ในศาสนาอิสลามนั้น ความตายมิได้เป็นการสิ้นสุดหรือจุดสุดท้ายของชีวิต หากเป็นจุดเริ่มต้นที่จะก้าวไปสู่ชีวิตที่แท้จริงและเป็นนิรันดร์ อิสลามถือว่าชีวิตในโลกนี้คือการเตรียมตัวสำหรับชีวิตในโลกหน้าอันถาวร
เหตุใดอิสลามต้องจัดพิธีศพภายใน 24 ชม.
สัจธรรมข้อหนึ่งที่ทุกคนรู้ดี คือ “ทุกชีวิตต้องลิ้มรสความตาย” แต่ในศาสนาอิสลามนั้น ความตายมิได้เป็นการสิ้นสุดหรือจุดสุดท้ายของชีวิต หากเป็นจุดเริ่มต้นที่จะก้าวไปสู่ชีวิตที่แท้จริงและเป็นนิรันดร์ อิสลามถือว่าชีวิตในโลกนี้คือการเตรียมตัวสำหรับชีวิตในโลกหน้าอันถาวร
ชาวมุสลิมเชื่อว่า เมื่อมนุษย์เสียชีวิตลง วิญญาณของทุกคนจะไปรวมตัวกันอยู่ในโลกหนึ่งที่เรียกว่า “บัรซัค” อันเป็นโลกที่คั่นกลางระหว่างโลกนี้กับโลกหน้า ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับการฝังอย่างถูกต้องหรือไม่ก็ตาม จนกระทั่งวันแห่งการสิ้นสุดมาถึง ทุกชีวิตจะถูกทำให้ฟื้นขึ้นเพื่อรอรับการตัดสินการกระทำต่างๆ ที่เขากระทำไว้ขณะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
เมื่อมนุษย์ถูกฝังอยู่ในสุสานหรืออยู่ในโลกของบัรซัค จะมีมาลาอีกะฮ์ (เทวฑูต) 2 ท่าน มาสอบสวนพฤติกรรมของผู้ตาย หากผู้ตายเป็นคนดี ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าอย่างเคร่งครัด เขาก็จะตอบคำถามของมาลาอีกะฮ์เกี่ยวกับศรัทธาและบทบัญญัติต่างๆ ของศาสนาได้อย่างง่ายดาย หากผู้ตายเป็นคนชั่ว ก็จะหลงลืมคำตอบเสียสิ้น แม้จะเคยรู้คำตอบดีก็ตาม สำหรับผู้ที่ตอบคำถามได้ ระหว่างที่อยู่ในโลกบัรซัค เขาก็จะได้ความสุขสบายดุจอยู่ในสรวงสวรรค์ ส่วนผู้ที่ตอบคำถามไม่ได้ ก็จะถูกมาลาอิกะฮ์ลงทัณฑ์อย่างเจ็บปวดทรมาน
การฝังนั้น ไม่มีข้อกำหนดว่าต้องฝังภายในกี่วันหรือฝังตอนไหน แต่ศาสนากำชับว่า ต้องฝังให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ !!
ฉะนั้น หากพบศพตายเกินแล้ว1 วันก็ไม่มีปัญหาแต่ประการใด
สรุป คือว่า หากพบมัยยิต (ศพ) เมื่อไหร่ ไม่ว่ามัยยิตผู้นั้นจะตายมาแล้วกี่วันก็ตาม เราสามารถฝังมัยยิตผู้นั้นได้ทันที
โดยมี 4 ขั้นตอน คือ
1.อาบน้ำให้คนตาย
2.การกะฝั่น(ห่อ)
3.ละหมาดให้คนตาย
4.ฝัง
โดยเป็นหน้าที่ของคนที่อยู่ข้างหลังทั้งหมด และต้องทำให้ครบ หากพบศพ (มัยยิต)ในสภาพที่เน่าแล้ว ซึ่งเราไม่สามารถอาบน้ำมัยยิตให้ได้
เช่นนี้ การใช้น้ำราดให้ทั่วร่างกายถือว่าเพียงพอแล้ว จากนั้นก็สามารถห่อกะฝั่นได้เลย
เหตุผลทางด้านวิทยาศาสตร์ และสังคม คือ
1. ลดภาระให้ผู้อยู่ข้างหลัง ที่จะมีค่าใช้จ่ายตามมากมาย
2. ป้องกันโรคระบาด
3. ไม่มีการรักษาสภาพศพไว้ ดังนั้น เมื่อตายแล้วรีบฝัง
ไม่ใช่ว่ายุคก่อนไม่มีน้ำยารักษาสภาพศพ
เพราะน้ำยารักษาสภาพศพนั้นมีตั้งแต่สมัย ฟาโร เช่นกัน
4. ไม่ต้องการให้ญาติพี่น้องผู้ตายโศกเศร้าเสียใจเกินเหตุ ฟูมฟายตีอกชกตัว เช่นนี้ ศาสนาห้าม ต้องเข้าใจยอมรับการจากไป เพราะทุกคนต้องตาย
5. การฝังทำให้ศพย่อยสลายได้รวดเร็ว