มัรยัม ผู้หญิงคนเดียวที่ถูกเอ่ยถึงชื่อในซูเราะห์คัมภีร์อัลกุรอานและทั้งหมดถูกเปิดเผยเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ
ประวัติท่านหญิงมัรยัม มารดาของนบีอีซา ที่ปรากฏในอัลกุรอาน
มัรยัม ผู้หญิงคนเดียวที่ถูกเอ่ยถึงชื่อในซูเราะห์คัมภีร์อัลกุรอานและทั้งหมดถูกเปิดเผยเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ
มัรยัมเป็นสาวพรหมจรรย์ ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับชายใด คือผู้ให้กำเนิดท่านนบีอีซา(อะลัยฮิสลาม) โดยไม่มีพ่อ
อัลกุรอานได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในหลายโองการ คำกล่าวอ้างจากซูเราะฮฺ มัรยัมก็เป็นอายะฮฺหนึ่งที่กล่าวไว้ชัดเจน
“และจงกล่าวถึง (เรื่องของ) มัรยัมที่อยู่ในคัมภีร์ เมื่อนางได้ปลีกตัวออกจากหมู่ญาติของนาง ไปยังมุมหนึ่งทางตะวันออก (ของบัยตุลมักดิส) แล้วนางได้ใช้ม่านกั้นให้ห่างพ้นจากพวกเขาแล้ว เราได้ส่งวิญญาณของเรา (ญิบรีล) ไปยังนางแล้ว เขาได้จำแลงตนแก่นาง ให้เป็นชายอย่างสมบูรณ์ นางกล่าวว่า “แท้จริงฉันขอความคุ้มครองต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานีให้พ้นจากท่าน หากท่านเป็นผู้ยำเกรง เขา (ญิบรีล กล่าวว่า “แท้จริงฉันเป็นเพียงทูตแห่งพระเจ้าของเธอ เพื่อฉันจะให้ลูกชายผู้บริสุทธิ์แก่เธอ นางกล่าวว่า “ฉันจะมีลูกได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไม่มีชายใดมาแตะต้องฉันเลย และฉันก็มิได้เป็นหญิงชั่ว เขา (ญิบรีล) กล่าวว่า “กระนั้นก็เถิด พระเจ้าของเธอตรัสว่า มันง่ายสำหรับข้า และเพื่อเราจะทำให้เขาเป็นสัญญาณหนึ่งสำหรับมนุษย์และเป็นความเมตตาจากเรา และนั่นเป็นกิจการที่ถูกกำหนดไว้แล้ว แล้วนางได้ตั้งครรภ์ และนางได้ปลีกตัวออกไปพร้อมกับบุตรในครรภ์ ยังสถานที่ไกลแห่งหนึ่ง” (ซูเราะห์ มัรยัม 16-22)
ถ้านางมัรยัมตั้งครรภ์โดยผู้ชาย ทำไมญิบรีลได้ปรากฏแก่นางที่จะประกาศ ว่า เธอจะตั้งครรภ์ เป้าหมายที่ญิบรีลได้ปรากฏแก่นาง คือญิบรีลจะบอกร่วงหน้ากับนางเพื่อไม่ให้ตกใจกับการตั้งครรภ์ของนางมันเกิด ขึ้นกับนางเพื่อจะทำให้เด็กคนนั้นเป็นสัญญาณหนึ่งสำหรับมนุษย์และเป็นความ เมตตาจากอัลลอฮฺ เพราะมันเป็นสัญญาณพิเศษอัลลอฮฺได้ทรงใช้วิธีพิเศษ หลักฐานอีกอายะห์หนึ่งที่นางมัรยัมได้ตั้งครรภ์โดยไม่มีเพศสัมพันธ์กับ ผู้ชาย คือคำพูดที่นางมัรยัมพูดที่ว่า “ฉันจะมีลูกได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ไม่มีชายใดมาแตะต้องฉันเลย และฉันก็มิได้เป็นหญิงชั่ว”
ไม่น่าสงสัยในเรื่องนี้ คำกล่าวอ้างสำหรับการตั้งครรภ์ของนางมัรยัมในอัลกุรอานชัดเจน แล้วอีกหลายอายะห์ยังยื่นยันเรื่องเดียวกัน เช่น ซูเราะห์อัน-นิซาอฺ (อายะฮฺที่ 156) เป็นอายะห์หนึ่งที่ยืนยันเรื่องนี้ว่า “และเนื่องจากการที่พวกเขาปฏิเสธศรัทธา และกล่าวให้ร้ายแก่มัรยัม ซึ่งความเท็จอันใหญ่หลวง “ อันนี้เป็นหลักฐานต่อการฟ้องของยะฮูดี ซึ่งมัรยัมได้ตั้งครรภ์ท่านอีซาโดยวิธีที่ไม่ถูกต้อง อายะฮฺในซูเราะห์ อัลอัมบิยาอฺ(อายะฮฺที่ 91)เป็นหลักฐานอีกอายะห์หนึ่ง “และจงรำลึกถึงสตรีที่รักษาความบริสุทธิ์ของนางเอาไว้ แล้วเราได้เป่าวิญญาณของเราเข้าไปในนาง และเราได้ทำให้นางและบุตรของนางเป็นสัญญาณหนึ่งแก่มวลมนุษย์” อายะห์นี้ในอัลกุรอ่านบอกชัดเจนว่า มัรยัมเป็นสตรีที่บริสุทธิ์
ถ้าเราพิจารณาชื่อของท่านอีซาที่ปรากฏในอัลกุรอาน เราจะรู้ได้อย่างชัดเจนว่า มัรยัมตั้งครรภ์ท่านอีซาโดยไม่มีพ่อ – ชื่อว่า “บุตรของมัรยัม” ตามวัฒนธรรมของซะมิททิค ( Semitic: ชนชาติในแถบภาคตะวันออกกาลาง) ผู้ชายต้องถูกเรียกด้วยชื่อของพ่อ เช่น มูฮัมหมัด บิน-อับดุลาฮฺ, จายด์ อิบนุ-ซาเบต์ เป็นต้น ไม่มีผู้ชายนอกจากท่านอีซาที่ถูกเรียกตามชื่อแม่ ถ้าอย่างนั้น ทำไมท่านอีซาเท่านั้นถูกเรียกตามชื่อของแม่ (“บุตรของนางมัรยัม”) ในคัมภีร์อัลกุรอาน? ในอัลกุรอานพระเจ้าทรงเรียกท่านอีซาตามชื่อนี้บ่อยครั้งนั้น เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า นางมัรยัมตั้งครรภ์โดยวิญญาณของอัลลอฮฺ ชื่อของผู้หญิงไม่เคยปรากฏในอัลกุรอาน แต่ชื่อนางมัรยัม ซึ่งเป็นแม่ของท่านอีซานั้นออกมาหลายครั้ง เพราะว่า นางเป็นคนพิเศษในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ จึงตั้งครรภ์โดยไม่มีพ่อ การเรียกท่านอีซาตามชื่อนางมัรยัมในอัลกุรอานนั้นก็เป็นหลักฐาน เราต้องยอมรับที่ท่านอีซาได้เกิดมาจากพระเจ้าโดยตรง ก็เลยไม่มีชื่อพ่อที่เรียกตาม
เรื่องเล่าเกี่ยวกับมัรยัมที่ปรากฏในอัล-กุรอาน
การถือกำเนิดของมัรยัม
فَلَمَّا وَضَعَتْهَا قَالَتْ رَبِّ إِنِّي وَضَعْتُهَا أُنثَى وَاللّهُ أَعْلَمُ بِمَا وَضَعَتْ وَلَيْسَ الذَّكَرُ كَالأُنثَى وَإِنِّي سَمَّيْتُهَا مَرْيَمَ وِإِنِّي أُعِيذُهَا بِكَ وَذُرِّيَّتَهَا مِنَ الشَّيْطَانِ الرَّجِيمِ
ครั้นเมื่อนางได้คลอดบุตร นางก็กล่าวว่า โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์! แท้จริงข้าพระองค์ได้คลอดบุตรเป็นหญิง และอัลลอฮ์นั้นทรงรู้ดียิ่งกว่าถึงบุตรที่นางได้คลอดมา และใช่ว่าเพศชายนั้นจะเหมือนกันเพศหญิงก็หาไม่ และข้าพระองค์ได้ตั้งชื่อเขาว่า “มัรยัม” แล้วข้าพระองค์ขอต่อพระองค์ให้ทรงคุ้มครองนาง และลูกของนางให้พ้นจากชัยฏอนที่ถูกขับไล่ (อาลิ อิมรอน :36)
وَإِذْ قَالَتِ الْمَلاَئِكَةُ يَا مَرْيَمُ إِنَّ اللّهَ اصْطَفَاكِ وَطَهَّرَكِ وَاصْطَفَاكِ عَلَى نِسَاء الْعَالَمِينَ
และจงรำลึกขณะที่มะลาอิกะฮ์กล่าวว่ามัรยัมเอ๋ย! แท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงเลือกเธอและทรงทำให้เธอบริสุทธิ์ และได้ทรงเลือกเธอให้เหนือบรรดาหญิงแห่งประชาชาติทั้งหลาย (อาลิ อิมรอน :42)
وَمَرْيَمَ ابْنَتَ عِمْرَانَ الَّتِي أَحْصَنَتْ فَرْجَهَا فَنَفَخْنَا فِيهِ مِن رُّوحِنَا وَصَدَّقَتْ بِكَلِمَاتِ رَبِّهَا وَكُتُبِهِ وَكَانَتْ مِنَ الْقَانِتِينَ
และมัรยัมบุตรีของอิมรอน ผู้ซึ่งรักษาพรหมจารีของนาง แล้วเราได้เป่าวิญญาณของเราเข้าไปในนาง และนางได้ศรัทธาต่อบัญญัติต่าง ๆ แห่งพระเจ้าของนาง และ (ได้ศรัทธาต่อ) คัมภีร์ต่าง ๆ ของพระองค์ และนางจึงอยู่ในหมู่ผู้นอบน้อมภักดีทั้งหลาย (อัต-ตะฮฺรีม :12)
มัรยัมตั้งครรภ์ และคลอดนบีอีซา
وَاذْكُرْ فِي الْكِتَابِ مَرْيَمَ إِذِ انتَبَذَتْ مِنْ أَهْلِهَا مَكَانًا شَرْقِيًّا
และจงกล่าวถึง (เรื่องของ) มัรยัมที่อยู่ในคัมภีร์ เมื่อนางได้ปลีกตัวออกจากหมู่ญาติของนาง ไปยังมุมหนึ่งทางตะวันออก(ของบัยตุลมักดิส) (มัรยัม :16)
فَاتَّخَذَتْ مِن دُونِهِمْ حِجَابًا فَأَرْسَلْنَا إِلَيْهَا رُوحَنَا فَتَمَثَّلَ لَهَا بَشَرًا سَوِيًّا
แล้วนางได้ใช้ม่านกั้นให้ห่างพ้นจากพวกเขาแล้วเราได้ส่งวิญญาณของเรา (ญิบรีล) ไปยังนางแล้วเขาได้จำแลงตนแก่นาง ให้เป็นชายอย่างสมบูรณ์ (มัรยัม :17)
قَالَتْ إِنِّي أَعُوذُ بِالرَّحْمَن مِنكَ إِن كُنتَ تَقِيًّا
นางกล่าวว่า “แท้จริงฉันขอความคุ้มครองต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานีให้พ้นจากท่าน หากท่านเป็นผู้ยำเกรง” (มัรยัม :18)
قَالَ إِنَّمَا أَنَا رَسُولُ رَبِّكِ لِأَهَبَ لَكِ غُلَامًا زَكِيًّ
เขา (ญิบรีล) กล่าวว่า “แท้จริงฉันเป็นเพียงฑูตแห่งพระเจ้าของเธอ เพื่อฉันจะให้ลูกชายผู้บริสุทธิ์แก่เธอ” (มัรยัม :19)
قَالَتْ أَنَّى يَكُونُ لِي غُلَامٌ وَلَمْ يَمْسَسْنِي بَشَرٌ وَلَمْ أَكُ بَغِيًّا
นางกล่าวว่า “ฉันจะมีลูกได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไม่มีชายใดมาแตะต้องฉันเลย และฉันก็มิได้เป็นหญิงชั่ว” (มัรยัม :20)
مريم :21قَالَ كَذَلِكِ قَالَ رَبُّكِ هُوَ عَلَيَّ هَيِّنٌ وَلِنَجْعَلَهُ آيَةً لِلنَّاسِ وَرَحْمَةً مِّنَّا وَكَانَ أَمْرًا مَّقْضِيًّا
เขา (ญิบรีล) กล่าวว่า “กระนั้นก็เถิด พระเจ้าของเธอตรัสว่า มันง่ายสำหรับข้า และเพื่อเราจะทำให้เขาเป็นสัญญาณหนึ่งสำหรับมนุษย์และเป็นความเมตตาจากเรา และนั่นเป็นกิจการที่ถูกกำหนดไว้แล้ว (มัรยัม :21 )
فَحَمَلَتْهُ فَانتَبَذَتْ بِهِ مَكَانًا قَصِيًّا
แล้วนางได้ตั้งครรภ์ และนางได้ปลีกตัวออกไปพร้อมกับบุตรในครรภ์ ยังสถานที่ไกลแห่งหนึ่ง (มัรยัม :22)
فَأَجَاءهَا الْمَخَاضُ إِلَى جِذْعِ النَّخْلَةِ قَالَتْ يَا لَيْتَنِي مِتُّ قَبْلَ هَذَا وَكُنتُ نَسْيًا مَّنسِيًّا
ความเจ็บปวดใกล้คลอดทำให้นางหลบไปที่โคนตัวต้นอินทผาลัม นางได้กล่าวว่า “โอ้ ! หากฉันได้ตายไปเสียก่อนหน้านี้ และฉันเป็นคนไร้ค่าถูกลืมเสียก็จะดี” (มัรยัม :23)
فَنَادَاهَا مِن تَحْتِهَا أَلَّا تَحْزَنِي قَدْ جَعَلَ رَبُّكِ تَحْتَكِ سَرِيًّا
ดังนั้น เขา (มะลัก) ได้เรียกนางทางเบื้องล่างต้นอินทผลัมว่า “อย่าได้เศร้าเสียใจ แน่นอน พระเจ้าของเธอทรงจัดลำธารไว้เบื้องล่างเธอแล้ว ( มัรยัม :24)
وَهُزِّي إِلَيْكِ بِجِذْعِ النَّخْلَةِ تُسَاقِطْ عَلَيْكِ رُطَبًا جَنِيًّا
“และจงเขย่าต้นอินทผลัม ให้มันเอนมาทางตัวเธอ มันจะหล่นลงมาที่ตัวเธอเป็นอินทผลัมที่สุกน่ากิน” ( มัรยัม :25)
فَكُلِي وَاشْرَبِي وَقَرِّي عَيْنًا فَإِمَّا تَرَيِنَّ مِنَ الْبَشَرِ أَحَدًا فَقُولِي إِنِّي نَذَرْتُ لِلرَّحْمَنِ صَوْمًا فَلَنْ أُكَلِّمَ الْيَوْمَ إِنسِيًّا
“ฉะนั้น จงกิน จงดื่ม และจงทำจิตใจให้เบิกบานเถิด หากเธอเห็นมนุษย์คนใดก็จงกล่าวว่า ฉันได้บนการสงบนิ่งไว้ต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานีฉันจะไม่พูดกับผู้ใดเลยวันนี้” (มัรยัม :26)
فَأَتَتْ بِهِ قَوْمَهَا تَحْمِلُهُ قَالُوا يَا مَرْيَمُ لَقَدْ جِئْتِ شَيْئًا فَرِيًّا
แล้วนางใดพาเขามายังหมู่ญาติของนางโดยอุ้มเขามา พวกเขากล่าวว่า “โอ้ มัรยัมเอ๋ย ! แท้จริงเธอได้นำเรื่องประหลาดมาแล้ว” (มัรยัม :27)
يَا أُخْتَ هَارُونَ مَا كَانَ أَبُوكِ امْرَأَ سَوْءٍ وَمَا كَانَتْ أُمُّكِ بَغِيًّا
“โอ้ น้องหญิงของฮารูน พ่อของเธอมิได้เป็นชายชั่ว และแม่ของเธอก็มิได้เป็นหญิงไม่บริสุทธิ์” (มัรยัม :28)
فَأَشَارَتْ إِلَيْهِ قَالُوا كَيْفَ نُكَلِّمُ مَن كَانَ فِي الْمَهْدِ صَبِيًّا
นางชี้ไปทางเขา พวกเขากล่าวว่า “เราจะพูดกับผู้ที่อยู่ในเปลที่เป็นเด็กได้อย่างไร?” (มัรยัม :29 )
قَالَ إِنِّي عَبْدُ اللَّهِ آتَانِيَ الْكِتَابَ وَجَعَلَنِي نَبِيًّا
เขา (อีซา) กล่าวว่า “แท้จริงฉันเป็นบ่าวของอัลลอฮ์ พระองค์ทรงประทานคัมภีร์แก่ฉันและทรงให้ฉันเป็นนะบี” (มัรยัม :30)
وَمَرْيَمَ ابْنَتَ عِمْرَانَ الَّتِي أَحْصَنَتْ فَرْجَهَا فَنَفَخْنَا فِيهِ مِن رُّوحِنَا وَصَدَّقَتْ بِكَلِمَاتِ رَبِّهَا وَكُتُبِهِ وَكَانَتْ مِنَ الْقَانِتِينَ
และมัรยัมบุตรีของอิมรอน ผู้ซึ่งรักษาพรหมจารีของนาง แล้วเราได้เป่าวิญญาณของเราเข้าไปในนาง และนางได้ศรัทธาต่อบัญญัติต่าง ๆ แห่งพระเจ้าของนาง และ (ได้ศรัทธาต่อ) คัมภีร์ต่าง ๆ ของพระองค์ และนางจึงอยู่ในหมู่ผู้นอบน้อมภักดีทั้งหลาย (อัต-ตะฮฺรีม :12)
thaimuslim, daasee.com
islamhouse.muslimthaipost.com