หากเอ่ยถามเรื่องการละหมาด คำตอบเดียวที่ให้ได้ก็คือ การละหมาด คือการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะประเด็นการละหมาดฟัรฺฎู หรือละหมาดซุนนะฮฺก็ตาม มีรายละเอียดปลีกย่อยหยุมหยิมเต็มไปหมด
เสียน้ำละหมาด เดินออกจากแถวในสภาพมือปิดจมูก ซุนนะฮฺนบี
บทความโดย อ.มุรีด ทิมะเสน
ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า
إِذَا أَحْدَثَ أَحَدُكُمْ فِي صَلَاتِهِ فَلْيَأْخُذْ بِأَنْفِهِ، ثُمَّ لِيَنْصَرِفْ
“เมื่อบุคคลหนึ่งในหมู่พวกท่านมีหะดัษ (เช่น ผายลม) ขณะเขาอยู่ในละหมาด เช่นนั้นเขาจงเอามือปิดจมูกของเขาไว้ จากนั้นให้เขาจงเดินออก (จากแถวละหมาดของเขา) เถิด” [หะดีษเศาะหี้หฺ, บันทึกโดยอบูดาวูด หะดีษที่ 1114]
สิ่งที่ได้รับจากหะดีษ
หากเอ่ยถามเรื่องการละหมาด คำตอบเดียวที่ให้ได้ก็คือ การละหมาด คือการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะประเด็นการละหมาดฟัรฺฎู หรือละหมาดซุนนะฮฺก็ตาม มีรายละเอียดปลีกย่อยหยุมหยิมเต็มไปหมด หากจะกล่าวถึงอิบาดะฮฺจำต้องอาศัยการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องแล้วไซร้ คงหนีไม่พ้น “การละหมาด” กระมัง
ยิ่งอ่านหะดีษนบี เรายิ่งค้นพบว่า เราเองคือมนุษย์ตัวเล็กๆ เท่านั้นเอง หากเทียบกับคำสอน “อิสลาม” แล้วไซร้ เรียนรู้ไม่หมดจริงๆ รายละเอียดหยุมหยิมผุดพรายให้เราตั้งคำถามไม่เว้นแต่ละวัน จึงอาจกล่าวได้ว่า “เรื่องละหมาด” เรียนรู้เท่าใด ก็ยังมิเคยหมดฉันนั้น แลอีกเรื่องหนึ่ง ผู้ละหมาดมักไม่ใคร่ทำกัน แต่ทว่ากลับกลายเป็นเรื่องที่ท่านนบีกำชับสั่งใช้ให้กระทำ
แด่ผู้ละหมาดทุกคนที่เสียน้ำละหมาด อันว่าเสียน้ำละหมาด หมายรวมว่า ทำให้เสียการละหมาดด้วยเช่นกัน อาทิเช่น ผายลมในขณะละหมาด นั่นทำให้เสียการละหมาดด้วยเช่นกัน วิธีปฏิบัติ ต้องเลิกละหมาด แล้วเดินออกจากแถวนมาซเพื่อไปอาบน้ำนมาซใหม่ แล้วกลับมาละหมาดใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ทีนี้ ประเด็นอยู่ที่ว่า เอาล่ะ เราเสียน้ำละหมาดแล้ว ทีนี้เราอยู่ในแถวละหมาดเราสามารถเดินผ่านแถวละหมาดได้ไหม? ประเด็นนี้ศาสนาอนุญาตให้เดินผ่านแถวละหมาดได้ คำถามต่อมา แล้วผู้เสียน้ำนมาซจะเดินออกมาในสภาพใด? คำตอบอยู่ที่วัจนะของท่านนบี ซึ่งท่านนบีวัจนะไว้ว่า “เมื่อบุคคลหนึ่งในหมู่พวกท่านมีหะดัษ (เช่น ผายลม) ขณะเขาอยู่ในละหมาด, เช่นนั้นเขาจงเอามือปิดจมูกของเขาไว้ จากนั้นให้เขาจงเดินออก (จากแถวนมาซของเขา) เถิด”
สรุปคือ คราใดผู้ละหมาดกำลังละหมาดอยู่ในแถวละหมาด เขาเกิดเสียน้ำละหมาดเช่น ผายลม, เช่นนี้ ศาสนาสั่งใช้ผู้เสียน้ำละหมาดผู้นั้นนำมือมาปิดจมูกแล้วเดินออกจากแถวละหมาด เมื่อพ้นแถวละหมาดแล้วก็ปล่อยมือตามปกติ จากนั้นให้เขาผู้นั้นอาบน้ำละหมาดใหม่
นักวิชาการอธิบายว่า การใช้มือปิดจมูกขณะเดินออกมาจากแถวละหมาดนั้น หากผู้ละหมาดคนอื่นชำเลืองมองเขา พวกเขาจะคิดไปว่าผู้เดินออกมีเลือดกำเดาไหล หรือเสมือนหนึ่งขออนุญาตออกจากแถวละหมาดอย่างสุภาพ อย่างมีมารยาท ไร้ซึ่งการแสดงออกถึงความไม่นอบน้อมแต่อย่างใดไม่ ตรองดูเถิด ความละเอียดอ่อนแบบนี้ คงหาไม่ได้อีกแล้วจากแนวทางใดบนโลกใบนี้ นอกจากอิสลามเท่านั้น ขนาดว่าผู้ละหมาดเสียน้ำละหมาดยังสอนให้เขาแสดงออกถึงความนอบน้อม หรือประหนึ่งแสดงออกถึงการขออนุญาตออกจากแถวละหมาดด้วยความสุภาพ ทำให้ผู้ยืนในแถวละหมาดไม่เกิดความกังวล หรือสงสัยอะไรทั้งสิ้น ยังคงยืนละหมาดด้วยความปกติ
นี่เป็นการสอนให้รู้ว่า มุสลิมคือผู้ให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีความอ่อนน้อมถ่อมตนให้กันและกัน แม้ว่าขณะอยู่ในแถวนละหมาด หรือนอกเหนือจากแถวละหมาดก็ตาม ย่อมแสดงออกถึงการให้เกียรติ และมีความถ่อมตนต่อกันและกัน การละหมาดหาใช่เป็นอิบาดะฮฺที่เราต้องปฏิสัมพันธ์กับพระองค์อัลลอฮฺเพียงถ่ายเดียว แต่ “การละหมาด” ยังส่งผลต่อวิถีชีวิตผู้ศรัทธาอย่างหลีกเลี่ยงมิได้อีกด้วย จึงไม่แปลใจหรอกว่า ทำไมท่านนบีจึงวัจนะไว้ว่า ขณะเดินไปละหมาดที่มัสญิด เขากำลังอยู่ในละหมาด และขณะนั่งรอละหมาดที่มัสญิด เขากำลังอยู่ในละหมาดเช่นกัน? ฉะนั้นวิธีปฏิบัติในขณะละหมาด คือวิถีเดียวกับอยู่นอกละหมาด ยากที่จะแยกออกจากกันได้เลย....แม้แต่น้อย