัติ 1 ใน 5 ประการ (ประกอบไปด้วย 1.นับถือพระเจ้า(อัลลอฮฺ)องค์เดียวและนบีมูฮำหมัดเป็นศาสนฑูตคนสุดท้าย 2.ดำรงละหมาด 3.บริจาคทาน 4.ถือศีลอด 5.บำเพ็ญฮัจย์ที่ นครมักกะห์) ซึ่งชาวมุสลิมจะประพฤติปฏิบัติตน โดยการ...
- งดอาหาร น้ำ เพื่อจะได้รับรู้ความยากลำบากคนที่ยากไร้ โดยจะเริ่มตั้งแต่แสงพระอาทิตย์ขึ้น – แสงพระอาทิตย์เริ่มตกดิน จากการคำนวนดูเวลาแสงพระอาทิตย์ ขึ้น-ตก ตามการคำนวณของหลักดาราศาสตร์อิสลาม วัดตามพิกัดองศาแต่ละพื้นที่ และเมื่อถึงเวลาละศีลอด มักจะรับประทานอินทผลัม โดยได้แบบอย่างมาจากท่านนบีมูฮำมัด ทั้งนี้ ผลอินทผลัมนั้น ประกอบด้วย น้ำตาลฟรุกโตส กลูโคส น้ำ วิตามิน และแร่ธาตุ โดยเฉพาะน้ำตาลฟรุกโตส จัดเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายเป็นอย่างมาก และเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
- งด ละ เลิก จากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมด ได้แก่ มือ(ทำร้ายหรือขโมย), เท้า(เดินไปสู่สถานที่ต้องห้าม), ตา (ดูสิ่งลามก), หู ( การฟังสิ่งไร้สาระ ,ฟังเรื่องชาวบ้านนินทากัน), ปาก (การนินทาว่าร้ายคนอื่น โกหกโป้ปด)
- ทำความดี บริจาคทานแก่คนยากจน
- อ่านคัมภีร์อัลกุรอาน เนื่องจากในเดือนนี้เป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทานคัมภีร์อัลกรุอานมาให้แก่มนุษย์ ดังนั้น ชาวมุสลิมจึงต้องอ่านอัลกุรอาน เพื่อศึกษาถึงสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้มนุษย์รู้ว่าการเป็นอยู่ในโลกนี้และโลกหน้าจะเป็นอย่างไร และจะต้องทำตัวอย่างไรบ้าง
วิทยาศาสตร์กับการถือศีลอดของมุสลิม
การอดอาหารสัก 1 เดือน ในรอบ 1 ปีนั้น เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก เนื่องจากการที่เราได้กินอาหารต่างๆเข้าไปตลอดระยะเวลา 1 ปี ซึ่งแน่นอนอย่างยิ่งในปัจจุ บันนี้มีสารพิษปนเปื้อนในอาหารแทบทุกชนิด และจากการถือศิลอดนี่เอง ที่จะทำให้ร่างการของเราได้ชำระล้างสารพิษต่างๆจากนิสัยการกินที่ย่ำแย่ของเราให้กลับมาสะอาดและปลอดสารพิษอีกครั้ง
ผลวิจัยทางการแพทย์ ระบุว่า การอดอาหาร ทำให้อวัยวะย่อยอาหารได้พักผ่อนหลังจากทำงานหนักมา 1 ปี หลักฐานทางการแพทย์บอกว่า ใน 1 ปี หากได้พักผ่อนกระเพาะอาหารซัก 1 เดือนจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
เป็นที่แน่นอนในเวลาต่อมาหลังจากการถือศิลอด เราก็ต้องสะสมสารพิษกันต่อ แต่ร่างกายที่สะอาด ก็พร้อมรับสารพิษเข้ามาใหม่และรอการชำระล้างอีกครั้งนึงในปีหน้านั่นเอง
นอกจากนี้แล้วการอดอาหารไม่ได้เป็นสาเหตุของโรคกระเพาะอาหารอีกด้วย แต่เชื่อไหมว่าเกิดจากการกินอาหารต่างหาก เช่น
การดื่มแอลกอฮอล์, ชา กาแฟ หรืออื่นๆที่มี Caffeine, การกินอาหารไม่เป็นเวลา เป็นต้น
(แต่สำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะอยู่แล้ว ศาสนาอนุโลม ไม่ต้องถือศิลอด แต่เมื่อรักษาหายแล้ว จำเป็นที่จะต้องถือศิลอดชดใช้)
การอดอาหารก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อร่างกายอย่างไร ?
ร่างกายจะเริ่มมีปฏิกิริยาต่อการอดอาหาร เป็น 4 ระยะด้วยกัน คือ
ระยะที่ 1 เป็นระยะการถือศีลอดได้ไปประมาณ 3-6 ชั่วโมง จะรู้สึกว่าหิวเพราะน้ำตาลในเลือดถูกใช้ไป ระดับน้ำตาลในเลือดจึงลดต่ำลง
ระยะที่ 2 เป็นระยะเวลาที่ผ่านไปแล้วนาน 6-12 ชั่วโมง ช่วงนี้ร่างกายใช้ระดับพลังงานน้ำตาลหมดลงแล้วจึงหันไปใช้แหล่งพลังงาน น้ำตาลอื่นทดแทน พลังงานอื่นที่เอามาทดแทนน้ำตาลที่ใช้หมดไปคือ “ไกลโคเจน” (glycogen) ซึ่งสารนี้เคยถูกสระสมไว้อยู่ในตับ และกล้ามเนื้อ และตามเนื้อเยื้อต่างๆ มาใช้อีกด้วย
ระยะที่ 3 เป็นระยะเวลาที่อดอาหารผ่านไปแล้ว 12 ถึง 24 ชั่วโมง ช่วงนี้เป็นระยะเวลาที่ร่างกายใช้พลังงานจากไขมันมากขึ้น โดยจะย่อยสลายไขมันมากขึ้น จึงทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นกรด เมื่อไขมันถูกสลายไป จะทำให้สารพิษส่วนใหญ่ซึ่งเกาะอยู่กับเซลล์ไขมัน ล่องลอยออกมาอยู่ในน้ำเลือดและสารพิษอีกส่วนหนึ่งเข้าไปเกาะอยู่กับเยื้อเมือกต่างๆ ล้วนรอการกำจัดออกไปทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ และทางอื่นๆ ในช่วงนี้อาจจะมีโรคประจำตัวเกิดขึ้นได้ เช่น คันตามตัว เป็นลมพิษ เป็นต้น
ระยะที่ 4 เป็นระยะของการอดอาหารนาน 24-48 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงนี้ร่างกาย เริ่มดีขึ้น สดชื่นขึ้น กระปรี้กระเปร่า ตัวเบาสบาย อารมณ์แจ่มใส หัวคิดดี สมองดี โรคที่เคยเป็นอยู่เดิมจะมีอาการเบาบางลงไปมาก เพราะเนื่องจากสารพิษในร่ายกาย ได้ถูกกำจัดออกไปนั่นเอง
แต่การถือศีลอดของมุสลิมนั้นเราถือศีลอดกันไม่นาน 24 ชั่วโมง เราเพียงอดอาหารจริงๆเพียงเวลาประมาณ 13 ชั่วโมง แต่เราถือศีลอดติดต่อกันทุกวันนาน 29 ถึง 30 วัน ในช่วงเดือนรอมฎอน
จึงเป็นระยะเวลาที่ทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างแท้จริงเป็นการพักผ่อนการย่อยอาหารตามปรกติ และยังได้ย่อยสลายสารไขมันอันไม่พึงประสงค์ตามที่ต่างๆออกไปด้วย จึงได้เป็นเจ้าของสุขภาพใหม่ ทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นมากหลังจากการอดอาหารรักษาโรคปีละหนึ่งครั้ง
ประโยชน์ที่จะได้รับจากการถือศีลอดมีอยู่มากทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ทางด้านร่างกายนั้นการถือศีลอดนับว่าเป็นการรักษาสุขภาพตามธรรมชาติ ไม่มีผลร้ายค้างเคียงเหมือนกับการรักษาด้วยวิธีการใช้ยา
การถือศีลอดช่วยขจัดโรคหรือทำให้โรคต่างๆ หายหรือมีอาการดีขึ้น เช่น โรคไขมันในเลือดสูง / โรคความดันเลือดสูง / โรคหัวใจขาดเลือด / โรคหอบหืดและลมพิษ / โรคไขข้ออักเสบ / โรคข้ออักเสบรูมะตอยด์ / บวมตามข้อมือข้อเท้า / เส้นเลือดขอด / โรคอ้วน / โรคเบาหวาน / อาการท้องผูกเรื้อรัง / โรคไต / โรคตับ เป็นต้น ในขณะที่ร่างกายขจัดสารพิษออกไปจะขจัดโรคต่างๆ มีอาการเบาบางลง
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนถือศีลอดนั้น ทุกคนมีจิตใจที่สบาย มีสมาธิ อารมณ์เย็น จิตใจดี สมองโปร่งใส คืออธิบายตามหลักการแพทย์แล้ว กล่าวได้ว่ามีการหลั่งของฮอร์โมน “อดรินาลิน” ( adrenalin ) จากต่อมหมวกไตน้อยลง
วงการแพทย์ทราบว่า ฮอร์โมนตัวนี้เมื่อหลั่งออกมาจากหมวกไต จะทำให้หัวใจเต้นเร็ว หัวใจจะทำให้เต้นแรงกว่าปรกติ และทำให้ความดันเลือดสูง
นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามคิดค้นตัวยา เพื่อนำมารักษาความดันเลือดที่สูงให้กลับลงมาเป็นปรกติ ยาขนาดหนึ่งที่มักนำมาใช้บ่อยก็คือ ยาประเภทลดระดับของฮอร์โมนตัวนี้
การถือศีลอด จึงเป็นวิธีทางธรรมชาติที่สามารถลดฮอร์โมนอะดรินาลีนจากต่อมหมวกไต ให้ออกมาน้อยลงได้
ที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการถือศีลอด คือ การผันเงินจากคนมั้งมีไปสู่คนจน โดยการบริจาคทาน ซึ่งมุสลิมจะทำกันอย่างมากในเดือนนี้ การบริจาคทานนี้ นอกจากจะทำให้ผู้บริจาคมีความบริสุทธิสะอาดมากขึ้นแล้ว ผลพลอยได้นั้นไม่เฉพาะแต่จะทำให้กายสะอาด ใจสะอาดเท่านั้น แต่ยังมีผลทำให้เกิดการยกระดับของสังคมยกฐานะของสังคมให้ดีขึ้นด้วย
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์
ที่มา: Nur Khatoon