9 ข้อควรรู้ขณะมีเพศสัมพันธ์ในอิสลาม


15,961 ผู้ชม

มีความบริสุทธิ์ใจในการมีเพศสัมพันธ์ เจตนากระทำดังกล่าวเพื่อปกป้องชีวิตตัวเองและครอบครัว ห่างไกลจากสิ่งที่เป็นฮะรอม จากการทำซีนา...


9 ข้อควรรู้ขณะมีเพศสัมพันธ์ในอิสลาม

1. มีความบริสุทธิ์ใจในการมีเพศสัมพันธ์ เจตนากระทำดังกล่าวเพื่อปกป้องชีวิตตัวเองและครอบครัว ห่างไกลจากสิ่งที่เป็นฮะรอม จากการทำซีนา และเพื่อสร้างประชากรของท่านนบีมูฮัมหมัด ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อยกระดับของความมีเกียรติที่สูงส่ง ไม่ใช่เพียงเพื่อเป็นการระบายอารมณ์ใคร่และตัณหาของแต่ละคน การมีเพศสัมพันธ์จะทำให้เรามีความสุข อิ่มเอิบใจ

ท่านนบี (ซ.ล.) กล่าวว่า : 

وَفَيْ بُضْعِ أَحَدِكُمْ صَدَقَةٌ .قَالُوْا : يَا رَسُوْلَ اللهِ أَيَأْتِيْ أَحَدُنَا شَهْوَتَهُ وَيَكُوْنُ لَهُ فِيْهَا أَجْرٌ ؟ قَالَ : " أَرَأَيْتُمْ لَوْ وَضَعَهَا فِيْ حَرَامٍ أَكَانَ عَلَيْهِ وِزْرٌ ؟ فَكَذَلِكَ إِذَا وَضَعَهَا فِيْ الحَلَالَ كَانَ لَهُ أَجْرٌ "

ความว่า:  "การมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของท่านนั้น เป็นทาน (ศอดาเกาะฮฺ)"

ฉันถามว่า : โอ้ท่านรสูลุลลอฮฺ เหตุไฉนการที่ฉันปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศทำให้ได้รับผลบุญด้วยเล่า?

ท่านรสูล กล่าวว่า : แล้วถ้าท่านทั้งหลายกระทำในสิ่งหะรอมท่านจะเป็นบาปมิใช่หรือ?

ฉันตอบว่า : ใช่

ท่านรสูล กล่าวว่า : ในเมื่อท่านต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่ชั่ว แล้วจะไม่ให้ผลบุญสำหรับการกระทำความดีกระนั้นหรือ

(มุสลิม)

นี่คือความประสงค์ และความเมตตาของพระองค์ที่จะให้มนุษย์มีชีวิตที่ดี และมีความจำเจริญบนโลก

♥ มีซุนนะ ให้วางมือบนหน้าผากของภรรยาในค่ำคืนแรกของคู่บ่าวสาว
♥ มีซุนนะ ให้อาบน้ำละหมาดก่อนมีเพศสมพันธ์
♥ มีซุนนะ ให้ละหมาดสองร็อกอะฮ์ก่อนนอน

9 ข้อควรรู้ขณะมีเพศสัมพันธ์ในอิสลาม

2. การเล้าโลมเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับความสุขและชีวิตแต่งงานที่ไม่ควรถูกละเลย เป็นเรื่องสำคัญอย่างแท้จริงว่า สามีควรปลุกเร้าทางเพศแก่ภรรยาของเขา โดยผ่านการเล้าโลมก่อนที่จะหาความสำราญในการร่วมเพศ เพราะว่าท่านก็เคยมีการเล่น หรือ เล้าโลมภรรยา เช่น การจูบควรทำอย่างนุ่มนวล การลูบคลำอย่างแผ่วเบา

3. ต้องอ่านดุอาอฺในขณะมีเพศสัมพันธ์กับภรรยา

بِاسْمِ الله، اللَّـهُـمَّ جَنِّبْنَا الشَّيْطَانَ، وَجَنِّبِ الشَّيْطَانَ مَا رَزَقْتَنَا

คำอ่าน : " บิสมิลลาฮฺ, อัลลอฮุมมัจญ์นิบนัช ชัยฏอน, วะ ญันนิบิชชัยฏอน มา เราะซักตะนา"

ความว่า: "ด้วยนามของอัลลอฮฺ โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ได้ทรงให้ชัยฏอนอยู่ห่างจากเราด้วยเถิด และขอพระองค์ได้ทรงให้ชัยฏอนอยู่ห่างไกลจากสิ่งที่พระองค์ประทานให้กับเรา" (หมายถึงลูกที่ได้จากการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งนี้)

4. อนุญาตให้สามีร่วมเพศกับภรรยาทางอวัยวะเพศของนางจากด้านไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นจากด้านหน้าหรือด้านหลังที่นางสามารถให้การกำเนิดลูกได้ แต่ห้ามมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก

อัลลอฮ์ (ซ.บ.)  ตรัสว่า : 

نِسَاؤُكُمْ حَرْثٌ لَّكُمْ فَأْتُوا حَرْثَكُمْ أَنَّىٰ شِئْتُمْ

ความว่า: "พวกนางคือไร่นาของพวกท่าน ฉะนั้นพวกท่านจงเข้าไปในไร่นาของพวกท่านเถิดตามใจปราถนา" (อัลบากอเราะ 223)

ท่านญาบิร บุตรของท่านอับดุลลอฮ เล่าว่า มียิวผู้หนึ่งกล่าวว่า เมื่อใดที่สามีมีเพสสัมพันธ์กับภรรยา ของเขาทางด้านหลังแต่ร่วมทางอวัยวะเพศของนาง (ไม่ใช่ทางทวารหนัก จากนั้นเขาก็ได้ลูก) ลูกที่เกิดมาจะตาเหล่ ดังนั้น พระองค์อัลลอฮ์ จึงประทานอัลกรุอานลงมาว่า

ความว่า: "สตรีของสูเจ้านั้นคือเเหล่งเพราะปลูกของพวกท่าน ดังนั้น สูเจ้าจงเข้าหายังเเหล่งเพาะปลูกของสูเจ้า ตามเเต่สูเจ้าประสงค์" (หะดิษเศาะฮีฮฺ บันทึกโดยบุคอรีย์ มุสลีม)

ท่านอิบนู อับบัส กล่าวว่า เมื่อบทบัญญัติของอัลกรุอานที่ตรัสว่า "สตรีของสูเจ้านั้นคือเเหล่งเพาะปลูกของสูเจ้า ดังนั้น สูเจ้าเข้าหาเเหล่งเพาะปลูกของสูเจ้าตามแต่สูเจ้าประสงค์" ถูกประทานลงมา ผู้คนชาวอันศอรฺ (ผู้ช่วยเหลือชาวเมืองมะดีนะห์) พากันมาหาท่านนบี พลางกล่าวถามเกี่ยวกับอัลกรุอานข้างต้น

ท่านนบี จึงกล่าวตอบว่า "พวกท่านจงมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของท่านในทุกๆสภาพ (ไม่ว่าจะเป็นท่านั่ง ท่ายืน หรือท่านอน) โดยมีเงื่อนไขต้องมีเพศสัมพันธ์ที่อวัยวะเพศของพวกนาง (หมายถึงมีเพศสัมพันธ์ทางทวารเบา ไม่ใช่ทวารหนัก)"

9 ข้อควรรู้ขณะมีเพศสัมพันธ์ในอิสลาม

5. อิสลามได้ห้ามมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ของนางในทุกๆสภาพ อัลลอฮฺ ตรัสว่า :

نِسَاؤُكُمْ حَرْثٌ لَّكُمْ فَأْتُوا حَرْثَكُمْ أَنَّىٰ شِئْتُمْ

ความว่า: "พวกนางคือไร่นาของพวกท่าน ฉะนั้นพวกท่านจงเข้าไปในไร่นาของพวกท่านเถิดตามใจปราถนา" (อัลบากอเราะฮ์ 223)

"ภรรยาของเจ้าคือไร่นาสำหรับเจ้า" หมายถึง อวัยวะของนางที่สามารถให้ลูกได้ ซึ่งท่านร่อซูลุลลอฮ์ ได้อธิบายข้อความของโองการนี้ว่า การมีเพศสัมพันธ์นั้นได้รับอนุญาตทุกท่า ไม่ว่าจะทางข้างหน้าหรือทางข้างหลัง ตราบใดที่ไม่มีการใช้ประตูหลัง(ทวารหนัก)เพราะนั่นเป็นสิ่งหะรอม

ท่านได้กล่าวว่า บรรดาผู้ที่ถูกสาปแช่ง คือ ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก (อิบนุฮาดีย์) เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นการฝืนธรรมชาติของมนุษย์ และทางทวารหนักเป็นที่ของสิ่งสกปรก เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อโรค

6. เมื่อสามีร่วมเพศสัมพันธ์กับภรรยาของเขาแล้วยังต้องการร่วมอีกครั้ง ก็มีสุนัตสำหรับเขาให้อาบน้ำละหมาดเพราะท่านนบี กล่าวว่า :

(إِذَا أَتَى أَحَدُكُمْ أَهْلَهُ ثُمَّ أَرَادَ أَنْ يَعُودَ فَلْيَتَوَضَّأْ بَيْنَهُمَا وُضُوءًا)

"คนใดในหมู่พวกท่านร่วมเพศสัมพันธ์กับภรรยาของเขาแล้วยังต้องการร่วมอีกครั้ง จงปฏิบัติวุฎูอ์การอาบน้ำละหมาด เพื่อจะทำให้ร่างกายกลับมากระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น" (มุสลิม)

การอานน้ำละหมาดนี้ ถือว่าเป็นที่ส่งเสริมไม่ถึงขั้นวายิบ แต่ถ้ากระทำถือว่าดีกว่า

9 ข้อควรรู้ขณะมีเพศสัมพันธ์ในอิสลาม

7. จำเป็นจะต้องอาบน้ำญะนาบะห์ หรือ ยกหะดัษใหญ่ ระหว่างสามีภรรยา หรือคนหนึ่งคนใด ที่อยู่ที่สภาพต่อไปนี้ เมื่ออวัยะเพศทั้งสองสัมผัสกัน

ท่านนบี กล่าวว่า "เมื่ออวัยวะทั้งสองมาสัมผัสกัน จำเป็นจะต้องอาบน้ำญะนาบะอ์" (อะหมัด มุสลิม)

แม้ว่า น้ำอสุจิจะหลั่งหรือไม่หลั่งก็ตามจำเป็นต้องอาบน้ำยกหะดัษใหญ่ เมื่อมีน้ำอสุจิหลั่งออกมา ท่านนบี กล่าวว่า "เมื่อน้ำหลั่งออกมาด้วยกับมัน"

ท่านอิหม่ามอัลบักวี อธิบายเอาไว้ในหนังสืออัซุนนะว่า จำเป็นจะต้องอาบน้ำญานาบะหนึ่งในสองประการนี้ คือ "เมื่ออวัยวะของผู้ชายเข้าไปในอวัยวะเพศของสตรี และเมื่อมีน้ำหลั่งออกมาไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง"

การอาบน้ำร่วมกัน อนุญาตให้เขาทั้งสองอาบน้ำร่วมกันในที่เดียวกัน ถึงแม้จะมีการมองเห็นซึ่งกันและกันในห้องน้ำในบ้านของเขาก็ตามที

รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ได้กล่าวว่า

عَنْ عَائِشَةَ، قَالَتْ كُنْتُ أَغْتَسِلُ أَنَا وَالنَّبِيُّ، صلى الله عليه وسلم مِنْ إِنَاءٍ وَاحِدٍ مِنْ قَدَحٍ يُقَالُ لَهُ الْفَرَقُ.

"ฉันและท่านนบี (หรือฉันพร้อมกับท่านนบี) เคยอาบน้ำ(ญะนาบะห์)จากภาชนะเดียวกัน คือจากถังที่เรียกกันว่า“อัลฟะร๊อก”(ถังใส่น้ำขนาดใหญ่)

 8. อนุญาตสำหรับผู้ที่มีญุนุบ ที่ยังไม่ต้องการอาบน้ำยกหะดัษใหญ่ ส่งเสริมสำหรับเขาจะต้อง ล้างอวัยวะเพศแล้วก็ทำน้ำละหมาดก่อนเข้านอน

عَنْ عَبْدِ اللَّهِ، قَالَ اسْتَفْتَى عُمَرُ النَّبِيَّ صلى الله عليه وسلم أَيَنَامُ أَحَدُنَا وَهْوَ جُنُبٌ قَالَ " نَعَمْ، إِذَا تَوَضَّأَ "

อับดุลลอฮ์ อิบนิ อุมัร รายงานว่า อุมัรได้ถามท่านนบี ว่า "พวกเราจะนอนในขณะมีญุนุบได้หรือไม่ ? "

ท่านตอบว่า "ได้ แต่อาบน้ำละหมาดก่อนนอน(โดยยังไม่ต้องอาบน้ำญะนาบะห์)"

9 ข้อควรรู้ขณะมีเพศสัมพันธ์ในอิสลาม

9. ถือว่า เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับสามีในการที่จะมีเพศสัมพันธ์กับภรรยา ในขณะที่นางกำลังมีประจำเดือน หรือมีนิฟาส(เลือดอันเนื่องมาจาการคลอดบุตร) กุรอานได้ย้ำอย่างหนักแน่นห้ามการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างการมีรอบเดือน

อัลลอฮ์ (ซ.บ.)  ตรัสว่า : 

فَاعْتَزِلُواْ النِّسَاء فِي الْمَحِيضِ وَلاَ تَقْرَبُوهُنَّ حَتَّىَ يَطْهُرْنَ فَإِذَا تَطَهَّرْنَ فَأْتُوهُنَّ مِنْ حَيْثُ أَمَرَكُمُ اللّهُ إِنَّ اللّهَ يُحِبُّ التَّوَّابِينَ وَيُحِبُّ الْمُتَطَهِّرِينَ

"ดังนั้นท่านทั้งหลายจงปลีกตัวเองจากพวกผู้หญิง ขณะมีประจำเดือนเถิด และท่านทั้งหลายอย่าเข้าใกล้พวกนาง (คือทิ้งการร่วมประเวณีกับพวกนาง) จนกว่าพวกนางจะสะอาด ดังนั้นเมื่อพวกนางสะอาดแล้ว พวกท่านจงมาสู่พวกนางเถิด จากด้านที่อัลลอฮ์ทรงบัญชาแก่พวกท่าน แน่แท้อัลลอฮ์ทรงรักพวกที่กลับตัวสู่พระองค์และทรงรักพวกที่สะอาด" (อัลบะกอเราะฮ์ 222)

แต่เป็นที่อนุมัติสำหรับสามีที่จะหาความสุขกับภรรยาในช่วงที่นางมีรอบเดือนได้ทั้งหมด เว้นแต่การมีเพศสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว และไม่อนุญาตให้สามีภรรยานำเรื่องความลับบนเตียงไปเล่ากับคนอื่นฟัง

ท่านนบี (ซ.ล.)  กล่าวว่า "คนที่น่ารังเกลียดที่สุด ณ ที่อัลลอฮฺ คือคนที่นำความลับระหว่างสามีภรรยาไปเล่าให้คนอื่นฟัง"

ที่มา:  www.islammore.com

อัพเดทล่าสุด