เมื่อ 1436 ปีที่ผ่านมา ท่านนบี มูฮัมหมัด ซล ได้ถือปฏิบัติมาด้วยการเคี้ยวผลอินทผลัมให้ลพเอียดแล้วป้านที่ข้างในเพดานปากของเด็กที่เพิ่งเกิด
นักวิทย์ยังทึ่ง!! เมื่อ 1400 กว่าปี ถูกพบถึงหลักปฏิบัติต่างๆในอิสลาม
เมื่อ 1436 ปีที่ผ่านมา ท่านนบี มูฮัมหมัด ซล ได้ถือปฏิบัติมาด้วยการเคี้ยวผลอินทผลัมให้ลพเอียดแล้วป้านที่ข้างในเพดานปากของเด็กที่เพิ่งเกิด
BBC ไดัออกข่าวยืนยันทางการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ว่า การที่เอาน้ำตาลที่ข้นเหนียวป้ายกระพุ้งแก้มของทารกจะช่วยคุ้มกันทารกที่คลอดก่อนกำหนดจากการมีสมองพิการได้
มุสลิมได้ปฏิบัตตามมาเมื่อ1436ปีที่แล้วก่อนที่จะได้มีการค้นพบยืนยันกันเดี๋ยวนี้
แสดงว่าการปฏิบัติที่ผ่านมาก้าวหน้ามากในทางวิชาการก่อนที่จะมีการค้นพบ
ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า ศาสนาอิสลามมีความก้าวหน้ามาเป็นเวลานาน
ขอข้อนี้ชี้ให้ทุกคนรู้ด้วยว่า ศาสนาอิสลามมิใช่ศาสนาที่ล้าหละงอย่างที่คนอยากจะคิด
ถ้าปวดหัวที่หน้าผาก การแก้คือการนอนหลับ ถ้าปวดบนกลางหัว การแก้คือการกินอาหารและดื่มน้ำ ถ้าปวดหัวที่ท้ายทอย การแก้คือ การปล่อยความเครียดที่เรารู้อยู่ว่าเราเครียดเรื่องอะไรให้ปล่อยไป
การแก้ปัญหาปัญหาสายตาให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ตามหลักซุนนะห์คือ จะต้องลืมตาขณะที่สุญุด ลืมตาที่จุดที่เราจะสุญุด และให้ตาอยู่ที่จุดนั้นตลอดเวลาที่ทำการสุญุด
การทำเช่นนี้เพราะขณะที่เรากำลังก้มหน้า rukuu กล้ามเนื้อของตาจะกดดันบีบเลนส์ของตาให้เพิ่มการมองให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อเราลุกขึ้น กล้ามเนื้อของตาจะผ่อนคลายความกดดันลง
เวลาสุญุดเลนส์ของตาจะหดตัวลงเพราะเส้นทางของตากับพื้นที่เราสุญุดห่างกัน เมื่อเราลุกขึ้นจากการสุญุดกลเามเนืเอของตาจะผ่อนคลายอีกครั้ง คือมีการยืดและหด ตลอดเวลาที่เราก้มและเงย
การละหมาด เป็นการฝึกสายตาอย่างดีที่สุดการทำละหมาด 5 ครั้งต่อวันเป็นการฝึกสายตาถึง 17 ครั้งต่อวัน
ท่านนบี มูฮัมหมัด ซ.ล. สั่งสอนให้มุสลิมทุกคนลืมตาในขณะที่สุญุดตลอดมา เวลานี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบและสนับสนุนความจริงที่ว่า การปฏิบัติดังกล่าวให้ผลอย่างเยี่ยมยอด ที่จะเพิ่มให้สายตามีความแข็งแรงมากขึ้น
นักวิทยาศาสตร์ที่ไม่ใช่มุสลิม กล่าวว่า ทุกคนต้องหลีกเลี่ยง electromagnetic radiation จากแคลิฟอร์เนีย เช่น microwave..handphon TV..ด้วยการสุญุด ด้วยการเอาหน้าผากแตะพื้นอย่างน้อยวันละครั้ง เพื่อว่าการดึงดูดของโลก จะช่วยดึงดูด รังสีจากในตัวของเราออกมา
มุสลิมทุกคนได้รับของขวัญอันล้ำค่าจากการที่ถูกบัญญัติให้อ่านละหมาดทุกวัน วันละ5ครั้ง เอาหน้าเอาหน้าผากแตะพื้นได้ถึง 92 ครั้ง
นี่คือ ที่ซ่อนเร้นอยู่ในการอ่านละหมาด
ผลดีที่เราได้รับเช่นนี้ จะมีใครอีกหรือที่จะปฏิเสธไม่ยอมรับผลดีอันนี้
วัลลอฮุอะลัม