พึงระวัง!! ขณะมีเพศสัมพันธ์ ไม่ให้หันไปทางทิศกิบละห์


3,010 ผู้ชม

ในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ควรมีความระมัดระวังไม่ให้หันไปทางกิบละห์ การหันไปทางกิบละห์นั้น ถือว่า....


พึงระวัง!! ขณะมีเพศสัมพันธ์ ไม่ให้หันไปทางทิศกิบละห์

ในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ควรมีความระมัดระวังไม่ให้หันไปทางกิบละห์ การหันไปทางกิบละห์นั้น ถือว่า เป็นการกระทำที่ไม่ให้ความเคารพ และดังนั้นควรจะหลีกเลี่ยงให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในทำนองเดียวกันการหันเท้าไปทางกิบละห์ในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ หรือในเวลาอื่นๆ ก็เป็นการปฏิบัติที่ไม่พึงปรารถนา ควรจะคำนึงถึงเรื่องนี้อยู่เสมอ

ท่าที่ไม่ถูกต้อง

ท่าต่างๆ ที่ได้รับอนุญาตได้กล่าวมาแล้ว ในภาคที่เกี่ยวข้องท่ายืนแม้ว่าจะได้รับอนุญาต แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา สำหรับการมีเพศสัมพันธ์เนื่องมาจากเหตุผลทางสุขภาพ

ผู้เขียน ติบบุนนะบะวีย์ เขียนว่า การมีเพศสัมพันธ์ในท่ายืนทำให้ร่างกายอ่อนแอ และยังทำให้เกิดอันตรายต่อระบบประสาทและเลือดลมการที่เพศสัมพันธ์ในทางยืนยังก่อให้เกิดอาการสั่นอยู่ตลอดเวลา (Ra'sha) สิ่งนี้อาจเป็นเพราะประสาทและระบบประสาทถูกทำลายไป

การกระทำที่ไม่พึงปรารถนา

ไม่เป็นสิ่งพึงปรารถนาที่จะพูดมากเกินไปในระหว่างสัมพันธ์ การพูดควรจะจำกัดอยู่แค่เรื่องจำเป็นเท่านั้น

แม้ว่าเป็นสิ่งอนุญาตสำหรับสามีและภรรยาที่จะมองดูทุกส่วนในสรีระของกันและกันได้ แต่ ก็เป็นการกระทำที่ไม่พึงปรารถนาตามทรรศนะทางศีลธรรม รอซูลุลลอฮ์ (ศ็อล ฯ) ไม่เคย

มองที่อัซรัตอาอิชะฮ์ (ร.ฎ.) และเธอไม่เคยมองที่รอซูลุลลอฮ์ (ที่บริเวณอันเป็นส่วนตัว)

การเล้าโลมหลังการมีเพศสัมพันธ์ 

สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งเช่นเดียวกับการเล้าโลมก่อนการร่วมเพศหรือการร่วมเพศจริงๆ ก็คือ "การเล้าโลมหลังการมีเพศสัมพันธ์" หลายครั้งได้ปรากฏว่าสามีถึงจุดสุดยอดก่อนภรรยา(ผู้หญิงบางคนถึงจุดสุดยอดหลังจากสามีพักใหญ่ๆ ) ในกรณีดังกล่าวสามีควรจะอยู่รอบนตัว เธอจนกว่าเธอจะถึงจุดสุดยอดและได้รับความพอใจ สิ่งนี้สำคัญที่สุดและจำเป็นที่สุดสำหรับ ความพอใจของภรรยา การหยุดลงก่อนที่ภรรยาจะถึงจุดสุดยอดเป็นเรื่องโหดร้ายและเห็นแก่ ตัว ทำให้หัวใจของภรรยาเกิดความเป็นศัตรูและเกลียดชังสามี ยิ่งกว่านั้น การหยุดลงโดยทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ร่วมกันทำให้บ่อยครั้งผู้หญิงมี ความคิดว่าผู้ชายสนใจเธอเฉพาะสนองตอบตัณหาและเอาแต่ใช้เธอเท่านั้น สิ่งนี้จะมีผลต่อชีวิตการแต่งงานที่ปรองดองกัน

ฮัซรัต อะลี (รอฏิยัลลอฮุอันฮุม) กล่าวเอาไว้ในเรื่องนี้ว่า "จงรอให้ภรรยาเสร็จ (ถึงจุดสุด ยอด) ก่อนที่จะหยุดลง มีฉะนั้นเธอจะเป็นศัตรูของท่าน" ริฟาอะตุลมุสลิมีน

ท่าที่อนุญาต

ในร่างกายของมนุษย์ตามธรรมชาติที่สุดแล้วมีอยู่สามท่าคือ ยืน นั่ง (หรือนั่งยองๆ) และนอน ในเรื่องท่าทางที่เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์นั้น โดยทั่วไปอิสลามจะอนุญาตยกเว้นจะกระทำอย่างผิดธรรมชาติ อย่างเช่น การใช้เว็จมรรค (ทางทวารหนัก หรือประตูหลัง)

ดังนั้นจึงยังคงเหลืออยู่สองท่าคือ ท่านั่งหรือท่านั่งยองๆ และท่านอนในเรื่องนี้มีนัยต่างๆที่บ่งบอกไว้ในกุรอานและหะดีษ 

"พระองค์เป็นผู้ทรงสร้างสูเจ้าจากชีวิตหนึ่งและจากนั้นพระองค์ทรงสร้างคู่ของเขาขึ้นมา เพื่อว่าเขาจะได้หาความสำราญจากนางเมื่อเขาอยู่เหนือนาง (มีเพศสัมพันธ์กับนาง) นางก็จะตั้งครรภ์อ่อนๆ" คือเมื่อภรรยาอยู่ในท่านอนหงาย ร่างกายของผู้ชายวางอยู่เหนือเธอในท่าที่เขาครอบคลุมตัวเธอด้วยร่างกายของเขา ในหะดีษที่อธิบายถึงแบบอย่างของกุซอลนั้น วิธีการมีเพศสัมพันธ์ร่วมกันที่พาดพิงถึง มีดังนี้ " เมื่อใดก็ตามที่พวกท่านนั่งอยู่ระหว่างสี่จุดของฝ่ายหญิง และใช้แรงของ ท่านต่อเธอเกี่ยวกับเรื่อง "สี่จุดของฝ่ายหญิง" นี้มีความคิดต่างกันไปในเรื่องของการตีความ ดูเหมือนว่าจะหมายถึงท่าที่ผู้หญิงยกเข่าขึ้น และผู้ชายสอดใส่ในท่านั่งยองๆทำให้ต้นขาและน่องของผู้หญิงกลายเป็นสี่ส่วน และอัลลอฮ์รู้ดีที่สุด  

นอกจากนั้นท่าทางหรือตำแหน่งอื่นๆ ที่สามีและภรรยาเลือกนั้นค่อนข้างจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ ครั้งหนึ่งฮัซรัต อุมัร (รอฎิยัลลอฮุอันฮุม) มีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของท่านทางข้างหลัง (แต่ไม่ใช่ทางทวารหนัก) ต่อมาท่านมีความคิดว่าท่านได้กระทำสิ่งอันไม่พึงปรารถนาลงไป โดยทันทีท่านได้เร่งรุดออกไปหารอซูลุลลอฮ์ (ศ็อลฯ) โดยร้องว่า "ข้าพเจ้าแย่แน่แล้ว ข้าพ เจ้าแย่แน่แล้ว!" ท่านถูกถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ซึ่งท่านได้เล่าเรื่องความกลัวของท่านที่ท่าน ได้กระทำสิ่งมิพึงปรารถนาลงไป รอซูลุลลอฮ์ (ศ็อลฯ) คงนิ่งเฉยและมิได้ตอบอะไรลงไป ต่อมา

โองการของอัลกุรอานดังต่อไปนี้ได้ถูกประทานลงมา "ภรรยาของเจ้าคือไร่นาสำหรับเจ้า ดังนั้นจงเข้าไปสู่ทุ่งนาของเจ้าตามประสงค์เถิด" 2/223

หลังจากนั้นรอซูลุลลอฮ์ (ศ็อลฯ) ได้อธิบายข้อความของโองการนี้ว่า การมีเพศสัมพันธ์นั้นได้รับอนุญาตทุกท่า ไม่ว่าจะทางข้างหน้าหรือทางข้างหลัง ตราบใดที่ไม่มีการใช้ประตูหลังเพราะนั่นเป็นสิ่งหะรอม ตัวอย่างสำหรับผู้หญิงในกุรอานนั้นเป็นเสมือนไร่นา ซึ่งสามารถเข้าไปได้ทุกทิศทางยกเว้นว่าเมล็ดพันธ์ของมันจะถูกหว่านลงใส่ทุ่งนาเท่านั้นไม่ใช่ที่อื่นๆ ในทำนองเดียวกันวิธีการที่จะเข้าถึงทุ่งนานั้นได้รับอนุญาตไม่ว่าจะเป็นสามีหรือภรรยา ในทางกลับกันไม่ว่าจะนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ จะนอนราบหรือนั่งก็ได้ตราบใดที่ "เมล็ดพันธุ์"ถูกหว่านลงใน "ทุ่งนา" ไม่ใช่ที่อื่นๆ  

มีความคิดผิดๆ เกิดขึ้นในเรื่องการสอดใส่ เป็นเรื่องของไสยศาสตร์ที่ขาดหลักฐานว่าได้มีชาวยิวของนครมะดีนะฮ์ ที่หาความสำราญด้วยการสอดใส่ทางข้างหลัง ตามความคิดของพวกเขาการกระทำเช่นนั้น เด็กที่เกิดมาจากการรวมตัวจะตาเหล่ มุสลิมบางคนถูกนำทางผิดๆ ด้วยเรื่องเช่นนี้ของชาวยิว เมื่อโองการจากอัลกุรอานดังกล่าวได้ถูกประทานลงมาความคิดผิดๆ เช่นนั้นก็หมดสิ้นและถูกทำลายไปตลอดกาล

 ผลแห่งแง่คิดที่ได้จากการมีเพศสัมพันธ์มีดังนี้

- ในวันจันทร์ เด็กจะเป็นนักอ่านกุรอาน (นักกอรี)

- ในวันอังคาร จะเป็นเด็กที่มีความกรุณาใจกว้าง

- ในวันพฤหัส จะเป็นเด็กที่ฉลาดหลักแหลม

- ในศุกร์ก่อนญุมอะฮ์ เด็กจะเกิดมาพร้อมกับลาภและโภคทรัพย์จะเป็นผู้ใช้ชีวิตในแนวทางศาสนา- ในวันศุกร์ตอนกลางคืน จะเป็นเด็กที่จริงใจ ริฟาอะตุลมุสลิมีน (ตอนกลางคืนหมายถึงกลางคืนของอิสลามซึ่งมาก่อนกลางวันของวันนั้น)

มุฮัมมัด อิมรอน เขียน : ศิระ นวนมี แปล

https://islamhouse.muslimthaipost.com/article/22107

อัพเดทล่าสุด