มุสลิม กับความเชื่อเรื่องโต๊ะหมอ จึงดูเหมือนกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญเสียแล้ว และกลายเป็นแฟชั่นเพราะถ้าหมู่บ้านไหนไม่มีคนประเภทโต๊ะหมอสงสัยจะเชย โดยที่ชาวบ้านไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคือ
ญิน คือ สิ่งที่ถูกสร้างและมีสถานะที่ต้องถูกตัดสินในวันที่จะมีการสอบสวนในวันกิยามะห์เช่นเดียวกับมนุษย์ ญินไม่ใช่วิญญานของมนุษยที่ตายไปแล้ว แต่เป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกหนึ่งที่ถูกสร้างมาจากไฟ มีศาสนาเช่นเดียวกับมนุษย์ และมีวิถีชีวิตคล้ายมนุษย์ ญินกิน ขับถ่าย เช่นเดียวกับมนุษย์ มีทำดีทำชั่ว และจะถูกตัดสินในวันสิ้นโลก และญินสามารถจำแลงกายได้ และในโลกนี้ญินจะเห็นมนุษย์แต่มนุษย์ไม่เห็นญิน แต่พอถึงวันแห่งการสอบสวนจะกลับกัน คือมนุษย์จะเห็นญินแต่ญินไม่เห็นมนุษย์
ส่วนวิญญานผู้ที่ตายไปแล้ว จะไปรอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเรียกว่า อาลัมบัรสัค รอวันตัดสิน ไม่ได้อยู่เป็นวิญญานเร่ร่อนในโลกนี้
มุสลิมเลี้ยงญินได้อย่างนั้นหรือ !
หมู่บ้านมุสลิมหลายๆแห่ง จะมี "โต๊ะหมอ" ประจำหมู่บ้าน หรือที่ต่างศาสนิก เรียกว่า "หมอผี" และ "หมอดู" ประจำหมู่บ้าน โต๊ะหมอพวกนี้จะเลี้ยงญิน และมีความสามารถพิเศษที่ได้รับมาจากญิน เช่นทำนายดวงชะตา รักษาคนป่วยในหมู่บ้านให้หาย ทำให้ชาวบ้านเชื่อถือในวิชาความรู้ และเป็นดาวเด่นประจำหมู่บ้าน ใครมีอะไรก็ต้องไปถามโต๊ะหมอ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่น่าแปลกนักถ้าเป็นหมู่บ้านชุมชนของคนต่างศาสนิกที่ไม่ใช่มุสลิม แต่ที่น่าแปลกใจเมื่อหมู่บ้านนั้น หรือชุมชนนั้นประกาศตนว่าเป็นมมุสลิม นับถือศาสนาอิสลาม ที่มีพระองค์อัลลอฮ์ เป็นพระเจ้าองค์เดียว โดยจะไม่นับถือหรือเชื่อสิ่งอื่นนอกจากพระองค์เท่านั้น แต่กลับทำ ชิริก คือการเชื่อโต๊ะหมอในเรื่องการดูดวง ทำไสยศาสตร์ การรักษาโรคด้วยคาถาอาคมหรือของร้อน แม้แต่การเดินทางยังต้องดูฤกษ์งามยามดีเสียอีก
"และเจ้าจงยั่วยวนผู้ที่เจ้าสามารถทำให้เขาหลงในหมู่พวกเขาด้วยเสียงของเจ้า และชักชวนพวกเขาให้เห็นพ้องด้วยด้วยม้าของเจ้าและด้วยเท้าของเจ้า และจงร่วมกับพวกเขาในทรัพย์สินและลูกหลาน และจงสัญญาพวกเขา และชัยฏอนมิได้ให้สัญญาใดๆ แก่พวกเขา เว้นแต่เป็นการหลอกลวงเท่านั้น" (อัลอิสรอ / 64)
มุสลิม กับความเชื่อเรื่องโต๊ะหมอ จึงดูเหมือนกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญเสียแล้ว และกลายเป็นแฟชั่นเพราะถ้าหมู่บ้านไหนไม่มีคนประเภทโต๊ะหมอสงสัยจะเชย โดยที่ชาวบ้านไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคือ การทำ "ชิริก" ถึงขั้นทำให้พวกเขาตกศาสนากลายเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา และเป็นที่น่าแปลกที่เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นในชุมชนใหญ่ของมุสลิม และจะยิ่งน่าประหลาดใจมากถ้าโต๊ะหมอคนนั้นอ้างตนเป็นผู้มีความรู้ทางศาสนา เข้าใจอัลกุรอาน โดยใช้อัลกุรอานในการทำคุณไสย์ และยิ่งน่าตกใจเมื่อผู้ที่มีความรู้ในชุมชนนั้นไม่ช่วยกันกระตุ้นให้ชาวบ้านได้รับรู้ถึงการกระทำแบบนั้นว่ามันเป็น "ชิริก" เป็นสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ไม่ทรงให้อภัยอย่างเด็ดขาด เป็นสิ่งที่ทำให้ตกศาสนาและนำไปสู่หนทางของนรกโลกันต์
"และอย่าให้พวกเขาหันเหเจ้าจากโองการทั้งหลายของอัลลอฮ์ หลังจากที่มันได้ถูกประทานลงมาแก่เจ้า และจงเชิญชวนไปสู่พระเจ้าของเจ้าและอย่าอยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคี" (อัลเกาะศอด / 87)
ดูเหมือนว่าการทำชิริก ได้กลายเป็นเรื่องเล็กในสังคมมุสลิม ตกศาสนาเดี๋ยวก็ปฏิญาณตนเข้ามาใหม่ได้ ตกแล้วก็เข้าอีก เข้าๆออกๆจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไป เพราะสังคมมุสลิมไม่มีบทลงโทษสำหรับผู้ออกจากศาสนาอิสลาม และไม่มีบทลงโทษสำหรับผู้ทำ"ชิริก"อย่างจริงจัง ตามประวัติศาสตร์ท่านนะบีมุฮัมมัด จะไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวและคบหากับผู้ที่ทำ"ชิริก"อย่างเด็ดขาด เพราะบุคคลนั้นเชื่อและศรัทธาสิ่งอื่นจากอัลลอฮ์ แต่ถ้าพวกเขาอยู่ในสภาพมุสลิม ในสังคมมุสลิม แต่งกายเหมือนมุสลิม และปฏิบัติต่อหน้าดังเช่นมุสลิมปฏิบัติกัน ตามประวัติศาสตร์ชนกลุ่มนี้อยู่ในจำพวก "มุนาฟิก" คือ พวกกลับกลอก นั่นเอง
“พวกเขามิได้รู้ดอกหรือว่า แท้จริงผู้ใดที่ฝ่าฝืนอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ แน่นอนสำหรับเขานั้นคือไฟนรกญะฮันนัมโดยที่เขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล นั่นแหละคือความอัปยศอันใหญ่หลวง” (อัตเตาบะฮ์ / 63)
โทษของผู้ที่รู้แต่ไม่ปฏิบัติตาม แน่นอนย่อมหนักกว่าผู้ที่ไม่รู้ ดังเราจะเห็นว่า ผู้รู้ที่ไม่ปฏิบัติตามความรู้นั้นย่อมมีโทษมากกว่าผู้ที่ไม่มีความรู้ เช่นเดียวกัน โต๊ะหมอที่อ้างว่าเป็นมุสลิมและใช้อัลกุรอานในทางที่ผิด(ทำ"ชิริก") ย่อมได้รับการลงโทษที่สาหัสมากกว่า หมอผี หรือหมอดู ในชนต่างศาสนิก
" และผู้ใดที่ฝ่าฝืนร่อซูล หลังจากที่คำแนะนำอันถูกต้องได้ประจักษ์แก่เขาแล้ว และเขายังปฏิบัติตามที่มิใช่ทางของบรรดาผู้ศรัทธา นั้น เราก็จะให้เขาหันไปตามที่เขาได้หันไป และเราจะให้เขาเข้านรกญะฮันนัม และมันเป็นทางกลับอันชั่วร้าย" (อัล นิซาอ์ / 115)
แท้จริงเราจะเห็นกับตา หรือได้ยินข่าวว่า บรรดาโต๊ะหมอ หมอดู หมอผีทั้งหลาย พวกเหล่านี้ไม่เคยมีความสุขในทรัพย์สินที่เขาหามาได้ และจุดจบของบรรดาพวกเขาจะมีแต่ความทรมานอันแสนสาหัส หรือเรียกว่า "ไม่ตายดี" นั่นเอง
หลายคนจะบอกว่า สิ่งที่บรรดาโต๊ะหมอพูดหรือบอกออกมานั้นตรงกับความจริงบางอย่างที่เกิดขึ้น แล้วทำไมฉันจะเชื่อเขาไม่ได้หล่ะ ? ถ้ามนุษย์ที่ไร้ค่าพวกนั้นพูดหรือบอกออกมาท่านยังเชื่อ แล้วทำไม ! สิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงยิ่งใหญ่ ผู้ทรงสร้างมนุษย์ที่ต่ำต้อยทั้งหลาย ทำไม ! ท่านถึงไม่เชื่อในสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวไว้หล่ะ ?
" และเมื่ออายาตทั้งหลายของเราถูกอ่านให้แก่เขา เขาก็ผินหลังให้อย่างจองหอง ประหนึ่งว่าเขาไม่ได้ยินอายาตนั้นๆ ประหนึ่งว่าในหูของเขานั้นหนวก ดังนั้น จงแจ้งข่าวแก่เขาถึงการลงโทษอันเจ็บปวด " (ลุกมาน / 7)
ดังจะเห็นว่า ความเชื่อต่างๆ ที่นอกเหนือจากสิ่งที่อัลลอฮ์ ทรงตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน เป็นควาเชื่อที่งมงายที่ได้เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ และจะเห็นได้ว่าถ้าบ้านไหน ชุมชนไหน และสังคมไหนก็ตาม ที่เชื่อสิ่งอื่นนอกเหนือกจากอัลลอฮ์ บ้านนั้น ชุมชนนั้น และสังคมนั้นจะมีแต่ความตกต่ำ หาความจำเริญไม่ได้ จะมีแต่ความอิจฉาริษยา แก่งแย่งชิงดี มีแต่ความแตกแยกในสังคม เห็นใครดีกว่าเด่นกว่าก็จ้องจะทำลาย เพราะอย่างนั้นจะเลือกเดินทางใด จะเชื่อผู้ที่ทำการเลี้ยงญินที่นำมาใช้ทำงาน ทำของหรือทำอุตริกรรมหรือไม่ ท่านทั้งจงเลือกเอา วัลลอฮูอะห์ลัม
นานา มุสลิม