มนุษย์จะถูกลงโทษเนื่องจากการละเลยของพวกเขาต่อการรู้จักอัลลอฮฺ ตะอาลา การละทิ้งไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระองค์ และฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของพระองค์ และอัลลอฮฺ ตะอาลา นั้นจะไม่ลงโทษดวงวิญญาณที่รู้จักพระองค์ มีความรักในพระองค์ ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ และละเว้นไม่ปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม
การลงโทษในหลุมฝังศพ
จงระลึกถึงชีวิตหลังความตายในหลุมฝังศพ มนุษย์จะถูกลงโทษเนื่องจากการละเลยของพวกเขาต่อการรู้จักอัลลอฮฺ ตะอาลา การละทิ้งไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระองค์ และฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของพระองค์ และอัลลอฮฺ ตะอาลา นั้นจะไม่ลงโทษดวงวิญญาณที่รู้จักพระองค์ มีความรักในพระองค์ ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ และละเว้นไม่ปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม
แท้จริง การลงโทษในหลุมฝังศพ และการลงโทษในอาคีเราะห์ต่างเป็นผลสืบเนื่องมาจากความโกรธกริ้ว และความพิโรธของอัลลอฮฺที่มีต่อบ่าวของพระองค์ ผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงโกรธกริ้วเขาในโลกนี้ และเขามิได้ขออภัยโทษแล้วได้ถึงแก่กรรมลง เขาจะถูกลงโทษในบัรซัค(โลกของคนตาย) หนักเบาก็สุดแล้วแต่ปริมาณแห่งความผิด และความโกรธกริ้วของพระองค์
สภาพของการลงโทษ
ท่านนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้บอกเล่าถึงชาย 2 คน ที่ท่านมองเห็นว่าเขาทั้งสองถูกลงโทษในหลุมฝังศพ คนหนึ่งสัญจรไปเพื่อสร้างความแตกแยกในระหว่างผู้คน และอีกคนหนึ่งไม่ชำระล้างปัสสาวะให้สะอาด
คนแรกเขาได้ละทิ้งการทำความสะอาดที่เป็นวาญิบ ส่วนอีกคนทำบาปด้วยการสร้างความเป็นศัตรูกันในระหว่างมนุษย์ด้วยลิ้นของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะพูดในสิ่งที่เป็นความจริงก็ตาม ดังนั้นเท่ากับว่าหะดีษนี้ได้เตือนถึงการสร้างความเป็นอริกันระหว่างมนุษย์ด้วยการโกหก การโป้ปด การใส่ร้าย ซึ่งถือว่าเป็นความผิดที่จะต้องถูกลงโทษอย่างหนักกว่า
ในทำนองเดียวกันหากการไม่เอาใจใส่ในการชำระล้างปัสสาวะให้สะอาดนั้นเป็นสาเหตุให้ถูกลงโทษในกุบูร ก็เท่ากับเป็นการเตือนว่าการทิ้งละหมาด (ซึ่งการชำระล้างปัสสาวะให้สะอาดนั้นเป็นเงื่อนไขหนึ่ง(ชุรูต)ของความใช้ได้ของการละหมาด) ย่อมจะถูกลงโทษรุนแรงกว่า โดยในรายงานหนึ่งจากอัลหะดีษมีว่า “หนึ่งในสองนั้นถูกลงโทษเนื่องจากเขาเคยกินเนื้อมนุษย์” คือการนินทา นั่นก็หมายถึงเขาเป็นผู้ก่อให้เกิดความแตกแยกนั่นเอง
และมีรายงานจากท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า : “ แท้จริงชายคนหนึ่งถูกตีด้วยแส้ในหลุมฝังศพ มันทำให้ไฟลุกโชนเต็มหลุมฝังศพของเขา” เพียงเพราะว่าเขาละหมาดครั้งหนึ่งโดยไม่มีความสะอาด และเขาเดินไปพบเห็นผู้ที่ถูกอธรรมโดยไม่ให้ความช่วยเหลือ (รายงานโดย الطحاوي ด้วยสายรายงานที่หะซัน)
และยังได้มีรายงานจากหะดีษของท่าน สะมุเราะฮฺ อิบนุ ญุนดุบ ซึ่งรายงานโดย อิมามอัลบุคอรียฺ ถึงการลงโทษผู้ที่เผยแพร่เรื่องโกหกจนมันกระจายไปทั่วสารทิศ และการลงโทษผู้ที่อ่านอัลกุรอาน แล้วเขาเข้านอน(โดยละเลยต่ออัลกุรอาน)ในตอนกลางคืน และเขาไม่ได้ปฏิบัติตามอัลกุรอานในตอนกลางวัน
และหะดีษนี้ยังได้กล่าวถึงการลงโทษผู้กินดอกเบี้ย ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้เล่าถึงสภาพของพวกเขาตามที่ท่านได้เห็นภาพจากบัรซัคโลกของคนตาย
ในหะดีษอื่นรายงานว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้พบชนกลุ่มหนึ่งซึ่งถูกทุบตีศีรษะด้วยก้อนหิน เนื่องจากพวกเขารู้สึกหนักมากในการโงศีรษะของตนเพื่อลุกขึ้นทำการละหมาด
และบรรดาผู้ที่กินต้นไม้หนามالضريع และต้นไม้ขม الزقوم (ต้นไม้ทั้งสองมีอยู่ในนรก) เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ไม่จ่ายซะกาต และพบกลุ่มชนหนึ่งที่แย่งกันกินเนื้อที่เหม็นเน่า พวกเขาคือบรรดาผู้ที่ทำซินา
และท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็ได้พบกับชนกลุ่มหนึ่งที่ริมฝีปากของพวกเขาถูกตัดด้วยกรรไกรเหล็ก พวกเขาคือผู้ที่ยุยงให้เกิดความยุ่งเหยิง ด้วยคำพูดและการบรรยายต่างๆ
มีหะดีษจากท่านอบูสะอีดรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า ท่านได้เล่าถึงบทลงโทษว่า บางคนมีท้องใหญ่โตดังบ้าน บุคคลเหล่านี้คือ “ ผู้ที่กินดอกเบี้ย” และบางคนปากของพวกเขาถูกอ้าให้เปิดออก แล้วพวกเขาต้องกลืนเอาก้อนถ่านไฟแดงๆ จนถ่านไฟนั้นหลุดออกจากตัวของพวกเขาไปทางทวารหนัก บุคคลเหล่านี้คือผู้ที่กินทรัพย์สินของเด็กกำพร้าโดยอธรรม
และบางคนเป็นหญิงที่นมของนางถูกเกี่ยวแขวนไว้ พวกหล่อนคือหญิงที่ทำซินา ( ผิดประเวณี ) และบางพวกที่เนื้อตรงสีข้างของพวกเขาถูกตัดและพวกเขาต้องกัดกินมัน พวกเขาคือ คนที่ชอบนินทา บางพวกเล็บของเขาเป็นทองเหลือง พวกเขาใช้ขีดข่วนใบหน้าของตัวเอง พวกเขาเหล่านี้ ผู้ที่ทำลายเกียรติยศของคนอื่น
เหตุแห่งการลงโทษ
ฉะนั้น การลงโทษในหลุมฝังศพเกิดจากการฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺ ตะอาลา ด้วยหัวใจ ตา หู ปาก ลิ้น กระเพาะ อวัยวะเพศ มือ เท้า และทุกส่วนของร่างกาย อาทิเช่น ...
การยุแหย่ให้เกิดการแตกแยก , การโกหก , การนินทา , การเป็นพยานเท็จ , การกล่าวหาหญิงบริสุทธิ์ว่าทำชั่ว , การยุยงให้เกิดความยุ่งเหยิง , การแนะนำให้ประกอบสิ่งที่เป็นการอุตริกรรม( บิดอะฮฺ ) , การกล่าวเกี่ยวกับอัลลอฮฺ และเราะซูลโดยที่เขาไม่มีความรู้ , การพูดพล่อยไม่รู้จักคิด , การกินดอกเบี้ย , การกินทรัพย์ของเด็กกำพร้า , การกินสินบน ...
การฉ้อโกงทรัพย์ของพี่น้องของเขา , การเสพสิ่งมึนเมา , การผิดประเวณี , การร่วมประเวณีทางทวารหนัก , การลักขโมย , การทรยศ, การหลอกลวง , การบิดพริ้วสัญญา ...
การเกี่ยวข้องกับดอกเบี้ย ได้แก่ผู้กินดอกเบี้ย ผู้ให้ดอกเบี้ย ผู้บันทึกสัญญาที่มีดอกเบี้ย และผู้เป็นพยาน...
การใช้เล่ห์เหลี่ยมในการลบล้างบทบัญญัติของอัลลอฮฺ และในการละเมิดสิ่งที่ต้องห้ามต่างๆ , การทำร้ายต่อเหล่ามุสลิม และ การสอดแนมในสิ่งที่พวกเขาปกปิด , การตัดสินด้วยบทบัญญัติอื่นที่ไม่ใช่บทบัญญัติของอัลลอฮฺ การชี้ขาดปัญหาโดยขัดกับบทบัญญัติของอัลลอฮฺ...
การให้ความช่วยเหลือต่อการทำบาปและการก่อให้เกิดการเป็นศัตรูกัน , การสังหารชีวิตบุคคลที่อัลลอฮฺทรงพิทักษ์ไว้, ผู้ที่ออกนอกบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ...
ผู้ที่ปฏิเสธคุณลักษณะของอัลลอฮฺ , ผู้ที่ปฏิบัติตามความคิด อารมณ์ของตนเองโดยผิดไปจากคำสอนของท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม
ผู้หญิงที่ร้องไห้รำพึงรำพันในงานศพ และผู้ที่นั่งฟัง , ผู้ขับร้องเพลงที่ไม่อนุมัติและผู้รับฟังบทเพลงของพวกเขา , ผู้ที่สร้างมัสยิดบนหลุมฝังศพ โดยที่พวกเขาจุดตะเกียง และเทียนไขบนหลุมฝังศพ , ผู้ที่ทำให้พร่องในการชั่งตวง , ผู้ที่มีความยโส ลำพองตน โอ้อวด , ผู้ชอบกล่าวตำหนิ ชอบกล่าวให้ร้าย ...
ผู้ที่ไปหานักทำนายโชคชะตา โหร ผู้ที่อ้างว่ารู้อนาคต เพื่อถามบางสิ่งจากพวกเขาและเชื่อในสิ่งที่พวกนั้นพูด , ผู้ที่เมื่อท่านเตือนและสำทับเขาให้เกรงกลัวและรำลึกถึงอัลลอฮฺ เขากลับไม่หยุดยั้งในการทำความชั่ว แต่หากท่านขู่เขาด้วยสิ่งถูกสร้างอื่นๆเหมือนตัวเขา เขากลับกลัวและหยุดตัวเองจากความชั่วนั้นได้ , ผู้ที่ได้รับการนำทางด้วยถ้อยของอัลลอฮฺ และรอซูล แต่เขาไม่เดินตามทางนั้น...
ผู้ที่อ่านอัลกุรอ่าน แต่การอ่านนั้นไม่มีผลต่อเขา แต่เมื่อเขาฟังคัมภีร์ของชัยฏอนหรือเวทมนตร์ของการซินาหรือวัตถุดิบของการนิฟากเขากลับมีความสุข และเกิดความเบิกบานในหัวใจ และในใจไม่อยากให้นักร้องคนนั้นหยุดร้องเพลง...
ผู้ที่ได้สาบานต่ออัลลอฮฺไว้ แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสาบานนั้น แต่เมื่อเขาได้ให้คำสัญญาต่อวะลีย์ หรือต่อ ผู้อาวุโส หรือต่อคนที่เขาเคารพให้เกียรติ ซึ่งเป็นสิ่งถูกสร้างเช่นเดียวกับเขา เขากลับให้ความสำคัญ และไม่ผิดคำสัญญานั้น แม้ว่าเขาจะถูกข่มขู่หรือถูกทำร้าย…
ผู้ที่มีความภาคภูมิใจในการทำบาป และคุยอวดกับเพื่อนของเขาว่าจะทำให้มากขึ้น เขาคือผู้ชอบเปิดเผยในการทำบาป , ผู้ที่ไม่มีใครไว้ใจเขาในเรื่องทรัพย์สินและเกียรติยศ , ผู้มีลิ้นที่ชั่วซึ่งใครๆก็หลีกห่างเขาด้วยเกรงในความกักขฬะของเขา…
ผู้ที่ล่าช้าในการละหมาดจนเวลาใกล้จะหมดและไม่รำลึกถึงอัลลอฮฺ เว้นแต่เล็กน้อยเท่านั้น , ผู้ที่ไม่จ่ายซะกาต และไม่ไปทำฮัจย์ทั้งๆ ที่เขามีความสามารถ และเขาไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ในเรื่องสิทธิต่างๆที่ศาสนามีเหนือเขาทั้งๆที่มีความสามารถ...
ผู้ที่ไม่มีความสำรวมตนต่ออัลลอฮฺ แม้ในเสี้ยวหนึ่งของการมอง หรือในการพูดจา การกิน การย่างเท้าของเขา และไม่สนใจต่อทรัพย์สินเงินทองที่ได้มาว่าฮะลาล หรือฮะรอม…
ผู้ที่ไม่ติดต่อสัมพันธ์กับเครือญาติ ไม่รู้จักเมตตาสงสารต่อคนยากจน หญิงหม้าย ลูกกำพร้า และต่อสัตว์โลกอื่นๆ อีกทั้งยังผลักไสเด็กกำพร้า ไม่สนับสนุนการให้อาหารแก่ผู้ที่ขัดสน...
ผู้ที่ชอบให้โลกได้ประจักษ์ในความดีของตน ไม่เอื้อเฟื้อในเครื่องใช้เล็กๆน้อยๆในบ้าน สาละวนอยู่กับการกล่าวถึงข้อบกพร่องของคนอื่นโดยมองไม่เห็นข้อบกพร่องของตัวเอง และง่วนอยู่กับการวิจารณ์บาปของคนอื่นโดยมองข้ามบาปของตัวเอง
บุคคลเหล่านี้จะถูกลงโทษในหลุมฝังศพเพราะความผิดของพวกเขา แล้วแต่ว่าระดับของความผิดนั้นจะมาก หรือน้อย จะเล็กหรือใหญ่ ตราบที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ยังไม่ทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขา และไม่ทรงยกเว้นโทษหรือประทานความเมตตาแก่พวกเขา
ส่วนหนึ่งจากหนังสือ กิตาบุล รูหฺ ของอิมาม อิบนุล กอยยิม อัล-เญาซียะฮฺแปลและเรียบเรียงโดย หะบีบะฮฺ บินติ อลียฺ