30 ความโรแมนติกของท่านนบี ในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับภรรยา


9,354 ผู้ชม

30 ความโรแมนติกของท่านนบี ในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับภรรยา มาชาอัลลอฮ์ โรแมนติคสุดๆ อ่านทุกครั้งอมยิ้มทุกที....


30 ความโรแมนติกของท่านนบี ในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับภรรยา

มาชาอัลลอฮ์ โรแมนติคสุดๆ อ่านทุกครั้งอมยิ้มทุกที

1. เมื่อภรรยามีประจำเดือนอ่านกุรอ่านไม่ได้ ท่านนบีก็จะนอนบนตักภรรยาและอ่านกุรอ่านให้นางฟัง

…..อาอีชะห์ เล่าว่า : ท่านนบีมักจะนอนหนุนตักของฉันในขณะที่ฉันมีประจำเดือน แล้วท่านก็อ่านกุรอ่าน ( มุสลิม 693 )

2. ท่านนบีมักจะกินตรงรอยปากของภรรยา

…..อาอีชะห์เล่าว่า : ครั้ง1ฉันได้ดื่มน้ำโดยที่ในขณะนั้นฉันมีประจำเดือน เมื่อฉันกินเสร็จฉันก็ยื่นภาชนะใส่น้ำให้ท่านนบี ท่านนบีก็ว่างปากของท่านบนรอยปากของฉัน แล้วท่านก็ดื่มน้ำ และฉันก็เคยแทะเนื้อติดกระดูก โดยที่ในขณะนั้นฉันมีประจำเดือน ต่อมาฉันก็ยื่นให้กับท่านนบี ท่านนบีก็วางปากของท่านบนรอยปากของฉัน ( มุสลิม 692 )

3. บอกรักภรรยาต่อหน้าคนอื่น

.....อัมริ บิน อ้าซ ได้ถามท่านนบีว่า : ท่านรักใครมากที่สุด ท่านบีตอบว่า : ฉันรักอาอีชะห์มากที่สุด ( ติรมีซี 3908 )

4. หลายๆครั้งนบีจะให้ภรรยาหวีผมให้ และสระผมให้

…..อาอีชะห์เล่าว่า : เมื่อท่านนบีเอี๊ยะติก้าฟในมัสยิด ท่านจะยื่นศรีษะของท่านมาให้ฉันในห้อง แล้วฉันก็จะหวีผมให้ท่าน ในอีกสายรายงานหนึ่ง : ฉันจะสระผมให้ท่าน ในขณะที่ฉันมีประจำเดือน ( มุสลิม 684 บุคอรีย์ 301 )

5. ท่านนบีอาบน้ำพร้อมกับภรรยา

…..อาอีชะห์เล่าว่า : ฉันและท่านนบีอาบน้ำจากภาชนะเดียวกัน เนื่องจากมีญูนุบ และเราก็ผลัดกันตักน้ำอาบ และบางทีท่านนบีก็แย่งฉัน จนฉันต้องบอกว่า : ปล่อยให้ฉันอาบบ้าง ปล่อยให้ฉันอาบบ้าง ( มุสลิม 731-732 )

6. ท่านนบีเอาใจใส่ทุกรายละเอียดของภรรยา

…..อาอีชะห์เล่าว่า : ท่านนบีกล่าวกับฉันว่า : ฉันรู้ว่าตอนไหนเธอพอใจฉัน และรู้ว่าตอนไหนเธอไม่พอใจฉัน อาอีชะห์จึงถามว่าท่านรู้ได้ยังไง? ท่านบีจึงตอบว่า : หากเธอพอใจฉัน เธอจะกล่าวว่า ขอสาบานต่อพระเจ้าของมูฮัมหมัด และเมื่อเธอไม่พอใจฉันเธอจะกล่าวว่า ขอสาบานต่อพระเจ้าของอิบรอฮีม อาอีชะห์ก็ตอบว่า : ใช่แล้วฉันจะไม่กล่าวชื่อของท่านเมื่อฉันโกรธท่าน ( บุคคอรีย์ 5228 )

7. ท่านนบีจะเอาใจภรรยาและทำเพื่อภรรยา

…..อาอีชะห์เล่าว่า : ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ฉันยังนึกถึงภาพที่นบีอยู่ที่หน้าห้องของฉัน โดยที่ทาสชาวเอธิโอเปียกำลังเล่นหอกเล็กอยู่ในมัสยิด แล้วท่านนบีก็เอาผ้าคลุมกายของท่านมาปิดตัวฉัน และยืนกันให้ฉัน โดยให้ฉันได้ดูการละเล่นของพวกเขาผ่านช่องระหว่างหูและไหล่ของท่านนบี โดยที่แก้มของฉันแนบกับแก้มของท่านนบี และท่านก็ยืนเพื่อฉัน จนกระทั่งฉันเบื่อและฉันเลิกดูเอง อาอีชะห์กล่าวว่า : พวกท่านลองพิจรณาดูซิ ระยะเวลาของการยืนของเด็กผู้หญิงคน1ที่ปรารถนาจะดูการละเล่น ว่ามันจะนานขนาดไหน
( มุสลิม 892 บุคคอรีย์ 2907 )

8. มีคำพูดหวานๆให้กัน

.....ท่านนบีกล่าวกับอาอีชะห์ว่า : ความรักของฉันที่มีต่อเธอมันแน่นแฟ้นดุจดังปมเชือก แล้วอาอีชะห์ก็หัวเราะ ต่อมาในทุกๆครั้งที่นางเดินผ่านท่านนบี นางจะถามว่า : ปมเชือกส้นนั้นมันเป็นอย่างไรแล้ว? ท่านนบีก็จะตอบว่า : มันยังคงเเน่นแฟ้นเหมือนเดิม
( อีหม่ามดารุกุตนีย์ กล่าวว่า ฮาดิษนี้เป็นฮาดิษที่บาติล )

9. พูดให้กำลังใจพูดให้ความหวังตลอด

.....อาอีชะห์เล่าว่า ท่านนบีได้กล่าวกับเธอว่า : ฉันกับเธอ ก็เหมือนดังอบูซัรอ์ และ อุมมุซัรอ์ แต่แตกต่างกันตรงที่ว่า อบูซัรอ์ได้หย่าภรรยาของเขา แต่ฉันจะไม่มีวันหย่าเธอ
( บุคคอรี 5189 มุสลิม 2448 ฎอบรอนีย์ และ นาซาอีย์ได้รายงานประโยคสุดท้ายเพิ่มมากกว่าที่มีในบุคคอรีย์ และ มุสลิม)

10.ท่านบีจะเล่นกับภรรยาและมีมุขขันบ้างบางเวลา

…..อาอีชะห์เล่าว่า : ฉันเคยอยู่กับท่านนบีในการเดินทางครั้ง1 แล้วฉันก็วิ่งแข่งกับท่าน แล้วฉันก็ชนะท่าน ภายหลังจากนั้นฉันก็อ้วนขึ้น แล้วฉันก็วิ่งแข่งกับท่านอีก แต่คราวนี้นบีชนะฉัน แล้วท่านนบีก็บอกว่า : เราเสมอกันแล้วนะ ( อบูดาวุด2078 )

11. มีชื่อเล่นน่ารักที่ใช้เรียกกันในบางโอกาส

.....อาอีชะห์ได้เล่าว่า : ได้มีทาสชาวเอธิโอเปียกำลังเล่นหอกอยู่ในมัสยิด นบีก็ได้พูดว่า โอ้สาวน้อยแก้มแดง (ฮูมัยรออ์) เธออยากดูพวกเขาเล่นหรือ ฉัรจึงตอบว่า ใช่แล้ว
( นาซาอีย์ สุนันกุบรอ 8951 )

12. สามีควรเข้าใจภรรยาบ้างโดยอยู่บนเหตุบนผล เหมือนที่ท่านนบีเข้าใจอาอีชะห์ว่านางอยากเล่นตุ๊กตา เพราะนางยังเด็ก

…..อาอีชะห์เล่าว่า : เมื่อท่านนบีได้กลับมาจากสงครามตาบูก หรือฮุนัยน์ และในที่เก็บของของฉันมีผ้าปิดอยู่ แล้วลมก็ได้พัดผ้าเปิดออกทำให้เห็นของเล่นของฉัน ท่านนบีก็ถามว่าอาอีชะห์นี่คืออะไร? ฉันก็ตอบว่าลูกสาวฉันเอง แล้วท่านนบีก็ได้มองไปเห็นม้าตัว1มีปีกที่ทำมาจากกระดาษ นบีก็ถามว่า : แล้วที่ฉันเห็นอยู่ตรงกลางนั้นคืออะไร? ฉันก็ตอบว่า : ม้าไง นบีก็ถามต่อว่า : แล้วอะไรอยู่บนหลังของม้าหละ? ฉันก็ตอบว่าปีกของมันไง นบีก็ถามว่า : ม้ามันมีปีกด้วยหรือ? ฉันก็ตอบว่า : ท่านไม่เคยได้ยินหรือว่านบีสุลัยมาน มีม้าที่มีปีกด้วย นางก็เล่าว่า : เมื่อนั่นฉันก็เห็นท่านนบีหัวเราะจนเห็นฟันกรามของท่าน ( อบูดาวุด 4932 )

13. พาภรรยาไปในสถานที่ที่นางอยากไป เดินจูงมือภรรยา

.....อาอีชะห์เล่าว่า : ฉันอยากที่จะเข้าไปละหมาดในบัยตุ้ลลอฮ์ ดังนั้นท่านนบีจึงจับมือฉัน และ พาฉันเข้าไปที่หินโค้งอิมาอีล และท่านนบีก็กล่าวว่า : หากเธอต้องการเข้าไปละหมาดในบัยตุ้ลลอฮ ให้เธอเช้าไปละหมาดที่หินโค้งนี่ก็ได้แล้ว เพราะหินโค้งนี้เป็นส่วนหนึ่งจากบัยตุ้ลลอฮ์ ที่กลุ่มชนของเธอได้ทำให้มันเล็กลง ในขณะที่พวกเขาได้ทำการบูรณะมัน ( ติรมีซี 864 )

14. ท่านนบีจะเเสดงออกว่ารักภรรยาเมื่อต้องห่างกัน

…..อาอีชะห์เล่าว่า : ท่านนบีได้จูบภรรยาบางคนของท่าน หลังจากนั้นท่านนบีก็ออกไปละหมาด โดยท่านไม่ได้ทำน้ำละหมาดใหม่ อุรวะห์ก็ถามว่า : ผู้หญิงคนนั้นคือเธอใช่มั้ย อาอีชะห์ก็จึงหัวเราะ ( อบูดาวุด179 )

15. ท่านนบีใช้ไม้ถูฟันอันเดียวกับภรรยา

…..อาอีชะห์เล่าว่า : ส่วน1จากความโปรดปรานที่อัลลอฮ์ให้ฉันคือ ให้ท่านนบีได้ตายในบ้านของฉัน ในเวรของฉัน บนหน้าอกของฉัน และได้รวมน้ำลายของฉันกับของท่านนบีเข้าด้วยกัน(ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต) อาอีชะห์เล่าว่า : อับดุรเราะห์มานบินอบีบักร ได้เข้ามาหาฉัน โดยที่เขาถือไม้วิสวากอยู่ และในขณะนั้นท่านนบีนอนพิงฉันอยู่ และฉันเห็นท่านนบีมองไปที่เขา ฉันจึงรู้ว่าท่านนบีอยากใช้ไม้วิสวาก ฉันจึงถามว่า : จะให้ฉันเอาให้ท่านมั้ย ท่านนบีก็ขยับหัวเป็นการบ่งบอกว่าเอา ฉันจึงเอามันมาให้ท่าน แต่ไม้วิสวากมันแข็ง ฉันจึงถามว่า : จะให้ฉันทำให้มันนิ่มให้เอามั้ย ท่านนบีก็ขยับหัวเป็นการบ่งบอกว่าเอา ฉันจึงทำให้มั้นนิ่ม(ด้วยการกัดและขยี้) และฉันจึงเอามันถูฟันให้ท่านนบี ( บุคคอรีย์4449 )

16. นบีนอนหลับบนตักของภรรยา

…..ในการเดินทางครั้ง1 อาอีชะห์ได้ทำสร้อยคอที่ยืมมาจากอัสมาอ์หลุดหาย นบีจึงสั่งให้ผู้คนหยุดพักในสถานที่นั่นก่อนเพื่อหา และท่านนบีก็ได้นอนหลับบนตักของอาอีชะห์ ( มุสลิม 816 )

17. ป้อนข้าวกันบ้าง

…..ท่านนบีกล่าว่า : ทุกสิ่งที่ท่านใช้จ่ายออกไป จะเป็นการซอดาเกาะห์ จนกระทั้งอาหารคำหนึ่งที่ท่านป้อนให้กับภรรยาของท่านก็เป็นซอดาเกาะห์เช่นกัน ( บุคคอรีย์ 2742 )

18. ท่านนบีจะปฎิบัติกับภรรยาอย่างอ่อนโยน

.....ท่านนบีได้กล่าวว่า : ผู้ศรัทธาที่สมบูรณ์ที่สุด คือผู้ที่มีมารยาทดีงานที่สุด และ อ่อนโยนต่อครอบครัวของเขามากที่สุด ( ติรมีซี 2612 )
***คนที่ปฎิบัติดีกับคนอื่น แต่ปฎิบัติไม่ดีกับคนในครอบครัว เขาจะยังไม่มีอีหม่านที่สมบูรณ์

19. หลายๆอย่างที่ภรรยาทำเองได้ แต่นบีก็ยังคิตมัตภรรยา

…..หลังจากพิชิตป้อมปราการที่คอยบัร และท่านบีได้แต่งงานกับพระนางซอฟียะห์ อานัสบินมาลิกเล่าว่า : ต่อมาเราก็เดินทางกลับสู่เมืองมาดีนะห์ และฉันเห็นท่านนบีเอาผ้าชนิด1มาปิดข้างหลังเสลียงอูฐของท่านให้กับซอฟียะห์ แล้วท่านนบีก็ลงไปนั่งข้างๆอูฐ แล้วชันเข่าขึ้น และซอฟียะห์ก็เหยียบบนเข่าของท่านนบีขึ้นไปนั่งขี่บนหลังอูฐ ( บุคคอรีย์ 4211 )
***ถ้าเทียบกับในสมัยปัจจุบัน ก็คงเป็นการเปิดประตูรถให้กับภรรยา

20. หลายๆอย่างที่นบีทำเองได้ ท่านก็จะทำเองไม่ใช้ภรรยา

.....มีคนถามอาอีชะห์ว่า ท่านนบีปฎิบัติตัวอย่างไร ยามที่ท่านอยู่ในบ้าน อาอีชะห์ตอบว่า : ท่านนบีก็เหมือนมนุนษ์ปุถุชนธรรมดาทั่วๆไป ท่านจะปะเย็บเสื้อเอง รีดนมแพะเอง ทำอะไรด้วยตัวเอง เย็บร้องเท้าเอง ทำงานบ้านเอง
( อัลมาวาฮิบอัลลาดุนนียะห์ อาอัชชามาเอ็ลอัลมูฮัมมาดียะห์ หน้า 548-549 )
…..อัสวัดเล่าว่า : ฉันได้ถามอาอีชะห์ว่า ท่านนบีปฎิบัตตัวอย่างไรขณะที่อยู่กับครอบครัว อาอีชะห์ตอบว่า : ท่านนบีจะช่วยงานบ้านของภรรยา และเมื่อถึงเวลาละหมาด ท่านนบีก็จะออกไปละหมาด ( บุคคอรีย์ 6039 )

21. ตักเตือนภรรยาอยู่ตลอดและเตือนอย่างนิ่มนวล

.....ท่านนบีกล่าวว่า : พวกท่านจงสั่งเสียภรรยาให้ทำความดี แท้จริงพวกนางถูกสร้างมาจากซี่โครง และซี่โครงที่งอที่สุดคือซี่โครงด้านบนสุด หากท่านดัดมันให้ตรงมันก็จะหัก หากท่านปล่อยมันไว้ มันก็จะงออยู่อย่างนั้น ดังนั้นพวกท่านจงค่อยๆสั่งเสียพวกนาง ( มุสลิม 3632 )
***ผู้หญิงถูกสร้างมาจากซี่โครงที่อยู่ใกล้กับหัวใจที่สุด ดังนั้นเมื่อดูแลผู้หญิง ควรดูแลด้วยกับหัวใจ

22. ท่านบีจะไม่มองแต่ความผิดของภรรยา แต่จะมองความดีที่มีอยู่ของนางด้วย

.....ท่านนบีกล่าวว่า : สามีอย่าได้เอาแต่โกรธเคืองภรรยา เพราะหากเขาไม่พอใจมารยาทบางอย่างของนาง เขาก็ยังพอใจมารยาทอย่างอื่นของนาง ( มุสลิม 3643 )

23. เมื่อภรรยาปรารถนาดุนยามาไป ท่านนบีก็จะทำให้นางได้รู้ว่าสิ่งนี้มันไม่ควร ( มุสลิม1478 )

24. ท่านนบีจะคอยกระตุ้นให้ภรรยาทำความดีอยู่เสมอ

…..ท่านบีกล่าวว่า : ขออัลลอฮ์ได้ทรงเมตตาบ่าวคนหนึ่ง ที่เขาลุกขึ้นมาละหมาดในยามค่ำคืน เมื่อเขาละมาดเสร็จ เขาก็ปลุกภรรยา และหากนางไม่ตื่น เขาก็เอาน้ำมาพรมที่ใบหน้าของนาง ( อบูดาวุด 1450 )

.....อาอีชะห์เล่าว่า : เมื่อท่านนบีลุกขึ้นละหมาดในยามค่ำคืน โดยที่ฉันนอนอยู่ข้างหน้าท่าน เมื่อท่านละหมาดเสร็จจนเหลือแค่วิเตร ท่านนบีก็จะปลุกฉันให้ลุกขึ้นไปละหมาด ( มุสลิม 744 )

25. ถ้าภรรยาทำผิด ท่านบีก็จะคอยเตือน ไม่ปล่อยเลยตามเลย (เพราะรักจึงตักเตือน)

.....อาอีชะห์เล่าว่า : ฉันเคยพูดกับท่านนบีว่า พอเพียงแล้วกับท่านที่ ซอฟียะห์เป็ยคนเตี๊ย(หมายถึง:อาอีชะห์ตำหนิซอฟียะห์ลับหลัง) ท่านนบีก็กล่าวว่า : แท้จริงคำพูดที่เธอได้พูดไป หากว่าเอามันไปผสมกับน้ำทะเล แน่นอนน้ำทะเลก็จะต้องเปลี่ยงแปลง ( อบูดาวุด 4875 )

26. ให้ภรรยาทาน้ำหอมให้

.....อาอีชะห์เล่าว่า : ฉันมักจะทาน้ำหอมให้ท่านนบีอยู่ตลอด ด้วยกับน้ำหอมที่หอมที่สุดที่ท่านนบีมี จนกระทั่งฉันเห็นความแวววาวอยู่ทีศรีษะ และเคราของท่านนบี ( บุคคอรีย์ 5923 )

27. ให้ภรรยาเป็นที่ปรึกษาและรับฟังความเห็นของภรรยา

.....ในช่วงสนธิสัณญาฮูดัยบียะห์มุสลิมได้รับความเสียเปรียบอย่างมาก และมุสลิมจำนวนมากโกรธ และ ไม่พอใจเนื่องจากสิ่งทีพวกเขาเห็น จากการโดนรังแกและเอาเปรียบ และเมื่อท่านนบีรู้ว่าไม่สามารถเข้ามักกะห์ในปีนี้ได้ ท่านจึงสั่งให้บรรดาซอฮาบะห์เชือดสัตว์ที่พามา และโกนผม ท่านนบีพูดถึงสามครั้ง แต่ไม่มีใครลุกขึ้นไปทำเลย ท่านนบีจึงได้เข้าไปหาอุมมูซาลามะห์ และเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้นางฟังเพื่อปรึกษา อุมมูซาลามะห์จึงบอกว่า : โอ้นบีของอัลลอฮ ท่านปรารถนาจะให้ผู้คนทำแบบนั้นใช่มั้ย ถ้างั้น ท่านจงออกไป และอย่าได้พูดกับใคร และให้ท่านเชือดสัตว์และโกนผม ดังนั้นเมื่อผู้คนเห็นท่านนบีทำแบบนั้น ผู้คนจึงได้ทำตาม ( บุคคอรีย์ 2731)
***สมควรอย่างยิ่งที่ภรรยาจะต้องเป็นเพื่อนคู่คิดให้สามีในยามที่เขาต้องการที่ปรึกษา

28. ท่านนบีจะทำความดีกับคนที่ภรรยารักทั้งในขณะที่ภรรยามีชีวิตอยู่และหลังจากที่ภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว

.....อาอีชะห์ได้เล่าว่า : ฉันไม่เคยหึงผู้หญิงคนใดเหมือนที่ฉันหึงคอดียะห์เลย ทั้งที่นางเสียชีวิตก่อนหน้าที่ฉันจะแต่งงานสามปี เนื่องจากฉันได้ยินท่านนบีกล่าวถึงนางตลอด และ อัลลอฮ์ก็ได้สั่งให้นบีแจ้งข่าวดีกับนาง ถึงบ้านหลังหนึ่งในสวนสวรรค์ที่ถูกสร้างมาจากไขมุกกลวง และท่านนบีมักจะเชือดแพะ และนำไปให้กับเพื่อนๆคนที่นางรัก ( บุคคอรีย์ 6004 ติรมีซีย์ 3913 )

29. เดินไปส่งภรรยาที่บ้าน

.....ในช่วงสิบคืนสุดท้ายของดือนรอมดอน ในขณะที่ท่านนบีได้เอี๊ยะติก๊าฟอยู่ที่มัสยิด พระนางศอฟียะห์ได้มาหาท่านนบี และ ได้มาพูดคุยกับท่านนบีช่วงเวลาหนึ่งหลังละหมาดอีชา หลงจากนั้นนางก็ได้ยืนขึ้นจะกลับบ้าน ท่านนบีก็ได้ยืนขึ้นพร้อมนาง และ เดินไปส่งนาง ( บุคคอรีย์ 6219 )

30. พูดปลอบใจภรรยา

.....อาอีชะห์เล่าว่า เราได้เนียตครองเอี๊ยห์รอมฮัจญ์แบบตามัตตั๊วอ์ และเมื่อเราเดินทางมาถึงที่ซาริฟ ฉันเกิดมีประจำเดือน ฉันจึงได้เข้าไปหาท่านนบีในสภาพที่ฉันร้องไห้ ท่านนบีจึงได้ถามฉันว่า : อาอีชะห์อะไรทำให้เธอร้องไห้หรือ? ฉันจึงตอบว่า ฉันมีประจำเดือน ฉันคงทำฮัจญ์ไม่ได้แล้ว ท่านนบีจีงได้บอกกับฉันว่า : มหาบริสุทธิ์แด่อัลลอฮ์ อย่าเสียใจไปเลย การมีเลือดประจำเดือนเป็นสิ่งที่อัลลอฮ์กำหนดให้ผู้หญิงทุกคนต้องมีอยู่แล้ว หลังจากนั้นท่านนบีก็ได้สั่งให้อาอีชะห์เหนียตครองเอี๊ยห์รอมแบบอิฟร๊อดแทน และหลังจากนั้นท่านนบีก็สั่งให้พี่ชายของเธอ พาเธอไปทำอุมเราะห์หลังจากเสร็จพิธีฮัจญ์แล้ว ( อบูดาวุด 1782 )

***ไม่มีใครสามารถใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้หรอก ขนาดนบีอาดัม อัลลอฮ์ยังทรงส่งพระนางฮาวามาอยู่เป็นเพื่อนเลย

***เมื่อชีวิตคู่คือหนทางที่หลายๆคนต้องพบเจอ ดังนั้น ควรหาวิธีที่จะอยู่กับมันอย่างมีความสุขที่สุด ซึ่งท่านนบีเป็นแบบอย่างให้กับเราในทุกด้าน ทุกแง่มุมของการใช้ชีวิต ถึงแม้ในเรื่องของความรักในการครองชีวิตคู่ก็ตาม

***ประชาชาติอิสลามไม่ควรมองหา และ พยายามไคว่คว้าความรักเหมือนของแจ็คกับโรส หรือ โรมีโอกับจูเลียต แต่ควรมองหาความรักที่ถูกต้องตามครรลองเหมือนของท่านนบีมูฮัมหมัดกับภรรยา

บทความดีๆโดย: Nut Radinghin

https://islamhouse.muslimthaipost.com/

อัพเดทล่าสุด