การกล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม หรือ การกล่าวชาฮาดะห์ คือ บุคคลที่ต้องการรับอิสลามและเป็นมุสลิม จะต้องกล่าวคำปฏิญาณตนด้วยสำนึกที่จริงจัง และเข้าใจในความหมายของมัน
การกล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม ของแต่ละประชาชาติ
การกล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม หรือ การกล่าวชาฮาดะห์ คือ บุคคลที่ต้องการรับอิสลามและเป็นมุสลิม จะต้องกล่าวคำปฏิญาณตนด้วยสำนึกที่จริงจัง และเข้าใจในความหมายของมัน ดังนี้
"อัชฮะดุ อัลลา อิลาฮะ อิลลัลลอฮฺ, วะอัชฮะดุ อันนะ มุหัมมะดัร รอซูลลุลลอฮฺ"
ความหมายก็คือ "ฉันขอปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ต้องเคารพสักการะนอกจากอัลลอฮฺ และฉันขอปฏิญาณว่ามุหัมมัดนั้นเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ"
การกล่าวปฏิญาณตนนี้ ไม่จำเป็นต้องมีพยาน 2 คน แค่กล่าวชะฮาดะฮฺ ก็เป็นมุสลิมแล้ว เพียงแต่ว่า หากมีก็จะดีเพราะเขาจะได้รับทราบ เพื่อจะได้มีพยานยืนยันการเข้ารับอิสลามของตนเอง และผู้เป็นพยานจะได้แนะนำการออกเสียงได้ถูกต้อง และช่วยตักเตือนกันในเรื่องการดำเนินชีวิตในระบบอิสลาม โดยไม่จำเป็นต้องไปเข้ารับที่ใด กล่าวเองที่บ้านคนเดียวก็ได้
เมื่อเข้ารับอิสลามแล้ว บาปทั้งหมดที่ผ่านมา จะได้รับการอภัยโทษ และจะเริ่มต้นคิดบัญชี บาปและผลบุญใหม่ ตั้งแต่เข้ารับอิสลามเป็นต้นไป
การกล่าวฏิญาณตนเข้ารับอิสลามมีความแตกต่างกันในแต่ละยุคแต่ละสมัยของท่านนบี วันนี้ทางมุสลิมไทยโพสต์ ได้พบบทความดีๆ ที่หลายท่านอาจไม่เคยรู้มาก่อน นั่นคือ การกล่าวฏิญาณตนเข้ารับอิสลามของแต่ละประชาชาติ
การกล่าว (ปฏิญาณตน) การกล่าวชาฮาดะห์ของแต่ละประชาชาติมีดังนี้?
1. สมัยนบี (อาดัม อ.ล.) กล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม กล่าวว่า:
ลาอิลาฮาอิลลัลลอฮู อาดัมซอฟียุลลอฮ์
นบีอาดัม คือ: บรรพบุรุษของมนุษยชาติทั้งหลายคือเป็นมนุษย์คนแรกที่ถูกสร้างและผู้หญิงคนแรก คือ (ฮาวา )
2. สมัยนบี (นุฮฺ อ.ล.) กล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม กล่าวว่า:
ลาอิลาฮาอิลลัลลอฮู นูฮุนนาญิยยุลลอฮ์
นบีนุฮฺ คือ ผู้เรียกร้องผู้คน ดะว่ะห์ผู้คนสู่พระเจ้า ทั้งกลางวันและกลางคืนยาวนานถึง950ปี และได้อีกฉายาว่า: อาดัมที่ 2 เนื่องจากยุคนั้นได้น้ำท่วมโลกและมนุษยชาติตายหมดเหลือเพียง 60-70-80-จนถึงเพียง 83 คนเท่านั้น ตามรายงาน
3. สมัยนบี( อิบรอฮีม อ.ล.) กล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม กล่าวว่า:
ลาอิลาฮาอิลลัลลอฮู อิบรอฮีมคอลีลุลลอฮ์
นบีอิบรอฮีม คือคอลีลหมายถึงฉายา (สหายของอัลลอฮ์) บุคคลที่ถึงกับ เทวฑูต ญิบรีล ขอจากอัลลอฮ์เพื่อทดสอบความรักที่นบีท่านนี้มีต่ออัลลอฮ์ และผู้เชือดกุรบ่านลูกของตนคือนบี อิสมาอีลตามคำสั่งของอัลลอฮ์
4. สมัยนบี ( อิสมาอีล อ.ล.) กล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม กล่าวว่า:
ลาอิลาฮาอิลลัลลอฮู อิสมาอีลซาบีฮุลลอฮ์
นบีอิสมาอีล คือ ลูกของนบีอิบรอฮีม ผู้ที่เมื่อทราบว่าเป็นคำสั่งของอัลลอฮ์ ท่านยอมนอนและกล่าวกับบิดาว่า:อย่าได้ลังเลในการเชือดฉันเพราะนี้คือคำสั่งของอัลลอฮ์
5. สมัยนบี ( มูซา อ.ล.) กล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม กล่าวว่า:
ลาอิลาฮาอิลลัลลอฮู มูซากาลีมุลลอฮ์
นบีมูซา คือ: บุคคลที่ได้สนธนากับอัลลอฮ์ ผู้ปลดปล่อยยิวจากฟิรอูน และมีเรื่องราวอีกมากมายในอัลกุรอ่านเกี่ยวกับท่าน
6. สมัยนบี ( ดาวุด อ.ล.) กล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม กล่าวว่า:
ลาอิลาฮาอิลลัลลอฮู ดาวุดคอลีฟาตุลลอฮ์
นบีดาวุด คือ: บุคคลที่ได้ฉายาว่า: แม้แต่บรรดาผู้อยู่บนฟากฟ้ายังต้องยอมรับในการตัดสินของท่าน ท่านคือบิดาของนบีสุไลมาน อ.ล.
7. สมัยนบี ( อีซา อ.ล.) กล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม กล่าวว่า:
ลาอิลาฮาอิลลัลลอฮู อีซารูฮุลลอฮ์
นบีอีซาคือ: บุตรที่เกิดมาโดยไม่มีบิดาเป็นลูกของ มัรยัม เพราะญิบรีลได้เป่าวิญญาณบริสุทธิ์ในครรภ์ของมารดาท่าน และท่านถูกยกขึ้นไปยังฟากฟ้าและจะลงมายังโลกอีกครั้งในยุคสุดท้าย เพื่อมาปราบดัจญาล
8. สมัยนบี ( มูฮัมหมัด ซ.ล.) กล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม กล่าวว่า:
ลาอิลาฮาอิลลัลลอฮู มูฮัมมาดุรรอซูลุลลอฮ์
ท่านนบี มูฮัมหมัด ซ.ล.ท่านเป็นศาสดาท่านสุดท้าย เป็นที่รักของอัลลอฮ์ หากไม่มีท่านอัลลอฮ์จะไม่สร้างสิ่งใดมาเลย
เมื่อญิบรีล อ.ล.ถามท่านว่า: ระหว่างท่านกับศาสนาของอัลลอฮ์ อัลลอฮ์รักสิ่งใดมากกว่ากัน???
ท่านนบีตอบว่า: (ดีน) อัลลอฮ์รักศาสนาของพระองค์มากกว่าฉัน
โอ้อัลลอฮ์โปรดให้เราทุกคนได้อยู่ในศาสนาตามแบบฉบับท่านนบีด้วย อามีน
ขอขอบคุณข้อมูลโดย : ฟีโรส ข่าน