เมื่อหัวใจตกหลุมพลางหาก ความรักได้ที่ได้ครอบครองพื้นที่ของหัวใจเราเป็นความรักที ่หะล้าลหรือความ รักทั่วไป ก็คงไม่มีปัญหาอะไร
อิสลามไม่มีระบบแฟน มีแต่การขอดุอาร์ให้เราเป็นคู่กัน
ระบบแฟนมีหรือไม่ในอิสลาม?
เมื่อหัวใจตกหลุมพลางหาก ความรักได้ที่ได้ครอบครองพื้นที่ของหัวใจเราเป็นความรักที ่หะล้าลหรือความ รักทั่วไป ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่เนื่องจากเรามักปล่อยให้ความรักที่หะรอมเข้ามารุกล้ำ และทำให้ความรักต่ออัลลอฮ(ซ.บ.)ของเราหลายๆคนเสียหาย ส่วนมากของรูปแบบความรักนั้น คือ ความรักระหว่างชาย-หญิง
ในหลัก การอิสลาม ความรักระหว่างชาย-หญิงมีรูปแบบเดียวเท่านั้น คือความรักระหว่างสามี-ภรรยา และนี่คือที่มาของคำพูดที่เราได้ยินกันบ่อยครั้งว่า “ไม่มีระบบแฟนในอิสลาม” ขอบเขตความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงในอิสลามได้ถูกวางอย่างช ัดเจนและรัดกุมที่ สุด ผู้หญิงและผู้ชายที่ไม่ใช่มะหรอมกันนั้น จะถูกปิดโอกาสทั้งหมดที่จะนำพาความสัมพันธ์ของเขาของเขาแล ะเธอไปสู่ความ หายนะอย่างไรก็ตาม ความรู้สึกชื่นชมในตัวเพศตรงข้าม นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติความเป็นมนุษย์ การเกิดขึ้นของมันนั้นไม่ใช่ความผิดแต่การปล่อยให้มันถูกแ สดงออกโดยปราศจาก ความควบคุมนั้นเป็นความอิสลามไม่มีการนัดพบกัน หรือแม้แต่การพูดคุยกันทั้งต่อหน้าหรือทางโทรศัพท์ เว้นแต่จะมีมะหรอมของฝ่ายหญิงอยู่ด้วย และหากเราถูกใจคนที่ดีจริงๆ ก็ให้ยกระดับความสัมพันธ์นั้นจากหะรอมเป็นหะล้าลด้วยการแต ่งงาน เพราะแท้จริงศาสนาส่งเสริมเรื่องการแต่งงาน ดังที่ท่านรสูล(ซ.ล.)กล่าวว่า “โอ้คนหนุ่มสาวทั้งหลาย ใครในหมู่พวกท่านมีความสามารถที่จะแต่งงาน ก็จงแต่งงานเถิด เพราะมันจะทำให้ลดสายตาลงต่ำและปกป้องอวัยวะเพศได้ดียิ่ง และผู้ใดไม่มีความสามารถก็จงถือศีลอดเพราะแท้จริงการถือศี ลอดนั้นจะทำให้ลด อารมณ์และตัณหาลงได้” (บันทึกโดย อัลบุคอรียและมุสลิม)
อย่างไรก็ ตาม อิสลามไม่ได้ตัดขาดการปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามในเรื่องที จำเป็น เช่น การร่วมงาน ทำธุรกิจ ติดต่อซื่อขาย แต่ต้องไม่ใช่ความจำเป็นที่สร้างขึ้นมาจากนัฟซู ไม่ใช่การคบกันฉันท์เพื่อนเพราะอาจนำอันตรายตามมาอย่างงไม ่ทันตั้งตัว การติดต่อกันนั้นต้องอยู่ภายใต้ความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งไม่มีใครสามารถช่วยตรวจสอบได้ เพราะเป็นเรื่องระหว่างเขากับอัลลอฮ(ซบ.) ดังนั้นผู้ศรัทราจึงต้องมั่นตรวจสอบเจตนาและการงานของเขาใ ห้มีความบริสุทธิ์ เพื่อพระผู้อภิบาลของเขาเท่านั้นเอง
เมื่อเราสนใจใคร ก็ให้พ่อแม่สืบถามเรื่องราวของเขาจากคนใกล้ชิดซึ่งเป็นหน้ าที่ของคนใกล้ชิด ผู้ถูกสอบถามที่จะต้องให้ข้อมูลที่เป็นความจริงทั้งข้อดีแ ละข้อบกพร่อง หลังจากได้รับข้อมูล พิจารณาอย่างรอบคอบ และขอคำปรึกษาจากอัลลอฮ(ซบ.)ผ่านการละหมาดอิสติคอเราะฮแล้ว หากมั่นใจก็ให้ฝ่ายชายไปสู่ขอต่อผู้ปกครองของฝ่ายหญิง และแม้ผู้ปกครองและตัวฝ่ายหญิงเองจะยินยอมพร้อมใจแล้ว บุคคลทั้งสองก็ยังไม่เป็นหะล้าลแก่กันจนกว่าจะผ่านพิธีนิก าหตามหลักการอิส ลาม
การแต่งงานเป็นสิ่งที่อิสลามกำหนดเพื่อให้เกิดความสงบสุขทั้ง แก่ตนเอง และเกิดความสงบเรียบร้อยต่อสังคม ป้องกันปัญหาความวุ่นวายนานาชนิด ถือเป็นการสร้างสถาบันครอบครัวอย่างมีเป้าหมายอีกทั้งยังเ ป็นการระงับอารมณ์ ใคร่ใฝ่ต่ำที่นำไปสู่การกระทำความผิดทั้งหลายเพราะอิสลามถ ือว่าการทำซินา เป็นบาปใหญ่ แต่การร่วมประเวณีระหว่างสามีภรรยาเป็นการบริจาคที่ได้รับ ผลบุญ เนื่องจากเป็นการใช้อารมณ์ใคร่ในหนทางที่ถูกต้อง การแต่งงานจึงเป็นการรับผิดชอบต่อครอบครัวและบุคคลรอบข้าง โดยมิได้ขัดกับธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องมีการสืบพันธุ์ตาม ที่อัลลอฮทรงกำหนด ไว้ และนำมาซึ่งการสร้างประชาชาติอิสลามสืบต่อไป
นอกจากระบบแฟน ที่เป็นปัญหาต่อความรักในอิสลามแล้ว ความรักอีกรูปแบบหนึ่งอีกรูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมขอ งเราและแพร่หลาย ออกไปจนหลายคนมองว่ามันไม่ใช่ปัญหาอีกแล้ว คือ ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างเพศเดียว หรือเรียกง่ายๆว่า “รักร่วมเพศ” (homosexaul) ไม่ว่าสังคมทั่วไปจะมีมุมมองดูม (โซดอม)ได้มีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายด้วยกันอย่างแพร่หลายและ เปิดเผย ไม่ว่าท่านนบีลูฏ อะลัยฮิสสลาม จะเรียกร้องพวกเขาให้ละทิ้งพฤติกรรมดังกล่าวและตักเตือนถึ งการลงโทษของอัล ลอฮ(ซบ.)อย่างไร พวกเขาก็ปฎิเสธและยังขู่จะขับไล่ท่านออกนอกเมืองอีกด้วย
“หมู่ชนของลูฏได้ปฎิเสธบรรดาร่อซูล ขณะที่พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือลูฏ ได้กล่าวแก่พวกเขาว่า โอ้พวกท่านไม่ยำเกรงบ้างหรือแท้จริงฉัยคือร่อซูลผู้ซื่อสั ตย์สำหรับพวกท่าน ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮและเชื่อฟังฉัน และฉันมิได้ขอค่าตอบแทนในการนี้จากพวกท่าน ค่าตอบแทนของฉันมิได้มาจากผู้ใด นอกจากพระเจ้าแห่งสากลโลก พวกท่านเข้าหาผู้ชายในหมู่ผู้คนทั้งหลายกระนั้นหรือ และพวกท่านปล่อยทิ้งสิ่งที่พระผู้อภิบาลของพวกท่านทรงบังเ กิดมาสำหรับพวก ท่าน คือภรรยาของพวกท่าน แน่นอนพวกท่านเป็นหมู่ชนผู้ฝ่าฝืน พวกเขากล่าวว่าโอ้ลูฏเอ๋ย หากท่านไม่หยุดนิ่ง แน่นอนท่านเป็นผู้หนึ่งที่จะถูกขับไล่ให้ออกไป” (ซูเราะฮที่26 อัชชุอะรออ. อายะฮที่ 160-167)
บทสรุปของชีวิตพวกเขา คือการที่อัลลอฮ(ซบ.)ทรงให้เมืองทั้งเมืองถูกยกขึ้นและคว่ำลงมาอย่างแรงใน คราวเดียวกัน หลังจากนั้นพายุหินก็ตกลงมาบนเมืองทุกคนในเมืองนั้นถูกทำล าย รวมทั้งภรรยาของนบีลูฏอะลัยฮิสสลาม ผู้ทรยศด้วย ส่วนผู้ที่รอดปลอดภัยจากเหตุการณ์นี้มีเพียงนบีลูฏ อะลัยฮิสสลาม และครอบครัวของท่านเท่านั้น
ดุอาร์ขอให้เราเป็นคู่กัน
رَبَّنَا هَبْ لَنَا مِنْ أَزْوَاجِنَا وَذُرِّيَّاتِنَا قُرَّةَ أَعْيُنٍ وَاجْعَلْنَالِلْمُتَّقِيْنَ إِمَامًا
ความว่า "โอ้พระผู้อภิบาลแห่งเรา ได้โปรดประทานแก่เราจากคู่ครองของเรา และลูกหลานของเรา ซึ่งความรื่นรมย์ ,ความเย็นตาเย็นใจ และโปรดประทานให้เราเป็นผู้นำของบรรดาผู้ยำเกรง" ซูเราะฮฺอัลฟุรกอน (25:74)
ความรักนั้น มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกวัย ในจิตใจของทุกคน ความรักก็เปรียบเสมือนหนึ่งหยดน้ำฝน ซึ่งเป็นน้ำที่สะอาด เเละบริสุทธิ์ เเต่เพียงเเค่พื้นดินที่รับน้ำที่ตกลงมาต่างหากอยู่ในสภาพไหน (ดินนั้นอยู่ในสภาพที่สะอาด หรือสกปรก)
ซึ่งเเน่นอนเป็นที่ทราบกันว่า หากเรารักใครสักคน เราก็อยากให้เค้ารับรู้ถึงความรู้สึก และสิ่งดีๆที่ฝั่งลึกในใจเรา เเต่ในเมื่อ"อิสลามไม่มีระบบเเฟน" ,"ไม่มีระบบรักหรือจีบก่อนเเต่ง" สิ่งนี้เราจึงควรระวังให้มากที่สุด
การขอดุอาอฺ และการละหมาดซุนนะฮฺต่างๆ จึงเป็นวิถีทางเลือกที่ดีที่สุดของมุสลิม ในการที่จะวิงวอนขอความเมตตาจากพระองค์อัลลอฮฺทรงโปรดชี้แนวทางให้ความต้องการของเราได้สมหวังดั่งที่ตนปรารถนา และทรงให้เกิดขึ้นจริงโดยเร็ววัน และให้แนวทางนั้นดำเนินเป็นไปตามแนวทางที่ถูกต้อง ดี คู่ควรและเหมาะสมกับเราที่สุด
เพราะไม่ว่าใคร ก็ช่วยเราไม่ได้ นอกจากพระองค์อัลลอฮ เท่านั้น
ที่มา: อ่านวันละนิด จิตแจ่มใส่ โดย ลาลาโต, มหัศจรรย์อัลกุรอ่าน
ภาพจากอินเทอร์เน็ต
islamhouse.muslimthaipost.com