การละทิ้งละหมาดของคน 4 ประเภท


76,835 ผู้ชม

ท่านนบีได้เจาะจงกล่าวถึงเฉพาะบุคคลทั้ง 4 นี้ก็เพราะเขาเหล่านั้นเป็นเสมือนเจ้าแห่งกรณีที่ทำให้เกิดมีการปฏิเสธศรัทธา (กุฟรฺ) ในองค์อัลลอฮฺนั่นเอง และเรื่องราวของแต่ละคนก็มีประวัติพิสดารอย่างยิ่ง การที่บุคคลต้องละทิ้งและไม่เอาใจใส่การทำละหมาดในอดีต


จากรายงานของอับดุลลอฮฺ บิน อัมริบนิลอาศ กล่าวว่า วันหนึ่งท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม พูดถึงการละหมาด ท่านกล่าวว่า “ผู้ใดรักษาการละหมาดไว้ได้การละหมาดนั้นจะเป็นแสงสว่างเป็นหลักฐานเป็นสิ่งช่วยให้ปลอดภัยแก่ผู้นั้นในวันกิยามะฮฺ และผู้ใดที่ไม่รักษาการละหมาด การละหมาดจะไม่เป็นแสงสว่างไม่เป็นหลักฐาน และไม่เป็นสิ่งช่วยให้ปลอดภัยแก่ผู้นั้น และวันกิยามะฮฺเขาจะอยู่ร่วมอยู่กับกอรูน ฟิรฺเอานฺ ฮามาน อุบัยยฺ บิน เคาะลัฟ”  (จากบันทึกของอิมามอะหมัด)


ท่านนบีได้เจาะจงกล่าวถึงเฉพาะบุคคลทั้ง 4 นี้ก็เพราะเขาเหล่านั้นเป็นเสมือนเจ้าแห่งกรณีที่ทำให้เกิดมีการปฏิเสธศรัทธา (กุฟรฺ) ในองค์อัลลอฮฺนั่นเอง และเรื่องราวของแต่ละคนก็มีประวัติพิสดารอย่างยิ่ง การที่บุคคลต้องละทิ้งและไม่เอาใจใส่การทำละหมาดในอดีต และแม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ก็เถอะ ก็เนื่องมาจากกิจการใหญ่ ๆ 4 ประเภทอันถือกันว่าแต่ละคนใน 4 คนนี้ เป็นหนึ่งในกิจการแต่ละประเภทเหล่านั้น กิจการ 4 ประเภทได้แก่ เงิน อำนาจ ตำแหน่งหน้าที่ และธุรกิจการค้า


1. ผู้ใดหลงในทรัพย์สมบัติจนไม่ยอมทำละหมาด เขาก็จะได้อยู่กับพวกของกอรูน


2. ผู้ใดหลงในอำนาจจนไม่ยอมทำละหมาด เขาก็จะได้อยู่กับพวกของฟิรเอานฺ


3. ผู้ใดหลงในตำแหน่งหน้าที่จนไม่ยอมทำละหมาด เขาก็จะได้อยู่กับพวกของฮามาน


4. ผู้ใดหลงในธุรกิจการค้าจนไม่มีเวลาทำละหมาดเขาก็จะได้อยู่กับพวกของอุบัยยฺ บิน เคาะลัฟ


กอรูน เป็นมหาเศรษฐี มีชีวิตอยู่ในสมัยของนบีฮารูน อะลัยฮิสสลาม เพราะความมีทรัพย์สมบัติอันมหาศาลของตน คิดว่าตนนั้นมีอำนาจที่สุดแล้ว มั่งคั่งที่สุดแล้ว ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ทำให้เกิดความกำแหงลำพองตน ไม่ยอมนอบน้อมและศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา ผู้เป็นพระเจ้าแห่งตน อ้างว่าการที่เขามั่งมีขึ้นนี้ด้วยความรอบรู้และสามารถของตนเองทั้งสิ้นไม่สนใจใยดีต่อข้อห้าม และคำสั่งของอัลลอฮฺ ตะอาลาในที่สุดแห่งชีวิต เขาก็ได้ประสบกับความพินาศและความหายนะอย่างย่อยยับ โดยการถูกธรณีสูบ

การละทิ้งละหมาดของคน 4 ประเภท

ฟิรฺเอานฺ หรือฟาโรห์ เป็นมหากษัตริย์ที่เรืองอำนาจของอียิปต์ อ้างต้นว่าเป็นผู้มีเดชานุภาพเหนือสิ่งใด ๆ ทั้งปวงถึงกับยกตนเองขึ้นเป็นพระเจ้าผู้สร้าง ผู้เนรมิตทุกสิ่งทุกอย่าง มีชีวิตอยู่ในสมัยของนบีมูซา อะลัยฮิสสลาม ไม่ยอมเชื่อถือศรัทธาและเคารพ นอบน้อมต่อพระบัญชาแห่งอัลลอฮฺ ตะอาลา ผู้เป็นพระเจ้าที่แท้จริง สุดท้ายอำนาจที่เคยมีอยู่ก็สลายไปเกิดความพินาศความหายนะอย่างหนัก ต้องจบชีวิตลงด้วยการจมน้ำตาย


ฮามาน
เป็นรัฐมนตรีคนสำคัญคนหนึ่งสมัยนบีมูซา และฮารูน อะลัยฮิสสลาม ดื้อดึงและขัดขืนคำสั่งของอัลลอฮฺ ตะอาลา เพราะความหลงไหลในยศฐาบรรดาศักดิ์ เห่อเหิมต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการแห่งตน ในที่สุดเขาก็ต้องสิ้นชีวิตลงพร้อมกับความสิ้นยศศักดิ์ที่เคยมี


อุบัยยฺ บิน เคาะลัฟ เป็นพ่อค้าวานิชที่ร่ำรวยมหาศาล มีชีวิตอยู่ในสมัยญาฮิลียะฮฺ คือสมัยก่อน นบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ชาวอาหรับทั้งหมดต่างยอมยกความยิ่งใหญ่ให้แก่เขา ต่อมาลุถึงสมัยนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เขาผู้นี้ก็ยังคงไม่ยอมเชื่อฟังท่าน กลับตั้งตัวเป็นศัตรูของท่าน อวดความยิ่งใหญ่ในทางการค้าของตนว่ามหาศาลเหนือผู้ใด ผลสุดท้ายก็ต้องตายไปโดยถูกฆ่าในสมรภูมิโดยท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม


ทุกคนคงต้องย้อนกลับไปทบทวนตัวเองแล้วว่ายังเป็น 1 ใน 4 ประเภทนี้อยู่หรือไม่ ? หากเช่นนั้นแล้วพึงยำเกรงอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เถิด


ที่มา: fityatulhaq.net และ Marowee Tuanmaeroh

อัพเดทล่าสุด