เราจะนิยามให้คนเข้าใจ ตามตัวบทหลักฐาน มันเป็นมุมกว้างที่คนหลายคนอาจจะไม่เข้าใจ เพราะคนส่วนมากเข้าใจว่าการรำลึกถึงอัลลอฮ คือ
เราจะทราบได้อย่างไร ว่าอัลลอฮฺจะตอบรับการงานของเรา
เราจะนิยามให้คนเข้าใจ ตามตัวบทหลักฐาน มันเป็นมุมกว้างที่คนหลายคนอาจจะไม่เข้าใจ เพราะคนส่วนมากเข้าใจว่าการรำลึกถึงอัลลอฮ คือ การซิกรุลลอฮด้วยลิ้น ถ้าไม่เห็นลิ้นกระดิก จะไม่เข้าใจว่าเป็นการรำลึกถึงอัลลอฮ แต่ความจริงแล้วนั้น การรำลึกถึงอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มีหลายรูปแบบ เช่น การเห็นสิ่งที่เป็นความชั่ว แล้วเกิดอยากจะทำ แต่มานึกถึงอัลลอฮ แล้วไม่ทำ นี่ถือเป็นการรำลึกถึงอัลลอฮ อัลลอฮ ซุบฮานุฮูวะตะอาลา กล่าวถึงบรรดาผู้ศรัทธาว่า “บรรดาผู้ที่ทำความชั่ว ลามกอนาจาร แล้วเขารำลึกถึงพระองค์ และขออภัยโทษต่อพระองค์” แสดงว่า การเลิกทำความชั่ว ถือเป็นการรำลึกถึงอัลลอฮ
การที่เราเห็นสรรพสิ่งต่างๆ แล้วรำลึกถึงอัลลอฮ สรรเสริญพระองค์ นี่ก็เป็นการรำลึกถึงอัลลอฮอย่างหนึ่งเช่นกัน อัลลอฮได้กล่าวไว้ในอัลกุรอานว่า
“โอ้อัลลอฮ พระองค์ไม่ได้สร้างสิ่งต่างๆมาโดยไร้เหตุผล”
ในฐานะผู้ศรัทธาเราจำเป็นต้องคิดว่า การที่พระองค์สร้างเราหรือสิ่งต่างๆมานั้น ต้องมีเหตุผลแน่นอน การที่เราได้ศึกษาวิทยาศาสตร์ต่างๆและได้รู้เห็น ทั้งหมดต่างก็สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา การรำลึกด้วยลิ้นนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว เช่น การกล่าว ซุบฮานัลลอฮ อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ อัลลอฮุอักบัร ลาเฮาละวะลากูวะตะอิลลาบิลลาฮ หรือ การอ่านอัลกุรอาน ก็ถือเป็นการซิกรุลลอฮที่ยิ่งใหญ่
การรำลึกถึงอัลลอฮ คือ การพึ่งพาซึ่งพระบัญญัติของพระองค์ในการดำรงชีวิตประจำวันของเรา การเข้าร้านอาหาร แล้วไปเจอเครื่องดื่มที่ไม่ฮะลาล แล้วไม่ดื่ม นั่นเป็นเพราะอัลลอฮสั่ง แสดงว่า เขากำลังรำลึกถึงอัลลอฮ แต่การที่เราจะไปผูกพันการซิกรุลลอฮกับลิ้นอย่างเดียวนั้นจะเป็นการจำกัดให้การซิกรุลลอฮมีเวลาน้อยมากในชีวิตของเรา และจะทำให้เรานึกว่า เดี๋ยวจะซิกรุลลอฮ แต่ยังไม่มีเวลา ต้องขอเวลาหน่อย นี่ถือว่าเรากำลังการจัดสรรเวลาให้อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยแบ่งแยกส่วนหนึ่งของชีวิตของท่านไม่ได้เป็นของอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ซึ่งคล้ายกับพฤติกรรมของบรรดามุชริกีนยุคก่อนๆ เมื่อพวกเขาเลี้ยงปศุสัตว์จะแบ่งเป็น ส่วนนี้ของเรา ส่วนนี้ของอัลลอฮ ส่วนนี้ของเจว็ด
เมื่อท่านไปทำงาน งานนั้นเป็นงานที่ฮะลาล แสดงว่าท่านรำลึกถึงอัลลอฮในงานนั้นของท่าน เมื่อท่านจะทำสิ่งใด แล้วคิดว่าอัลลอฮอนุมัตหรือไม่อนุมัติ นั่นเป็นการรำลึกถึงอัลลอฮ ท่านอย่าบรรจุเวลาซิกรุลลอฮเฉพาะเวลาที่ท่านกล่าวพระนามของอัลลอฮเพียงอย่างเดียว แต่ให้ท่านบรรจุการซิกรุลลอฮในทุกวาระการดำรงชีวิตของท่าน ถ้าเช่นนั้นก็จะถือว่าชีวิตทั้งชีวิตของเราเป็นการรำลึกถึงอัลลอฮ มันก็จะไม่เห็นว่าเป็นการยากเลยถ้าเราได้ยินคำสั่งของอัลลอฮว่า “ผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงรำลึกถึงอัลลอฮให้มากมาย”
มุอฺมินจะต้องไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของชีวิตที่จะห่างไกลจากการซิกรุลลอฮ นอกจากผู้ที่หลงลืมแน่นอน ท่านอบูบักร อัศศิดดีก จะเอาหินมาอมที่ปากเมื่อเข้าห้องน้ำ เพราะกลัวว่าจะซิกรุลลอฮ แต่ถึงกระนั้นก็ตามสิ่งที่ท่านนบีมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สอนเรา ก่อนเข้าห้องน้ำก็ต้องกล่าวซิกรุลลอฮอยู่ดี เมื่อถ่ายทุกข์เสร็จแล้ว ออกจากห้องน้ำ ก็ยังต้องรำลึกถึงอัลลอฮ (ฆุฟรอนะกะ) อุละมาอฺบางท่านวิเคราะห์ ว่า ทำไมออกจากห้องน้ำ ต้องขออภัยโทษต่ออัลลอฮ การถ่ายทุกข์นี่เป็นบาปเหรอ ? คำตอบคือ เป็นการขออภัยโทษต่ออัลลอฮที่บกพร่องไม่ได้รำลึกถึงอัลลอฮในช่วงนั้น(เข้าห้องน้ำ)
การขออภัยโทษต่ออัลลอฮหลังละหมาด ถือเป็นการขออภัยโทษต่ออัลลอฮที่รำลึกถึงอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่สมบูรณ์ นั่นแสดงว่า ถ้าชีวิตของเราไม่มีการรำลึกถึงอัลลอฮ ก็จะไม่มีสิ่งที่ละเอียดอ่อน ไม่มีสิ่งที่ประณีต และสวยงามหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย ซึ่งถ้าหากกับมนุษย์กันเอง เมื่อรักกัน ก็จะเอาดอกไม้มาให้ เมื่อพูดอะไรที่กระทบความรู้สึก ก็จะขอโทษขอโพย แต่กับอัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เรากลับแข็งกระด้าง
ดังนั้น จำเป็นยิ่งสำหรับบรรดาผู้ศรัทธา ที่เขาจำต้องบรรจุ ‘การรำลึกถึงอัลลอฮ’ ไว้ในทุกวาระชีวิตของเรา ไปตลาด ไปทำมาหากิน ไปเที่ยว ให้เรารำลึกเสมอว่า อัลลอฮทรงอยู่กับเรา นั่นถือเป็นการรำลึกถึงอัลลอฮ แต่ถ้าเราสามารถทำให้การรำลึกถึงอัลลอฮเอ่อล้นจนสามารถทำให้ลิ้นสอดคล้องกับหัวใจ นี่ก็ยิ่งดี เมื่อขับรถก็อย่าให้ลิ้นว่าง บางทีเราต้องซิกรุลลอฮให้ดังนิดหนึ่ง เพื่อให้คนข้างๆได้ยิน ไม่ต้องดังตลอดก็ได้ แต่เพื่อเป็นการเตือนเขาว่าอย่าลืมที่จะซิกรุลลอฮ นี่เป็นสิ่งที่นบี ศอลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม และบรรดาศอฮาบะฮทำตลอด การรำลึกถึงอัลลอฮด้วยการเอ่ย อัลลอฮได้กล่าวไว้ในฮะดีษกุดซีย์ “ใครที่เอ่ยถึงพระนามของฉัน(อัลลอฮ) ข้าจะเอ่ยนามของเขาในที่ที่มีผู้มีเกียรติมากกว่าที่นั้น(มลาอิกะฮ)…”
เรื่องนี้มีคุณค่ามหาศาล บรรดาผู้ศรัทธาเท่านั้นที่จะรู้คุณค่าของสิ่งนี้ อย่างเช่น อุบัย อิบนิ กะอบฺ เป็นศอฮาบะฮท่านหนึ่ง ซึ่งอัลลอฮได้สั่งให้ท่านร่อซูล ศอลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ไปอ่านซูเราะฮ อัลฟาติฮะฮ(หรืออายะฮกุรซีย์ –เชคจำไม่ถนัด) ให้เขาฟัง นบีได้ไปหาเขาแล้วบอกว่า อัลลอฮสั่งให้ฉันอ่านให้ท่านฟัง อุบัย อิบนิ กะอบฺ ร้องไห้แล้วกล่าวว่า
“อัลลอฮเอ่ยชื่อฉันเหรอ จะไม่มีใครได้รางวัลนี้ นอกจากผู้ที่เอ่ยพระนามของอัลลอฮตลอดในใจ ด้วยลิ้น ด้วยหัวใจ ด้วยสมอง และอัลลอฮจะพอพระทัยและเอ่ยนามของเรา”
การซิกรุลลอฮที่จะมีผลบุญสมบูรณ์ในศาสนาของเราได้กำหนดไว้อย่างง่ายๆ ทุกภาษาสามารถกล่าวได้
ถอดความ : TaqwalQuluub
เรียบเรียงโดย : Bint Ahmad
ที่มา : sawasdeeislam (สวัสดีอิสลาม)