คำขอพร กับ พลังการเปลี่ยนแปลง
เรื่องสั้น คติธรรม
แปล:สุชาติ เศรษฐมาลินี
.............
มีคหบดีที่เมือง ๆ หนึ่ง ได้เชิญแขกผู้มีเกียรติมาร่วมในงานเลี้ยงในตอนเย็น และส่วนหนึ่งของแขกประกอบด้วย อิหม่ามผู้มีชื่อเสียงในการรักษาโรค มีหมอซึ่งจบทางการแพทย์สมัยใหม่ผู้เป็นเจ้าหน้าที่สูงสุดทางการแพทย์ประจำ เมือง หลังจากที่งานเสร็จสิ้นลง บุตรสาวของเจ้าภาพเกิดอาการเจ็บป่วยอย่างกระทันหันจนต้องพาขึ้นไปนอนบนเตียง คหบดีจึงได้กล่าวขอร้องให้ท่านอิหม่ามช่วยกล่าวคำขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า (ดุอาอ์) เพื่อช่วยรักษาบุตรสาว
ขณะที่ท่านอิหม่ามกำลังอ่านคำขอพรอยู่นั้น หมอสมัยใหม่ท่านนั้นจึงบ่นขึ้นมาว่า การรักษาแบบไสยศาสตร์ที่ไม่มีหลักวิชาการและไร้สาระเช่นนี้จะต้องหมดไป ท่านจึงบอกคหบดีว่า “วันนี้ฉันมียาสมัยใหม่ที่เป็นวิทยาศาสตร์และมีประสิทธิภาพที่จะฉีดรักษาให้ บุตรสาวของท่าน อย่าให้เธอถูกรักษาแบบแบบเก่า ๆ และงมงายเช่นนั้นอีกเลย มันไม่ได้ผลหรอก”
เมื่อท่านอิหม่ามได้ยินเช่นนั้น จึงหันมากล่าวแก่หมอท่านนั้นว่าอย่างเกรี้ยวกราดขึ้นว่า “เจ้าหมอหน้าโง่อย่างแกจะรู้เรื่องอะไร แกมันไม่คู่ควรที่จะดำรงตำแหน่งสูงสุดทางการแพทย์ประจำเมืองของเราเลยจริงๆ”
เมื่อหมอได้ยินเช่นนั้นจึงเกิดอาการโกรธจนตัวสั่นและมีใบหน้าหน้าแดงกล่ำจนพูดอะไรไม่ออก
ทันใดนั้นเองท่านอิหม่าม จึงกล่าวด้วยเสียงอันนุ่มนวลขึ้นว่า “คุณหมอครับ ได้โปรดให้อภัยผมด้วย ที่ผมกล่าวไปเช่นนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะดูถูกลบหลู่ท่านแต่อย่างใด เพียงแค่อยากจะชี้ให้ท่านเห็นว่า อาการเลือดสูบฉีดจนเปลี่ยนใบหน้าท่านให้แดงกล่ำ และจิตใจของท่านพลุกพล่านรุ่มร้อนด้วยความโกรธนั้น มีสาเหตุอันเนื่องมาจากคำพูดเพียงไม่กี่คำ ดังนั้น ถ้าหากคำพูดธรรมดา ๆ ของคนโดยทั่วไปเช่นนั้นสามารถทำให้ร่างกายท่านเปลี่ยนแปลงไปได้ถึงเพียงนี้ บางทีคำพูดดี ๆ อันเป็นคำขอพรที่ล้วนเป็นถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์จากพระผู้เป็นเจ้า และหากพระองค์ทรงประสงค์ การสวดขอพรนั้นอาจจะสามารถช่วยเยียวยารักษาทำให้ร่างกายเราเปลี่ยนแปลงและ หายจากโรคได้เช่นกันนะครับ”