อยากถามว่า ปะมะนบี เป็นอิสลาม เป็นมุสลิมหรือป่าวครับ เพราะผมคิดว่า ตอนที่นบีได้รับอิสลามมาเผยแพร่นั่น ปะมะนบีก้อเสียแล้วหนิ่ครับ เลยงงๆ
ภาพไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
พ่อกับแม่ของท่านนบีเป็นมุสลิมหรือไม่?
คำถามโดย คุณฟารุก
อยากถามว่า ปะมะนบี เป็นอิสลาม เป็นมุสลิมหรือป่าวครับ เพราะผมคิดว่า ตอนที่นบีได้รับอิสลามมาเผยแพร่นั่น ปะมะนบีก้อเสียแล้วหนิ่ครับ เลยงงๆ ...และก้อ กระทู้นี่ผมเคยถามไปแล้วรู้สึกจะโดนลบ อย่าลบอีกน่ะครับ เพราะไม่เห็นจะผิดตรงไหนที่ถามแบบนี้ เหอๆ
คำตอบโดย อาจารย์ฟารีด เฟ็นดี้
ขอมะอัฟท่านสมาชิกที่ชื่อ ฟารุก ด้วยครับ ผมไม่เห็นคำถามที่ท่านโพ้สไว้ก่อนหน้านี้ ประกอบกับระยะหลังก็ไม่ค่อยได้สำรวจกระทู้ และไม่ค่อยได้ตอบคำถามมากนัก เพราะสาละวนอยู่กับการเขียนบทความเรื่องชีอะห์ และก็ต่อด้วยการแปลฮะดีษจากบันทึกของท่านอิหม่ามบุคคอรีและอิหม่ามมุสลิม ฉะนั้นจึงทำให้ท่านต้องโพ้สถามซ้ำมาอีกครั้ง
เกี่ยวกับพ่อและแม่ของท่านนบีนั้น ถ้าเราศึกษาจากอัลกุรอานและจากฮะดีษของท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ก็จะพบว่า แม้แต่พ่อของท่านนบีอิบรอฮีม อลัยฮิสสลาม ก็ไม่ได้รับอิสลาม มิหนำซ้ำยังปั้นเจว็ดขายเสียอีก, ลูกชายของท่านนบีนัวฮ์ อลัยฮิสสลาม ก็ปฏิเสธคำเรียกร้องของพ่อ แล้วอัลลอฮ์ก็ให้คลื่นซัดหายจมไปต่อหน้าต่อตาท่านนบีนัวฮ์
ส่วนพ่อกับแม่ของท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ก็ไม่มีหลักฐานใดที่ถูกต้องยืนยันว่า ท่านทั้งสองได้ถือศาสนาตามที่ท่านนบีมูซา หรือท่านนบีอีซา มาเรียกร้องเชิญชวนก่อนหน้านั้น ยิ่งกว่านั้นพ่อของท่านนบีได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ที่ท่านนบียังอยู่ในท้องแม่, ส่วนแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ท่านนบียังเล็ก ขณะที่ท่านนบีได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรอซูลเมื่อตอนอายุ 40 ปี
เราทราบข้อมูลเหล่านี้ แต่วิจารณ์ลำบาก เพราะเหตุผลของเราไม่เพียงพอที่จะใช้เป็นหลักฐาน แต่ก็ยังมีบางคนที่ใช้ปัญญาอธิบายเรื่องนี้ ขณะที่หาหลักฐานถูกต้องมารองรับไม่ได้ บางคนจึงต้องอาศัยฮะดีษเก้มายืนยัน เช่นข้อความที่ว่า “อัลลอฮ์จะให้พ่อกับแม่ของนบีฟื้นขึ้นมารับอิสลามกับท่านนบีแล้วตายไปอีกครั้ง” อย่างนี้คือตัวบทหลักฐานเท็จครับ
ส่วนตัวบทหลักฐานที่ถูกต้อง (ศอเฮียะห์) ตามที่มีบันทึกจากตำราฮะดีษมีดังนี้
عَنْ أَنَسٍ قَالَ أَنَّ رَجُلاً قَالَ يَارَسُوْلَ اللهِ أيْنَ أبِيْ قَالَ فِى النَّارِ فَلَمَّا قَفَّى دَعَاُه فَقاَلَ اِنَّ أَبِي وَأبَاكَ فِى النَّارِ
“อนัส (บินมาลิก) รายงานว่า มีชายผู้หนึ่งได้กล่าวว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ พ่อของฉัน (ที่เสียชีวิตแล้ว) เขาอยู่ที่ไหน ท่านตอบว่า ในนรก และหลังจากที่ชายผู้นั้นหันหลังกลับ ท่านก็เรียกเขามาแล้วกล่าวว่า แท้จริงทั้งพ่อของฉันและพ่อของท่านอยู่ในนรก” (ศอเฮียะห์มุสลิม กิตาบุ้ลอีหม่าน ฮะดีษเลขที่ 302)
عَنْ أبِي هُرَيْرَةَ قَالَ زَارَ النَّبِيُ صَلىَ الله ُعَليْهِ وَسَلَّمَ قَبْرَ أُمِّهِ فَبَكَى وَأبْكَى مَنْ حَوْلَهُ فَقَالَ اِسْتَأدَنْتُ رَبِّي فِي أنْ أسْتَغْفِرَ لَهَا فَلَمْ يُؤْدَنْ لِي وَاسْتأَدَنْتُهُ فِي أنْ أزُوْرَ قَبْرَهَا فَأدِنَ لِي فَزُوْرُوا القُبُوْرَ فَاِنَّهَا تُدَكِّرُ المَوْتَ
“อบีฮุรอยเราะห์ รายงานว่า ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ไปเยี่ยมหลุมศพแม่ของท่าน แล้วท่านก็ร้องไห้ จึงทำให้ผู้ที่อยู่รอบข้างท่านร้องไห้ไปด้วย ท่านกล่าวว่า ฉันร้องขออนุญาตต่อองค์อภิบาลของฉันในการขออภัยโทษให้กับแม่ของฉัน แต่พระองค์ไม่ทรงอนุญาต ฉันจึงขออนุญาตต่อพระองค์ในการเยี่ยมหลุมศพแม่ของฉัน แล้วพระองค์ก็ทรงอนุญาต ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหลายควรเยี่ยมหลุมศพกันเถิด เพราะมันทำให้ระลึกถึงความตาย” (ศอเฮียะห์มุสลิม กิตาบุ้ลญะนาอิซ ฮะดีษเลขที่ 1622)
ฮะดีษนี้ถูกจัดไว้ในบทที่ว่าด้วยเรื่องการขออภัยโทษให้กับคนที่ไม่ใช่มุสลิม (ดูคำอธิบายฮะดีษศอเฮียะห์มุสลิม โดยท่านอิหม่ามนะวาวีย์)
เรารับทราบเรื่องนี้จากตัวบทหลักฐานก็คงเพียงพอแล้ว ไม่ควรเอาปัญญาของเราไปต่อเติมจนเลยเถิดน่าจะปลอดภัยกว่า วัลลอฮุอะอ์ลัม