เรื่อเล่าจากประสบการณ์จริงในการเราเฎาะห์ ข้อควรรู้ในการเข้าเราเฎาะห์
เราเฎาะห์ คืออะไร ข้อควรรู้ในการเข้าเราเฎาะห์
เราเฎาะห์ คือ สถานที่อยู่ระหว่างมิมบัร (แท่นที่นั่งในมัสยิดขณะบรรยายศาสนธรรมก่อนละหมาดวันศุกร์) กับบ้านของท่านศาสดามูฮำหมัด (ซ.ล.) รูปภาพเราเฎาะห์ที่ข้าพเจ้านำมาประกอบนี้ ได้จากเวปต่างประเทศ เพราะทุกครั้งที่ไปละหมาดที่เราเฎาะห์ไม่สามารถนำกล้องเข้าไปถ่ายรูปได้
ภาพถ่ายเราเฎาะห์
นับเป็นเรื่องยากพอสมควรสำหรับโอกาสที่จะได้เข้าไปละหมาดบริเวณเราเฎาะห์นี้ เพราะเป็นพื้นที่เล็กๆ แต่จำนวนคนที่ต้องการเข้าไปละหมาดบริเวณนี้มีจำนวนมาก ดังนั้น ท่านต้องวางกลยุทธเล็กน้อยเพื่อหาโอกาสที่จะได้เข้าไปละหมาดที่นี่ สำหรับกลยุทธ์ที่แซะห์แนะนำคือ ให้เข้าไปละหมาดตอนกลางคืนหลังละหมาดอีซา เพราะเท่าที่แซะห์สังเกตุดูรู้สึกว่าคนจะไม่ค่อยมากนัก เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว พวกผู้ชายก็นัดกันว่าหลังละหมาดอีซาเสร็จแล้ว กลับมารับประทานอาหารเสร็จ ก็จะรวมตัวกันไปยังมัสยิดนะบะวีย์เพื่อไปละหมาดที่บริเวณเราเฎาะห์
มุมหนึ่งของเราเฎาะห์
พวกเราเข้าไปในตัวมัสยิดประมาณ 20.30 น. บรรยากาศในมัสยิดแตกต่างกันมากกับตอนกลางวัน เพราะตอนกลางคืนมีผู้คนนั่งๆ นอนๆ อยู่ในมัสยิดไม่มากนัก เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวปากีสถาน บังคลาเทศ กำลังง่วนอยูกับการทำความสะอาดมัสยิด มีการล้างพื้น ดูดทำความสะอาดพรม ทำความสะอาดทองเหลืองที่หัวเสาให้เงางาม พวกเราเดินผ่านเจ้าหน้าเหล่านี้มุ่งหน้าไปยังบริเวณเราเฎาะห์ เมื่อใกล้ถึงบริเวณเราเฎาะห์บรรยากาศเริ่มคึกคัก จำนวนคนเริ่มหนาแน่นขึ้น บริเวณทางเข้าเราเฎาะห์นั้นมีการจัดการจราจรแบบวันเวย์ครับ ให้เข้าทางหนึ่งละหมาดเสร็จแล้วออกอีกทางหนึ่งครับ พอเข้าไปใกล้ทางเข้า การจราจรเริ่มคับคั่งเบียดเสียด ใช้เวลาเบียดกับเขาอยู่สักครู่ข้าพเจ้าก็ไปปรากฏตัวอยู่หน้าทางเข้าได้สำเร็จ...อัลฮัมดุลิลลาฮ์ ตรงทางเข้านี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยกัน และปล่อยคนให้เข้าเป็นชุดๆ ไป ชุดละ 10-20 คน แล้วรอจนคนที่ที่ละหมาดเสร็จแล้วเริ่มลุกออกไป ก็จะปล่อยให้ชุดใหม่เข้ามา บางครั้งเจ้าหน้าที่ปล่อยคนเข้ามามากเกินไปก็ต้องไปยืนรอต่อคิวคนที่กำลังละหมาดอยู่ รอยึดพื้นที่
อีกมุมหนึ่งของเราเฎาะห์
เมื่อเข้าไปในเราเฎาะห์ได้ต้องไปยืนรอเกือบห้านาที ต้องสะกิดคนที่ละหมาดเสร็จแล้ว และกำลังนั่งขอดุอาอยู่ให้ขอสั้นๆ พอเขาลุกไปก็ต้องรีบเข้าไปแทนที่ทันที เพราะอาจถูกแย่งชิงพื้นที่ได้ พอยึดพื้นที่ได้แล้วก็เริ่มลงมือละหมาดสุนัตทันที จะรุกั๊วะ หรือสุหยูด ก็ติดๆ ขัดบ้าง เพราะได้พื้นที่มาเพียงเล็กน้อย หลังจากให้สลามเสร็จ พอจะยกมือขึ้นขอดุอา ก็ถูกสะกิดทันทีจากคนที่ยืนรออยู่ เลยต้องขอสั้นๆ และรีบลุกออกไป เมื่อผ่านทางออกมาได้เลี้ยวซ้ายเล็กน้อยก็จะพบกับหลุมฝังศพของท่านศาสดามูฮำหมัด(ซ.ล.) ท่านอบูบักร์(ร.ฎ.) และท่านอุมัร(ร.ฎ.) ก็เป็นโอกาสที่ดีอีกครั้งหนึ่งที่จะได้มีโอกาสให้สลามกับพวกท่านอีกครั้งก่อนออกจากมัสยิด หลังจากรู้กลยุทธวิธีเข้าเราเฎาะห์กันแล้ว วันอื่นๆ ก็สามารถเข้าไปละหมาดด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องมีแซะห์นำ
ทางออกหลังจากละหมาดที่่เราเฎาะห์แล้ว ต้องผ่านที่ฝังศพของท่านศาสดา
การที่ผู้หญิงจะได้มีโอกาสเข้าไปละหมาดที่เราเฎาะห์นี้ ต้องใช้ความอดทนมากกว่าผู้ชาย เพราะมีเวลากำหนดไว้เฉพาะ ข้าพเจ้าพอจำได้ว่าวันศุกร์หลังหมาดซุบฮ์แล้ว แซะห์หญิงได้นัดหมายพวกผู้หญิงว่าจะพาไปละหมาดที่เราเฎาะห์ พวกผู้หญิงต่างตื่นเต้นดีใจ และเตรียมพร้อมกันอย่างเต็มที่ เมื่อรวมกลุ่มกันได้ก็เริ่มเดินทางไปยังมัสยิดเพื่อปฏิบัติภารกิจที่สำคัญ
เมื่อไปถึงมัสยิดก็พบว่า มีบรรดาเหล่าผู้หญิงจากชาติต่างๆ นั่งรอกันอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อรอละหมาดที่เราเฎาะห์ นั่งแบ่งกลุ่มกันตามชาติของตัวเอง กลุ่มเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง มีทั้งจากอินโดนีเซีย ปากีสถาน ตุรกี อัฟริกัน และอื่นๆ ทุกคนนั่งรอเวลาที่เจ้าหน้าที่จะเปิดทางเข้าเราเฎาะห์ สำหรับผู้หญิงเพื่อที่จะเข้าไปละหมาด ปรากฏว่า เป็นการคาดการที่ผิดเพราะว่าเจ้าหน้าที่จะเปิดทางเข้าหลังละหมาดวันศุกร์ เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็เลยต้องนั่งรอกันอยู่บริเวณนั้น หลังละหมาดวันศุกร์เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็เปิดทางเข้าเราเฏาะห์ให้บรรดาผู้หญิง และปิดทางเข้าสำหรับผู้ชายและสงวนไว้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น เมื่อทางเข้าเปิดเจ้าหน้าที่ก็จะทยอยปล่อยให้เข้าไปละหมาดเป็นชุดๆ บรรดาฮุจยาจผู้หญิงก็ฮือกันเข้าไปเป็นกลุ่มๆ แต่เนื่องจากจำนวนผู้หญิงที่รอมีจำนวนมาก จึงทำให้ต้องรอคิวกันอยู่นานกว่าจะได้เข้าไปละหมาด ข้าพเจ้ารู้สึกแปลกใจแต่แรกแล้ว เพราะเมื่อข้าพเจ้ากลับมาจากละหมาดวันศุกร์ ก็ไม่พบกับกลุ่มของภรรยาข้าพเจ้า แต่ก็คิดว่าเดี๋ยวก็คงกลับกันมา จนพวกผู้ชายกลับมาจากการละหมาดและเริ่มรับประทานอาหารกัน ก็ได้ถามไถ่กันดู ก็พบว่ากลุ่มผู้หญิงก็ยังไม่กลับกันมาเลย จนสักครู่กลุ่มผู้หญิงก็เริ่มทยอยกันกลับมาในสภาพที่อิดโรยไปตามๆ กัน ภรรยาผมเล่าให้ฟังว่า ต้องใช้เวลารอนานมาก...กว่าจะได้เข้าไปละหมาด และเมื่อได้ที่ละหมาดแล้ว ก็คับแคบ เบียดเสียดกันจนแถบสุหยูดไม่ได้ และเมื่อกลุ่มแรกได้ละหมาดเสร็จแล้วก็ได้ช่วยกันกันพื้นที่ให้กับคนอื่นๆ ได้ละหมาดบ้าง เพราะในกลุ่มผู้หญิงมีคนสูงอายุและหญิงตั้งครรภ์อ่อนๆ อยู่ด้วย แต่ทุกคนก็ได้ละหมาดกันถ้วนหน้าสมความตั้งใจ อัลฮำดุลิลลาฮ์
ภาพจากแฟ้มอินเทอร์เน็ต
myhajj1432.blogspot.com