เป็นอะมัลที่ศาสนาอิสลามส่งเสริมให้บรรดามุสลิมกระทำในเดือนรอมฎอนคือการละหมาดในเวลากลางคืน
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رَضِيَ الله عَنهُ أَنَّ رَسُولَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ : «مَنْ قَامَ رَمَضَانَ إِيمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ». (البخاري رقم 36، مسلم رقم 1266)
ความว่า จากท่าน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าจากท่าน รอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า...
“ผู้ใดที่ลุกขึ้น(เพื่อละหมาดและประกอบอิบาดะฮฺ)ในคืนของเดือนรอมฎอน ด้วยความศรัทธาและหวังในความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ เขาจะได้รับการอภัยโทษจากความผิดบาปที่ผ่านมาของเขา” (รายงานโดย อัล-บุคอรีย์ หมายเลข 36 และมุสลิม หมายเลข 1266)
อะมัลที่ศาสนาอิสลามส่งเสริมให้บรรดามุสลิมกระทำในเดือนรอมฎอน คือ การละหมาดในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นการละหมาดตะรอวีหฺ และผลการตอบแทนในการปฏิบัตินั้นยิ่งใหญ่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการประกอบอิบาดะฮฺประเภทอื่นๆ ที่ใช้ให้ปฏิบัติในเดือนรอมฎอน เช่น การถือศีลอด เพราะต่างได้รับการสัญญาว่าจะได้รับการอภัยโทษในบาปที่กระทำมา เฉกเช่นเดียวกับการตอบแทนที่ได้สัญญาแก่คนที่ปฏิบัติอะมัลอิบาดะฮฺในค่ำคืนลัยละตุลก็อดรฺในด้านการได้รับอภัยโทษ ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับความศรัทธาของเราต่อคำสั่งของอัลลอฮฺ รวมทั้งความบริสุทธิ์ใจในการปฏิบัติอะมัลดังกล่าวด้วย
ความเป็นมา
คำว่า “ตะรอวีหฺ” ซึ่งหมายถึง การละหมาดกิยามุลลัยลฺในเดือนรอมฎอน มาจากการพักระหว่างยืนละหมาด 4 ร็อกอัต ซึ่งเรียกว่า “ตัรวีหะฮฺ”
จำนวนร็อกอัต
เป็นบทบัญญัติสำหรับกิยามุลลัยลฺทั่วไป (รวมทั้งตะรอวีหฺในเดือรอมฎอน) ที่อุละมาอ์ทั้งหมดบอกว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไม่เคยละหมาดเกิน 11 ร็อกอัต
หะดีษจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา บันทึกโดยอิมามอัล-บุคอรียฺและมุสลิม “ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไม่เคยละหมาดในเดือนเราะมะฎอนและนอกเดือนเราะมะฎอนมากกว่า 11 ร็อกอัต ท่านนบีจะละหมาด 4 ร็อกอัต (ทีละ 2 ร็อกอัต) ไม่ต้องถามเลย ว่าท่านนบี ละหมาดยาวและสง่างามอย่างไร ( หมายถึงละหมาดยาวมากและสวยงามมาก) และละหมาดอีก 4 ร็อกอัต (ทีละ 2 ร็อกอัต) ท่านอย่าถามถึงความสวยงามและความยาวของมัน และต่อมาละหมาดอีก 3 ร็อกอัต”
วิธีละหมาดตะรอวีหฺ
เหมือนกับวิธีละหมาดศุบฮฺ คือ ละหมาด ครั้งละ 2 ร็อกอะฮฺ **
เหนียต(นึกในใจ) ละหมาดตะรอวีหฺ ก่อนละหมาด
"ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตตะรอวีหฺ สองร็อกอะฮฺ ตามอีหม่าม เพื่ออัลเลาะห์ตาอาลา"
ส่วนวิเตรก็คล้ายกัน
"ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตวิตรฺ ตามอีหม่าม สองร็อกอะฮฺ เพื่ออัลเลาะห์ตาอาลา"
กรณีละหมาดคนเดียว
เหนียตละหมาดตะรอวีหฺ ก่อนละหมาด
"ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตตะรอวีหฺ สองร็อกอะฮฺ เพื่ออัลเลาะห์ตาอาลา"
ส่วนวิเตรก็คล้ายกัน
"ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตวิตรฺ สองร็อกอะฮฺ เพื่ออัลเลาะห์ตาอาลา"
จนกระทั่งครบจำนวนที่ต้องการคือ 8 ร็อกอัต ให้สล่ามทุกๆ 2 ร็อกอัต และร็อกอัตสุดท้ายให้ละหมาดวิตรฺเป็นเอกเทศ อีก 3 ร็อกอัต โดยไม่ต้องนั่งตะซะฮุดในร็อกอัตที่ 2 นั่งในร็อกอัตที่ 3 เลย (รวมเป็น 11 ร็อกอัต)
(หมายถึง แยกออกไม่เกี่ยวข้องกับ ตะรอวีหฺ ละหมาดวิตรฺใช้เป็นละหมาดสุดท้ายในยามค่ำคืน)
เวลาของการละหมาดตะรอวีหฺ
เริ่มตั้งแต่หลังละหมาดอิชาอ์เป็นต้นไปจนกระทั่งก่อนแสงรุ่งอรุณจะปรากฏขึ้น จะละหมาดช่วงไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก (นิยมไปละหมาดพร้อมกันที่มัสยิด เมื่ออิหม่ามนำละหมาดอิชาอ์จบแล้ว จะต่อด้วยละหมาดตะรอวีหฺ) ที่สำคัญต้องทำหลังละหมาดอิชาอ์และก่อนละหมาดศุบหฺ
(** ร็อกอะฮฺ หรือ ร็อกอัต หมายถึง ยืน ก้ม(รูกั๊วะ) 1ครั้ง กราบ(สุญูด) 2 ครั้ง เรียกว่า 1 ร็อกอัต)
วิธีละหมาดวิตรฺ
วิธีที่หนึ่ง : ละหมาดสามร็อกอะห์รวดเดียว ด้วยกับหนึ่งตะชะฮุด ด้วยกับหลักฐานจากท่านหญิง อาอิชะห์ ร่อฏิยัลลอฮะอันฮา กล่าวว่า : ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่ให้สลามในสองร็อกอะห์ของละหมาดวิตรฺ -ในบางสำนวน - ท่านนบี ละหมาดวิตรฺสามร็อกอะห์รวด โดยไม่นั่ง เว้นแต่ในร็อกอะห์สุดท้าย”
วิธีที่สอง : ให้ทำการสลามในร็อกอะห์ที่สอง จากนั้นก็ให้วิตรฺอีกหนึ่ง ดังมีรายงานจากอิบนุอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮู่มา แท้จริงเขานั้นแยกสอง และวิตรฺอีกหนึ่ง ด้วยกับสลาม และเขาก็บอกอีกว่า แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ทำแบบนี้ (ท่านอิบนุฮะญัรกล่าวว่าเป็นสายรายงานที่แข็งแรง)
ส่วนเมื่อเขาจะวิตรฺ ห้าร็อกอะห์ หรือ เจ็ดร็อกอะห์ : ดังนั้นให้ละหมาดติดต่อกัน โดยไม่ทำการตะชะฮุด เว้นเสียแต่ตะชะฮุดครั้งเดียว คือ ครั้งสุดท้าย และให้สลาม
ดังมีหลักฐานจากท่านหญิงอาอิชะห์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า :
"ท่านร่อซูล ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะละหมาดในตอนกลางคืน 13 ร็อกอะห์ และละหมาดวิตรฺ จากดังกล่าว อีก 5 ร็อกอะห์ ท่านจะไม่นั่ง ในร็อกอะห์ใด จนถึงร็อกอะห์สุดท้าย“
และเมื่อจะวิตรฺ เก้า 9 ร็อกอะห์ : ดังนั้นเช่นกันให้ละหมาดติดกัน และนั่งตะชะฮุดในร็อกอะห์ที่ 8 หลังจากนั้นยืนขึ้นและยังไม่ให้สลาม และให้ตะชะฮุดในร็อกอะห์ที่ 9 และให้สลาม ดังมีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะห์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา เหมือนในซอเฮียะห์มุสลิม (746)
“แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะละหมาด 9 ร็อกอะห์ และท่านจะไม่นั่งในมัน เว้นแต่ในร็อกอะห์ที่ 8 และท่านจะรำลึกถึงอัลลอฮ์ สรรญเสริญอัลลอฮ์ และขอดุอา หลังจากนั้นท่านก็จะลุกขึ้น และจะยังไม่ให้สลาม จากนั้นท่านก็ยืนขึ้น และละหมาดในร็อกอะห์ที่ 9 จากนั้นก็นั่งและรำลึกถึงอัลลอฮ์ สรรญเสริญอัลลอฮ์ และขอดุอาจากพระองค์ จากนั้นก็ให้สลาม เสียงดังจนเราได้ยินกันหมด“
และหากละหมาดวิตรฺ สิบเอ็ด ร็อกอะห์ ท่านจะให้สลามทุกๆสองร็อกอะห์ และวิตรฺจากจำนวนนั้น หนึ่งครั้ง
บทความเกี่ยวกับรอมฎอน
- ดุอาหลังตะรอเวียะห์ ละหมาดวิตรฺ
- ดุอาอฺละศีลอด คําเนียตละศีลอด ดุอาละศีลอดอ่านตอนไหน
- กินให้ถูกในเดือนรอมฎอน
- วิธีละหมาดตะรอเวียะห์คนเดียว อ่านอะไรบ้าง
- เกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย เมื่อถือศีลอด?
- 30 ถาม-ตอบ ปัญหารอมฎอน
- ละศีลอดก่อนเวลาเพราะเข้าใจผิด ทำไงดี?
- เสียศีลอดไหม มีน้ำอสุจิออกมา ขณะถือศีลอด
- ผู้ป่วยที่ละเลยถือศีลอดชดใช้ จนกระทั่งเสียชีวิต
- ประโยชน์ของละหมาดตะรอเวียะห์ ผลดีที่หลายคนอาจยังรู้!