เดือนชะอฺบาน (คืออะไร หมายถึง ความหมาย) ในอิสลาม


30,751 ผู้ชม

ความหมายของเดือนชะอฺบาน การเตรียมพร้อมในเดือนชะอฺบาน ความประเสริฐของเดือนชะอฺบาน และสุนนะฮฺที่ให้ปฏิบัติในเดือนชะอฺบาน...


เดือนชะอฺบาน (คืออะไร หมายถึง ความหมาย) ในอิสลาม

ทางมุสลิมไทยโพสต์ ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเดือนชะอฺบาน ที่มุสลิมควรรู้ อาทิ เช่น ความหมายของเดือนชะอฺบาน การเตรียมพร้อมในเดือนชะอฺบาน ความประเสริฐของเดือนชะอฺบาน และสุนนะฮฺที่ให้ปฏิบัติในเดือนชะอฺบาน

ความหมายของคำว่า ชะอฺบาน

คำว่า ชะอฺบาน เป็นคำเอกพจน์ คือ ชื่อหนึ่งในบรรดาชื่อเดือนของอิสลาม เป็นเดือนลำดับที่ 8 ตามปฏิทินอิสลาม อยู่ระหว่างเดือนเราะญับกับเดือนเราะมะฎอน

ส่วนสาเหตุที่เรียกเดือนนี้ว่า ชะอฺบาน เป็นเพราะในเดือนนี้ชาวอาหรับจะกระจายกันออกไปหาน้ำ หรือกระจัดกระจายกันออกไปทำสงคราม (มาจากรากศัพท์เดิมของคำว่า  الْقَوْمُ تَشَعَّبَ  (อ่านว่า ตะชะอะบะ อัลเกามุ) أي تفرق หมายถึง แยกย้าย หรือกระจัดกระจายออกไป) (ดู ฟัตหุลบารีย์ เล่ม4 หน้า 251 ) หลังจากที่พวกเขาได้หยุดพักจากการทำสงครามในเดือนเราะญับเพราะเป็นเดือนหะรอมหรือเดือนต้องห้ามทำสงคราม

อุละมาอ์บางท่าน ระบุว่า สาเหตุที่เรียกเช่นนั้น เพราะเดือนนี้ปรากฏอยู่ช่วงกลางระหว่างเดือนเราะญับกับเดือนเราะมะฎอน (มาจากรากศัพท์เดิมของคำว่า الشَّعَبُ  อ่านว่า อัชชะอะบุ หมายถึง ช่วงที่อยู่ระหว่างสองไหล่ หรือสองเขาสัตว์)

การเตรียมพร้อมในเดือนชะอฺบาน

ชะอฺบาน คือ ประตูสู่เดือนเราะมะฎอน เป็นเดือนที่ใกล้เคียงกับเราะมะฎอนมากที่สุด จึงเป็นโอกาสเดียวจะเตรียมตัวเข้าสู่เดือนเราะมะฎอนในทุกๆ ด้าน

ท่านซะละมะฮฺ อิบนุ สุฮัยล์ (บ้างว่า อิบนุ กุฮัยล์) และอุมัร อิบนุ ก็อยส์ กล่าวว่า “เดือนชะอฺบานคือเดือนแห่งนักอ่านอัลกุรอาน“

ท่านอุมัร อิบนุ ก็อยส์ นั้น เมื่อชะอฺบานมาเยือนท่านจะปิดประตูบ้านเพื่อให้เวลากับการอ่านอัลกุรอาน

จากคำกล่าวของอุละมาอ์ข้างต้น พอจะสรุปได้ว่า พวกเขาได้เตรียมตัวอย่างจริงจังในการต้อนรับเดือนเราะมะฎอนแม้จะมีเวลาอีกหนึ่งเดือนก็ตาม

เดือนชะอฺบาน (คืออะไร หมายถึง ความหมาย) ในอิสลาม
 

ความประเสริฐของเดือนชะอฺบาน

 มีหะดีษมากมายที่รายงานถึงความประเสริฐของเดือนชะอฺบาน มีทั้งที่เป็นหะดีษเศาะฮีหฺ หะดีษหะสัน หะดีษเฎาะอีฟ (อ่อน) และหะดีษเมาฎูอฺ (หะดีษปลอม) ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1. การถือศีลอดในเดือนชะอฺบาน

รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา เล่าว่า

“ท่านบีได้ถือศีลอดในเดือนนี้จนกระทั่งพวกเรากล่าวว่า ท่านไม่ได้ละศีลอดเลย และท่านนบีไม่ได้ถือศีลอดจนกระทั่งพวกเรากล่าวว่าท่านไม่ได้ถือศีลอดเลย และฉันไม่เคยเห็นท่านนบีถือศีลอดเต็มเดือนนอกจากเดือนเราะมะฎอน และฉันไม่เคยเห็นท่านนบีถือศีลอดอย่างมากมายนอกจากเดือนนี้ชะอฺบาน”

(อัลบุคอรีย์ 1833, มุสลิม 1956 )

2 การอภัยโทษของอัลลอฮฺในค่ำคืนที่ 15 ของชะอฺบาน

รายงานจากท่านอบูมูซา อัลอัชอะรีย์ จากท่านเราะซุลลุลลอฮฺ (ซ.บ.) กล่าวความว่า

“แท้จริงอัลลอฮฺจะมองดูในค่ำคืนวันที่ 15 ของเดือนชะอฺบาน ดังนั้นพระองค์จะทรงให้อภัยแก่ทุกสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างนอกจากผู้ที่ตั้งภาคี(มุชริก) หรือคนที่เป็นศัตรูกัน”

(รายงานโดยอิบนุ มาญะฮฺ, อัลอัลบานีย์กล่าวว่าหะดีษนี้เป็นหะดีษหะสัน ดู อัสสิลสิละฮฺ อัศเศาะฮีหะฮฺ หมายเลข 1144)

อย่างไรก็ตามหะดีษนี้และหะดีษอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันยังมีความขัดแย้งระหว่างบรรดาอุละมาอ์ถึงระดับความถูกต้องของมัน ตามที่อิบนุ เราะญับได้ระบุไว้ใน ละฏออิฟ อัลมะอาริฟ

อิบนุ ดิห์ยะฮฺ ได้กล่าวว่า "เหล่าอุละมาอ์เกี่ยวกับสายรานได้ระบุว่า ไม่มีหะดีษใดเกี่ยวกับคืนนิศฟู ชะอฺบาน ที่เป็นหะดีษทถูกต้องเลย"

(อัลบาอิษ อะลา อินการ อัลบิดะอฺ ของ อิบนุ ชามะฮฺ หน้า 127)

การถือศีลอดในดือนชะอฺบาน

1 สุนนะฮฺให้ถือศีลอดในเดือนชะอฺบาน

การถือศีลอดในเดือนชะอฺบานถือว่าเป็นสุนนะฮฺของท่านนบี (ซ.ล.) ที่ควรปฏิบัติตามยิ่ง เนื่องจากมีหะดีษที่รายงานด้วยสายรายงานที่เศาะฮีหฺ ที่รายงานโดยท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา เล่าว่า

“ท่านนบีได้เคยถือศีลอดในเดือนนี้จนกระทั่งพวกเรากล่าวว่า ท่านไม่ได้ละศีลอดเลย และท่านนบีเคยไม่ถือศีลอดในเดือนนี้จนกระทั่งพวกเรากล่าวว่าท่านไม่ได้ถือศีลอดเลย และฉันไม่เคยเห็นท่านนบีถือศีลอดเต็มเดือนนอกจากเดือนเราะมะฎอน และฉันไม่เคยเห็นท่านนบีถือศีลอดอย่างมากมายนอกจากเดือนนี้คือชะอฺบาน”

(อัลบุคอรีย์ 1833, มุสลิม 1956 )

ในอีกสายรายงานหนึ่งของมุสลิม 1957 “ท่านนบีได้ถือศีลอดทั้งเดือนชะอฺบาน และท่านนบีได้ถือศีลอดทั้งเดือนนอกจากวันน้อยนิด(ที่ท่านไม่ได้ถือศีลอด)”

ส่วนวิธีการถือศีลอดของท่านนบี (ซ.ล.) ในเดือนนี้ มีทัศนะที่แตกต่างกันไป โดยสรุปแล้ว ท่านนบีไม่ได้ถือศลอดตลอดทั้งเดือนชะอฺบาน แต่ท่านนบีจะถือศีลอดในเดือนนี้มากกว่าเดือนอื่นๆ (ทัศนะของอุละมาอ์ส่วนหนึ่ง อาทิ อับดุลลอฮฺ อิบนุ มุบาร็อก)

ท่านอิมาม อิบนุ เราะญับ ได้อธิบายถึงความประเสริฐของการถือศีลอดในเดือนชะอฺบานนี้ว่า

“การถือศีลดอดในเดือนชะอฺบานนั้นดีกว่าการถือศีลอดในเดือนที่ทรงห้ามการทำสงคราม (อัชฮุรฺ อัลหุรุม) และเป็นสุนัตที่ดีที่สุดเนื่องจากอิบาดะฮฺทุกอย่างที่ใกล้เคียงกับเดือนเราะมะฎอน จะก่อนหรือหลังเราะมะฎอนก็ตามแต่ ระดับความประเสริฐของมันเหมือนกับระดับความประเสริฐของการละหมาดสุนัตเราะวาติบกับการละหมาดฟัรฎูจะก่อนหรือหลังละหมาดก็ตามแต่ และมันจะช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดหรือบกพร่องไปในส่วนที่เป็นฟัรฎู เช่นเดียวกับการถือศีลอดก่อนเราะมะฎอนและหลังเราะมะฎอน ในเมื่อการละหมาดสุนัตเราะวาติบเป็นสุนัตที่ดีที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการละหมาด ดังนั้นการถือศีลอดก่อนเราะมะฎอนและหลังเราะมะฎอนก็เป็นสุนัติที่ดีที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการถือศีลอดเช่นเดียวกัน” (ดู ละฏออิฟ อัลมะอาริฟ)

เดือนชะอฺบาน (คืออะไร หมายถึง ความหมาย) ในอิสลาม

ส่วนสาเหตุที่ว่า ทำไมท่านนบี (ซ.ล.) ได้ถือศีลอดในเดือนชะอฺบานนี้มากกว่าเดือนอื่นๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้บรรดาอุละมาอ์ได้มีทัศนะดังนี้

     1. เพราะท่านนบี (ซ.ล.) ไม่สามารถถือศีลอด 3 วัน ประจำเดือนได้เนื่องจากท่านมีภารกิจและการเดินทางไกล(มุซาฟิร) ดังนั้นท่านจึงมารวบรวมทั้งหมดไว้ในเดือนนี้ เพราะท่านนบี (ซ.ล.) นั้นจะปฏิบัติสิ่งที่เป็นสุนัตต่างๆ ทั้งหมด เมื่อท่านได้ละทิ้งเพราะเหตุจำเป็นท่านก็จะชดใช้แทนในช่วงเวลาอื่น

     2. เพราะภรรยาของท่านส่วนใหญ่จะถือศีลอดชดเชยในเดือนแห่งนี้ ท่านจึงถือศีลอดด้วย แต่เป็นทัศนะที่ขัดแย้งกับที่มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา ที่ระบุว่า นางเจตนายืดเวลาถือศีลอดชดเชยมาไว้ในช่วงท้ายของปี เพื่อที่จะได้ถือศีลอดพร้อมๆ กับท่านนบี(ซ.ล.) ในเดือนชะอฺบาน

     3. เพราะเป็นเดือนที่คนทั่วไปมักจะหลงลืมจากการถือศีลอด และเป็นเดือนที่อะมัลในรอบปีจะถูกยกขึ้นไปยังอัลลอฮฺ นี่เป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักที่สุด ดังมีรายงานจากหะดีษของท่านนบี (ซ.ล.) จากอุสามะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ความว่า

“เดือนชะอฺบานแห่งนี้เป็นเดือนที่หลายคนหลงลืมมัน ซึ่งอยู่ระหว่างเดือนเราะญับและเดือนเราะมะฎอน มันเป็นเดือนที่อะมัลต่างๆ จะถูกยกขึ้นไปยังองค์อภิบาลแห่งสากลโลก ดังนั้นฉันจึงพอใจที่จะให้อะมัลของฉันถูกยกขึ้นสู่พระองค์ในสภาพที่ฉันกำลังถือศีลอดอยู่”

(อันนะสาอีย์ 2357)

2  การเจตนาเริ่มถือศีลอดหลังครึ่งเดือนของชะอฺบาน

การถือศีลอดในเดือนชะอฺบานถือว่าเป็นสุนนะฮฺของท่านนบี(ซ.ล.) แต่ประเด็นที่สำคัญประการหนึ่ง คือการเจตนาเริ่มถือศีลอดหลังจากครึ่งเดือนแรกของชะอฺบานผ่านไปแล้ว

ท่านอิหม่าม อิบนุ มุลักกิน ซึ่งเป็นอุละมาอ์ในสังกัดมัซฮับชาฟิอีย์ ได้อธิบายว่า

“แท้จริงเมื่อครึ่งหลังของเดือนชะอฺบานมาถึง การเจตนาเริ่มถือศีลอดถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องห้าม ซึ่งเป็นทัศนะของบรรดาอุละมาอ์มุหักกิกูน(อุละมาอ์ผู้ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ) ในมัซฮับของเรา(มัซฮับชาฟิอีย์)

ดังหะดีษที่รายงานโดยอบูฮุร็อยเราะฮฺ เล่าว่า ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวความว่า “เมื่อถึงครึ่งเดือนของชะอฺบาน จงอย่าได้ถือศีลอด“ 

(รายงานโดยอัต-ติรมิซีย์ 738 และอบู ดาวูด 2337 ดู อิอฺลาม ฟะวาอิดอุมดะติลอะห์กาม ของอิบนุ มุลักกิน  เล่ม 5  หน้า 159-169)

อย่างไรก็ตาม การถือศีลอดที่ถูกห้ามในข้างต้นคือกรณีที่มีเจตนาและเจาะจงว่าจะเริ่มการถือศีลอดหลังจากวันที่ 15 ของเดือนชะอฺบานเป็นต้นไป ส่วนกรณีที่ไม่ได้มีเจตนาที่จะเริ่มถือศีลอดหลังจากวันที่ 15 ของเดือนชะอฺบานดังกล่าว ถือว่าเป็นสิ่งที่อนุมัติ

3  การถือศีลอดชดเชย (เกาะฎออ์) ในเดือนชะอฺบาน

การถือศีลอดชดเชย (เกาะฎออ์) สำหรับผู้ที่ได้ละทิ้งศีลอดในเดือนเราะมะฎอนถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น (วาญิบ) ซึ่งมีระยะเวลาที่ยาวนานเป็นปี กล่าวคือเดือนชะอฺบานคือเดือนสุดท้ายที่สามารถถือศีลอดชดเชยได้ หากพ้นเวลาดังกล่าวโดยไม่มีเหตุจำเป็น อาทิ ป่วยหรืออื่นๆจะต้องถูกปรับและต้องได้รับบาป และหากไม่ชดเชยจนถึงเดือนเราะมะฎอนปีหน้า เขาจะต้องขออภัย (เตาบัต) ต่ออัลลอฮฺ และถือศีลอดชดเชยพร้อมกับต้องให้อาหารแก่ผู้ยากไร้ (ฟากิรฺมิสกีน) ทุกวันตามที่จำนวนวันที่เขาได้ละทิ้ง (ตามทัศนะของอิมามชาฟิอีย์ อิมามมาลิก และอิมามอะหฺมัด)

4  การถือศีลอดในช่วงท้ายของเดือนชะอฺบาน (1-2 วัน ก่อนเข้าเราะมะฎอน)

การถือศีลอดในช่วงท้ายนี้ แบ่งออกเป็น 3 กรณี ดังนี้

กรณีที่ 1  ถือศีลอดด้วยการเนียตว่า ข้าพเจ้าถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน เพื่อเผื่อว่าอาจจะเข้าเดือนเราะมะฎอน กรณีนี้ ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม)

กรณีที่ 2  ถือศีลอดเพราะมีการนะซัรไว้ หรือเพื่อชดเชย (เกาะฎออ์) ที่ขาดไป หรือเพื่อทดแทนกรณีที่ผิด (กัฟฟาเราะฮฺ) กรณีนี้ ถือว่าเป็นสิ่งอนุญาต (ยะญูซ)

กรณีที่ 3  ถือศีลอดสุนัตทั่วๆไป (สุนัตมุฏลัก) กรณีนี้ มีทัศนะที่แตกต่างกัน ดังนี้

     1. ถือว่าเป็นสิ่งที่มักรูฮฺ เพราะมีคำสั่งให้เว้นว่างจากการถือศีลอดระหว่างชะอฺบานกับเราะมะฎอน ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิบัติมาเป็นประจำอย่างต่อเนื่องก็ตาม (ทัศนะของ อัลหะสัน)

     2. ถือว่าเป็นสิ่งที่อนุญาต (ทัศนะของอิมามมาลิก)

     3. สามารถทำได้ (อนุญาต) ถ้าเป็นการถือศีลอดที่เขาเคยปฏิบัติมาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง (ทัศนะของอิมามชาฟิอีย์, เอาซาอีญ์ และอิมามอะหฺมัด )

ที่มา: https://saaid.net/mktarat/12/8.htm

แปล : นุมาน อิสมาอีล สะอะ / Islam House

อัพเดทล่าสุด