สรุปวิธีทำฮัจย์ ความหมายของฮัจย์และอุมเราะห์ เข้าใจง่าย
ความหมายของฮัจย์และอุมเราะห์
1. คำว่า ฮัจย์ ในภาษาอาหรับ หมายถึงการออกเดินทางไปยังจุดมุ่งหมายเฉพาะอันหนึ่ง ในแง่กฎหมายของอิสลาม คำนี้หมายความว่า ออกเดินทางไปกะบะห์หรือบัยตุลเลาะห์ และประกอบพิธีฮัจย์
2. คำว่า อุมเราะห์ มีที่มาจากคำว่า เอี้ยะติมาร์ ซึ่งหมายถึงการเยี่ยมเยียน ในแง่กฎหมายของอิสลาม หมายถึงการไปเยี่ยมบัยลเลาะห์ การเข้าใกล้ต่อพระเจ้า
- ไปทำฮัจย์ อุมเราะห์ แต่มีหนี้สินอยู่ ไปได้หรือไม่?
- เตรียมตัวไปทําฮัจย์ ต้องทำอย่างไร? ความสำคัญของฮัจย์
- การทําฮัจญ์มีกี่แบบ คู่มือไปทำฮัจญ์
- การทำฮัจญ์แบบตะมัตตัวะอ์
- การทําฮัจญ์แบบอิฟรอด
- การทําฮัจญ์แบบกิรอน
สรุปวิธีทำฮัจย์
เมื่อผู้เดินทางไปทำฮัจย์จะเข้าสู่มักกะห์ จะต้องทำพิธิตามลำดับต่อไปนี้ (ซึ่งมักจะเริ่มพิธีกันที่ยิดดะห์หรือมะดีนะห์แล้วแต่ว่าท่านเดินทางจากที่ใดเข้ามักกะห์) คือ
1. เอียะฮ์ราม เริ่มต้นด้วยการอาบน้ำเอียะฮ์รามแล้วจึงละหมาดสุนัตเอียะฮ์ราม 2 ร่อกะอัต หลังจากนั้นให้แต่งชุดเอียะฮ์ราม แล้วจึงเนียตเอียะฮ์ราม อ่าน "ลับบัยกัลลอฮฺมม่า"... 3 จบ จึงเริ่มออกเดินทางเข้ามักกะห์
ประโยคตัลบียะห์
لَبَّيْكَ اللَّهُمَّ لَبَّيْكَ لَبَّيْكَ لَا شَرِيْكَ لَكَ لَبَّيْكَ إِنَّ الْحَمْدَ وَالنَّعْمَةَ لَكَ وَالمُلْكَ لاَ شَرِيْكَ لَكَ
(ลับบัยกัลลอฮุมมะลับบัยกฺ ลับบัยกะลาชะรีกะละกะลับบัยกฺ อินนั้ลฮำดะ วันนิอฺมะตะ ละกะวั้ลมุล กฺ ลาชะรีกะลัก)
แปลว่า โอ้อัลลอฮฺ ข้าพระองค์ได้ตอบสนองคำเรียกร้องของพระองค์ ข้าพระองค์ตอบสนองคำเรียกร้องของพระองค์ ด้วยการไม่ตั้งสิ่งใดมาเป็นภาคีกับพระองค์ แท้จริงการสรรเสริญ ความโปรดปรานและอำนาจเป็นของพระองค์ ไม่มีการตั้งสิ่งใดมาเป็นภาคีต่อพระองค์
2. เมื่อถึงมักกะห์แล้ว แซะห์จะพาเข้าไปในมัสยิดฮะรอม โดยเข้าทางประตูบาบุสสลาม เดินไปที่หินดำแล้วเนียตตอวาฟ เสร็จแล้วจึงเริ่มเดินตอวาฟโดยตั้งต้นจากแนวหินดำจนดรบ 7 รอบ เมื่อตอวาฟเสร็จแล้ว ให้ไปละหมาดหลังมะกอมอิบ-รอฮีม 2 ร่อกะอัตแล้วขอดุอาอฺ
3. หลังจากนั้นสำหรับผู้ที่เนียตเอียะฮ์รามทำฮัจย์อย่างเดียว (อิฟร๊อด) หรือเนียตเอียะฮ์รามทำฮัจย์พร้อมอุมเราะห์ (กิรอน) จะต้องครองเอียะฮ์รามต่อไปจนเข้าสู่พิธีฮัจย์ซึ่งจะเริ่มตันตั้งแต่วันที่ 9 ของเดือนซุ้ลฮิจยะห์โดยไม่ต้องสะแอ และการตอวาฟของเขาในข้อ 2. ถือว่าเป็นการตอวาฟกุดุม (เคารพบัยตุลเลาะห์)
4. ส่วนผู้ที่เนียดทำอุมเราะฮ์อย่างเดียวก่อน (ตะมัด-ตัวะอื) การตอวาฟของเขาถือว่าเป็นตอวาฟอุมเราะห์โดยเมื่อเสร็จจากการตอวาฟแล้วให้ไปที่ทางสะแอและเริ่มเดินสะแอจากเนินเขาซอฟาตรงไปยังเนินเขามัรวะฮ์ เมื่อถึงมัรวะฮ์ถือเป็นเที่ยว แล้วให้เดินจากมัรวะฮ์กลับไปยังซอฟาถือเป็นอีก 1 เที่ยว เดินเช่นนี้จนครบ 7 เที่ยวที่มัรวะฮ์แล้วจึงอ่านดุอาอฺ
ภาพเดินสะแอ
5. เมื่อเดินสะแอเสร็จแล้ว ให้โกนผมหรือขลิบผมอย่างน้อย 3 เส้น หลังจากนั้นสำหรับผู้เนียดเอียะห์รามอุมเราะห์อย่างเดียว ให้ถอดเครื่องเอียะฮ์รามเพื่อแต่งกายปกติได้
6. เมื่อถึงวันที่ 8 ซุ้ลฮิจยะห์ หลังจากละหมาดอะซัรแล้วสำหรับผู้ที่เปลื้องชุดเอียะฮ์รามแล้ว ให้แต่งชุดเอียะฮ์รามใหม่แล้วจึงละหมาดเอียะฮ์รามและเนียเอียะฮ์ราม ส่วนผู้ครองเอียะฮ์รามอยู่แล้วก็ควรอาบน้ำและเปลี่ยนผ้าเอียะฮ์รามชุดใหม่หลังจากนั้นแซะห์จะพาผู้จะทำพิธีฮัจย์เดินทางไปค้างคืนที่ทุ่งอารอฟะห์
7. รุ่งขึ้นวันที่ 9 ซุ้ลฮิจยะห์เป็นวันวุกุฟ หลังจากละหมาดดุฮริแล้ว ต้องนั่งพักสงบ (วุกุฟ) อ่านกุรอ่าน ตัสเบียะย์ ซิกรุลเลาะฮ์ ขอลุกะโทษ ฯลฯ จนถึงเวลาละหมาดมักริบ เมื่อละหมาดมักริบแล้ว จึงออกเดินทางไปมุซดะลิฟะห์ และเมื่อเลยเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว จึงจะออกจากมุชคะลีฟะห์ไปมินาได้
8. เมื่อไปถึงมินา ให้ไปขว้างเสาหินที่ญุมรอตุ้ลอะกอบะห์ทันที หลังจากขว้างเสาหินแล้ว จึงโกนผมหรือขลิบผมเสร็จแล้วก็ปลดชุดเอียะฮ์รามออกได้ วันนี้เป็นวันอีด ให้กล่าวตักบีรมาก ๆ
9. วันที่ 11, 12, 13, เป็นวันตัสริก ยังพักอยู่ที่มินา ให้ขว้างเสาหินวันละ 3 เสาๆ ละ 7 ก้อน เมื่อขว้างเสาหินในวันที่ 13 แล้ว แซะห์จะพากลับเข้ามักกะห์เพื่อตอวาฟ สะแอและขลิบผม จึงเสร็จพิธีฮัจย์ต่อไปนี้จะกล่าวถึงรายละเอียดในพิธีฮัจย์เป็นเรื่อง ๆ ไป