ศาสนาทุกศาสนาบนโลกนี้ ล้วนมีจุดมุ่งหมาย เพื่ออบรมสั่งสอนให้คนเป็นคนดี ปฏิบัติคุณงามความดี และออกห่างจากความชั่วทั้งหลาย หรือเรียกว่าบาป
ข้อห้ามสำหรับมุสลิม (ละเอียดยิบ)
ศาสนาทุกศาสนาบนโลกนี้ ล้วนมีจุดมุ่งหมาย เพื่ออบรมสั่งสอนให้คนเป็นคนดี ปฏิบัติคุณงามความดี และออกห่างจากความชั่วทั้งหลาย หรือเรียกว่าบาป อิสลามเป็นหนึ่งในศาสนาแห่งฟากฟ้าที่สมบูรณ์ที่สุด และเป็นศาสนาสุดท้ายที่พระเจ้าทรงประทานลงมา มีคำสอนครอบคลุมทั้งด้านความศรัทธา การปฏิบัติ และจริยธรรม คำสอนของอิสลามจึงกล่าวถึงทั้งสิ่งที่เป็นคุณงามความดี และสิ่งที่เป็นบาปกรรมทั้งหลาย แต่ ณ ที่นี้จะนำเสนอเฉพาะสิ่งที่เป็นบาปกรรมเท่านั้น
อิสลามสอนว่า กระบวนการที่เป็นบาป มีทั้งที่เป็นบาปใหญ่และบาปเล็ก ซึ่งทั้งสองถูกห้ามปฏิบัติอย่างเด็ดขาด จะแตกต่างกันตรงโทษทัณฑ์ ซึ่งพระเจ้าทรงพิจารณาและตัดสินไปตามบาปนั้น ๆ
การพิจารณาการกระทำใดเป็น “อกุศลกรรม” ในอิสลาม จึงต้องพิจารณาประเด็นเหล่านี้เป็นหลัก ซึ่งอกุศลกรรมทั้งหมดเข้าใจได้จากอัล-กุรอาน วัจนะของท่านศาสดา (ขอพระเจ้าทรงประสาทพรแด่ท่านและครอบครัว) และบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ (ขอความสันติพึงมีแด่ท่าน) ทั้งนี้โดยอาจจะสรุปตัวอย่างให้เห็นภาพรวมว่า การกระทำดังต่อไปนี้ถือว่าเป็น “บาป” อันที่จริงมีบาปมากมาย แต่จะขอนำเสนอเฉพาะบาปที่มนุษย์อาจละเมิดได้ตลอดเวลา ในศาสนาอิสลามมีข้อห้ามอันเป็นบาปให้ศาสนิกต้องละเว้นมากมาย ทั้งข้อห้ามด้านหลักศรัทธา ข้อห้ามด้านหลักปฏิบัติ และข้อห้ามด้านจริยธรรม
ลักษณะทั่วไปของอิสลาม
1. ไม่ใช่ศาสนาที่เกิดใหม่ หรือลอกเรียนแบบมาจากศาสนาใด ทว่าเป็นศาสนาที่รับรองให้เป็นความสมบูรณ์แก่ศาสนาก่อนหน้านั้น
2. นับถือยกย่องศาสดาทั้งหลายทุกๆ คนที่มาก่อนศาสดามุฮัมมัด
3. อำนาจทางกฎหมายหรือธรรมนูญสูงสุดมาจากพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว เพราะฉะนั้นจึงไม่มีบุคคลกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดที่จะได้รับผลประโยชน์จากกฎหมายนั้นเป็นพิเศษ ผลประโยชน์ทั้งหลายจะต้องตกอยู่กับประชาชนทั่วไปอย่างยุติธรรม โดยเฉพาะผู้อ่อนแอหรือผู้ที่ยากไร้
4. เป็นศาสนาแห่งสันติภาพ เพราะอิสลามแปลว่าสันติ
5. มีการศรัทธา และมีการปฏิบัติควบคู่กันไป ไม่ใช่ศรัทธาอย่างเดียว หรือปฏิบัติอย่างเดียว
6. ในเรื่องศาสนกิจแล้ว ไม่มีผู้ใดได้รับสิทธิพิเศษจากพระผู้เป็นเจ้า นอกจากผู้ที่บกพร่องทางจิต หรือทางกายภาพ
7. เป็นระบอบการปกครองและเป็นธรรมนูญแห่งชีวิต
8. ไม่มีนักบวช นักพรต สมณะศักดิ์และชนชั้น (ดังนั้น) ทุกคนต้องทำมาหาเลี้ยงชีพ และให้เกียรติแก่ผู้ใช้แรงงาน
9. ข้อห้ามมีบทลงโทษ เช่น ผู้ที่ดื่ม สุราจะได้รับการถูกเฆี่ยน 80 ครั้ง และผู้ที่ผิดประเวณีจะได้รับการถูกเฆี่ยน 100 ครั้ง ผู้ที่ขโมยโดยสันดานจะถูกตัดมือ ฯลฯ
10. สตรีมีสิทธิเท่าเทียมชาย แต่มีหน้าที่แตกต่างกันและสตรีทุกคนได้รับการตอบแทนตามผลงานที่ ตัวเองได้ กระทำไว้อย่างเท่าเทียมกัน
11. พฤติกรรมหรือผลงานในทางสังคมของมนุษย์จะเป็นเครื่องตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงรัก
12. สอนให้มนุษย์มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ประณามการสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย
13. การเริ่มศักราชใหม่หรือวันปีใหม่ของอิสลามไม่ได้นำวันเกิดและวันสิ้นชีวิตของศาสดาหรือวันอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวของศาสดามากำหนดวันขึ้นปีใหม่ แต่วันปีใหม่ได้กำหนดเอาจากเหตุการณ์ของการอพยพของท่านศาสดามุฮัมมัดและประชาชนที่อพยพจากสภาพที่เลวร้ายไปสู่สภาพที่ดีกว่า (จากเมืองมักกะฮฺไปยังเมืองมะดีนะฮฺ)
14. ทุกๆ คนเกิดมาบริสุทธิไม่มีมลทินหรือบาปติดตัวมา ดังนั้นจึงไม่มีพิธีการล้างบาปในอิสลาม
15. ในอิสลามไม่มีการกำหนดวันหมดอายุความของคดีใดๆ ของผู้กระทำความผิด ผู้กระทำผิดจะพ้นผิดไปได้ก็ต่อเมื่อได้รับการตัดสินหรือมีการตกลงกันระหว่างคู่กรณีหรือมีการชดใช้ค่าเสียหาย เช่น เป็นฆาตกรโดยเจตนาจะพ้นผิดได้ก็ต่อเมื่อได้รับการตัดสิน ไม่ใช่หลบหนีไป 20 ปี แล้วถือว่าหมดอายุความนั้น หรือพ้นผิดได้ก็ต่อเมื่อ ได้รับการตัดสินหรือมีการตกลงกันระหว่างคู่กรณีหรือมีการชดใช้ค่าเสียหาย เช่น เป็นฆาตกรโดยเจตนาจะพ้นผิดได้ก็ต่อเมื่อได้รับการตัดสิน ไม่ใช่หลบหนีไป 20 ปีแล้วถือว่าหมดอายุความนั้น หรือพ้นผิด
16. ความโง่เขลา ความฉลาด ความรวยความจน ความทุกข์ยากทรมานต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับคนใดคนหนึ่งนั้น มิใช่เกิดขึ้นโดยพระผู้เป็นเจ้าทรงหยิบยื่นให้เป็นการตายตัว แต่ที่เป็นเช่นนั้นเพราะผู้ปกครองหรือผู้มีอำนาจขาดความรับผิดชอบ ต่อประชาชน
17. ความดี ความเลวของมนุษย์มิได้เกิดขึ้นโดยสันดาน แต่เกิดขึ้นเพราะสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ใกล้ชิดเป็นตัวกำหนดแต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นกฎเกณฑ์ตายตัวเสมอไป แต่ส่วนมากมักจะเป็นเช่นนั้น
18. อิสลามไม่ได้แยกการเมืองออกจากศาสนา เพราะศาสนาและการเมืองนั้นเป็นเนื้อเดียวกัน เพราะถ้าการเมืองไร้คุณธรรม ประเทศชาติและประชาชนก็จะเสียหาย
19. ทุกๆ อิริยาบถ หรือความนึกคิดต่างๆ ที่จะต้องดำเนินไปตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย และตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน อิสลามได้มีคำสอนไว้หมดแล้ว
20. ความดีความชั่วของมนุษย์ไม่ได้เกิดจากกรรมพันธุ์เพราะฉะนั้นจึงถ่ายทอดให้กันไม่ได้
21. ในอิสลามไม่มีผู้วิเศษและไม่ได้ตั้งบุคคลใดให้เป็นสื่อกลางหรือนายหน้าระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า มนุษย์ทุกๆคนไม่ว่าจะมีสภาพฐานะยากจนหรือร่ำรวย หรือจะมาจากชนชั้นใดก็ตาม ก็มีสิทธิที่จะเข้าหาและวิงวอนร้องขอต่อพระผู้เป็นเจ้าได้โดยตรง มิต้องจ้างวานหรือให้ของกำนัลแก่ผู้ใดเพื่อที่จะให้เขามาเป็นสื่อ ตัวแทนให้
22. เนื่องจากอิสลามไม่มีระบบพระ ไม่มีระบบสงฆ์ ไม่มีสามเณร ไม่มีชี ไม่มีนักบวช นักพรต ไม่มียศไม่มีตำแหน่งไม่มีการล้างบาป เพราะฉะนั้น มุสลิมทุกๆ คนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายระเบียบข้อบังคับของศาสนาเหมือนกันหมด ยกเว้นเด็ก ผู้เสียสติ ผู้อ่อนแอ ไร้ความสามารถ
23. ในอิสลามไม่มีเครื่องแบบ หรือยูนิฟอร์ม สำหรับสวมใส่
24. เน้นเรื่องประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก
25. คนที่ดีที่สุดในทรรศนะอิสลามนั้นไม่ใช่คนชาติอาหรับ แต่ตะเป็นคนชาติใดก็ได้ที่มีความยำเกรง อัลลอฮฺ คือ คนๆ นั้นเป็นคนที่มีจริยธรรมอันสูงส่ง
26. ในศาสนาอิสลามถือว่า การเสพสิ่งมึนเมา การเล่นการพนันการประพฤติผิดในกาม การขโมยนั้นมีความผิดมากกว่าการกินเนื้อหมู
27. อิสลามสอนให้มนุษย์เป็นมือบนมิใช่เป็นมือล่าง (เป็นผู้ให้มิใช่เป็นผู้แบมือรับ )
ข้อห้ามสำหรับมุสลิมด้านหลักศรัทธา
1. ห้ามปฏิเสธความเป็นพระเจ้าของอัลลอฮฺ (มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระองค์.)
2. ห้ามตั้งภาคีเทียบเคียง หรือนับถือสิ่งอื่นเป็นพระเจ้า นอกจากอัลลอฮฺ หรือนับถือสิ่งอื่นว่ามีความสามารถเทียบเท่าอัลลอฮฺ ซึ่งเรียกว่า ชิรกฺ หมายถึงการตั้งภาคีเทียบเคียงพระเจ้า ซึ่งเป็นอกุศลกรรมเดียวที่ไม่ได้รับการอภัยจากพระเจ้า
3. ห้ามกราบบูชาสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺ แม้ว่าจะเป็นบิดามารดาก็ตาม
4. ห้ามตั้งตนเป็นผู้วิเศษ หรือแอบอ้างตนเป็นศาสดา หรืออิมาม
5. ห้ามปฏิเสธบทบัญญัติของอัลลอฮฺ
6. ห้ามปั้นหรือทำรูปเคารพาบูชา
7. ห้ามเคารพบูชารูปภาพ รูปปั้น และเครื่องรางของขลัง
8. ห้ามกราบไหว้ธรรมชาติ เช่น ภูเขา ต้นไม้ ดวงตะวัน ดวงจันทร์ ดวงเดือน เทวดาและนางไม้
9. ห้ามด่าทอบรรดาศาสดาและอิมามผู้บริสุทธิ์
10. ห้ามปฏิเสธหรือด่าทอพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอาน
11. ห้ามเผา อัล-กุรอาน
12. ห้ามประดิษฐ์สิ่งแปลกปลอมขึ้นในศาสนา
13. ห้ามเกรงกลัวอำนาจอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ
14. ห้ามสิ้นหวังในพระเมตตาของอัลลอฮฺ
ข้อห้ามสำหรับมุสลิมด้านหลักปฏิบัติ
1. ห้ามรับประทานอาหารที่ต้องห้าม เช่น เนื้อสุกร สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ที่มีเขี้ยวเล็บ ฯลฯ
2. ห้ามสังหารชีวิตผู้อื่นโดยไม่เป็นธรรม
3. ห้ามละเว้นจากการแสดงความเคารพภักดีอัลลอฮฺ เช่น ไม่นมาซ
4. ห้ามละเว้นการจ่ายซะกาต หรือทานบังคับ
5. ห้ามละเว้นการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
6. ห้ามละเว้นการจ่ายค่มซ์
7. ห้ามละเว้นการเดินทางไปประกอบหัจญ์เมื่อมีความสามารถ
8. ห้ามประพฤติผิดในกาม (การทำซินา)
9. ห้ามเรียกหรือเก็บกินดอกเบี้ย
10. ห้ามการฉ้อฉลทรัพย์สินเด็กกำพร้า และของผู้อื่น
11. ห้ามพูดเท็จหรือกล่าวร้ายต่ออัลลอฮฺและบรรดาศาสดา
12. ห้ามหนีสงครามศาสนา
13. ห้ามเป็นผู้ปกครองที่อยุติธรรม
14. ห้ามการเป็นพยานเท็จ
15. ห้ามเสพสุราและของมึนเมา
16. ห้ามเล่นการพนันและเสียงโชคทุกชนิด
17. ห้ามใส่ร้ายหญิงผู้บริสุทธิ์ว่านางกระทำการชั่ว
18. ห้ามลักขโมยทรัพย์สินของผู้อื่น
19. ห้ามล่วงละเมิดหรือใช้ทรัพย์ของผู้อื่นโดยเจ้าของไม่ได้อนุญาต
20. ห้ามกดขี่ เอารัดเอาเปรียบ
21. เอาประโยชน์จากผู้อื่นโดยมิชอบ
22. ห้ามฆ่าตัวตายหรือฆ่าผู้อื่น
23. ห้ามโกหก
24. ห้ามตัดสินความโดยการขาดความยุติธรรม
25. ห้ามติดสินบน
26. ห้ามมีชู้
27. ห้ามสมรสกับหญิงทีสามีหย่าโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติ
28. ห้ามเล่าเรื่องโกหก
29. ห้ามแช่งด่า หรือสบถสาบานที่เป็นเท็จ
30. ห้ามละเมิดและบิดพลิ้วสัญญา
31. ห้ามการทำนายทายทัก
32. ห้ามขายบริการสิ่งมืนเมา
33. ห้ามซื้อขายสิ่งของที่ไม่มีค่า เช่น ปัสสาวะและอุจจาระ
34. ห้ามใช้เล่ห์เพทุบายในการค้าขาย
35. ห้ามบริโภคสิ่งของที่นะญิซ (จัดว่าโสโครกตามหลักการอิสลาม)
36. ห้ามขายสื่อเครื่องรางของขลัง หรือพระพุทธรูป
37. ห้ามซื้อขายอุปกรณ์การพนันทุกประเภท
38. ห้ามทำเสน่ห์ ลงคาถาอาคมทั้งในฐานะผู้ทำเองหรือรับจ้างผู้อื่น
39. ห้ามบริโภคอาหารต้องห้าม เช่น ซากสัตว์ สัตว์ที่เชือดโดยไม่ได้เอ่ยพระนามของพระเจ้า สัตว์บูชายัญ และเลือดสัตว์ทุกชนิด
40. ห้ามบริโภคเนื้อที่ไม่อนุมัติ เช่น เนื้อสัตว์ดุร้ายทุกประเภทตลอดจนสัตว์ที่มีเขี้ยว และกงเล็บ เช่น เสื้อ สิงโต หมี หมาป่า และสัตว์อื่น ๆ ที่อยู่ในประเภทเดียวกัน เช่น สุนัขจิ้งจอก
41. ห้ามบริโภคเนื้อกระต่ายและแมลงทุกชนิด
42. ห้ามบริโภคสัตว์สี่เท้า เช่น สุนัข แมว และสัตว์อื่นที่คล้ายคลึงกัน
43. ห้ามบริโภค ค้างคาว นกยูง นกกา (และนกประเภทเดียวกับกา) นกทั้งหมดที่มีกงเล็บ เช่น นกอินทรีย์ เหยี่ยว เป็นต้น นกที่เวลาบินแล้วกางปีกเล่นลม เช่น นกนางนวลเป็นต้น
44. ห้ามบริโภคไข่ของสัตว์ที่เนื้อไม่อนุมัติให้บริโภคทุกชนิด
45. ห้ามบริโภคปลาไม่มีเกล็ดทุกชนิดตลอดจนปลาหมึก และแมงกะพรุน
46. ห้ามบริโภคสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น กบ เขียด สัตว์ที่มีกระดอง เช่น เต่า ตะพาบน้ำ เป็นต้น
47. ห้ามบริโภคบางสิ่งของสัตว์ที่อนุมัติให้บริโภคเนื้อ ซึ่งมีอยู่ 15 ชนิดในตัวสัตว์ที่ไม่สามารถรับประทานได้แก่ เลือด อุจจาระ (ขี้เพลี้ย) อวัยวะสัตว์ตัวผู้ อวัยวะสัตว์ตัวเมีย มดลูก ปลีกมดลูกทั้งสอง ต่อม (อวัยวะคัดหลั่ง) ไข่สัตว์สี่เท้า (อัณฑะ) เม็ดเล็ก ๆ คล้ายเม็ดถั่วอยู่ในสมองสัตว์สี่เืท้า ไขสันหลัง เส้นประสาท ถุงน้ำดี ม้าม ถุงปัสสาวะ และแก้วตาดำ
48. ห้ามกินดิน และสิ่งที่ไม่ใช่อาหารทุกประเภท
49. ห้ามกินหรือดื่มสิ่งที่เป็นนะญิซ
50. ห้ามกินสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น กินอาหารที่มีไขมันมากสำหรับคนป่วยซึ่งเป็นอันตราย
51. ห้ามรับประทานอาหารทุกชนิดที่สกัดหรือทำมาจากไขมัน หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่อนุญาตให้บริโภค
52. ห้ามรับประทานพืชผักทุกชนิดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
53. ห้ามประกอบอาชีพไม่สุจริตทุกประเภท
54. ห้ามทำแท้ง
55. ห้ามผู้ชายห้ามใส่ทองเป็นเครื่องประดับ และสวมใส่ผ้าไหม
56. ห้ามสตรีมุสลิมถอดผ้าคุมศีรษะเมื่ออยู่ต่อหน้าชายที่สามารถแต่งงานกันได้
57. ห้ามนำมุสลิมไปเผา
58. ห้ามตัดความสัมพันธ์กับญาติพี่น้อง
59. ห้ามดูถูกหรือดูแคลนศาสนาอื่น
60. ห้ามแต่งงานกับคนนอกศาสนา
61. ห้ามมองสิ่งอื่น หรือเพศตรงข้ามด้วยความเสน่ห์หา
62. ห้ามสัมผัสอักษรอัล-กุรอาน พระนามของอัลลอฮฺ ศาสดาและบรรดาอิมามผู้บริุสุทธิ์ โดยปราศจากวุฏูอ์
63. ห้ามฟังเพลงดูสื่อลามก หรือรูปภาพที่ก่อให้เกิดอารมณ์ใคร่
ข้อห้ามสำหรับมุสลิมด้านจริยธรรม
1. ห้ามกระทำการรังแกและเหยียดหยามผู้คน
2. ห้ามเดินเหินอย่างหยิ่งผยองและกระทืบพื้นเสียงดัง
3. ห้ามกระทำให้เพื่อนบ้านเดือนร้อน
4. ห้ามทำให้มุสลิมได้รับความทุกข์และความเดือนร้อน
5. ห้ามไม่เคารพเชื่อฟังบิดามารดา อัล-กุรอาน กล่าวว่าแม้คำว่าอุฟก็ห้ามกล่าวกับบิดามารดา
6. ห้ามแสดงอาการยโส โอหัง
7. ห้ามไม่ปกป้องตัวเองให้พ้นจากการแปดเปื้อนบาป
8. ห้ามโอ้อวด
9. ห้ามเรียนรู้ศาสนา เพื่อใช้ในการแสวงหาผลประโยชน์ในโลกนี้ และการปิดบังความรู้
10. ห้ามปิดบังความจริง
11. ห้ามกล่าวลำเลิกบุญคุณ
12. ห้ามแอบฟังเรื่องส่วนตัวของบุคคลอื่น
13. ห้ามเป็นสายลับ
14. ห้ามเข้าบ้านคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
15. ห้ามพูดจาเสียดสีให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
16. ห้ามภรรยาปฏิบัติไม่ดีต่อสามี เช่น ออกจากบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต
17. ห้ามสามีกดขี่ภรรยาและละเลยหน้าที่ของสามีที่ดี
18. ห้ามบังคับมิให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดกระทำสิ่งที่เหนือความสามารถ
19. ห้ามบุตรฝ่าฝืนคำสั่งของบิดามารดา
20. ห้ามเนรคุณคนบุคคลอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีพระคุณต่อเรา
21. ห้ามสุลุ่ยสุหร่าย
22. ห้ามร้องไห้พิรี้พิไร เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์หรือความล้มเหลว
23. ห้ามปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไม่ถูกต้องหรืออยุติธรรม
24. ห้ามข่มเหงรังแกภรรยา คนรับใช้ ผู้อ่อนแอ และสัตว์
25. ห้ามนินทาว่าร้าย และใส่ความผู้อื่น
26. ห้ามเปิดเผยข้อตำหนิของบุคคลอื่น
ข้อต้องปฏิบัติในอิสลาม
1. ต้องเผยแผ่สัจธรรมแก่ผู้อื่น (ตามความรู้ความสามารถของตน)
2. กำจัดสิ่งแหลมคมที่อาจเป็นอันตรายออกจากทางสัญจร
3. บอกทางให้แก่ผู้ที่หลงทาง
4. จงลุกขึ้นทำการต่อสู้ถ้ามีการกดขี่ทุกรูปแบบ
5. จงพูดความจริงต่อหน้าผู้ปกครองที่อธรรม
6. จงแต่งงาน และการแต่งงานที่ดีที่สุดนั้นต้องมีการใช้จ่ายน้อย และวุ่นวายน้อยที่สุด
7. เมื่อเวลาจะมีการกู้ยืม จงเขียนสัญญา
8. จงยกสภาพของคนใช้ให้มีการกินอยู่เหมือนๆ อย่างนายจ้าง
9. จงกินและดื่มให้หมดภาชนะ อย่าให้เหลือสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย
10. จงแปรงฟันบ่อยๆ เท่าที่สามารถ
11. เมื่อมีขบวนแห่ศพเคลื่อนผ่านมาจงยืนขึ้น ไม่ว่าศพนั้นจะเป็นศพของผู้ที่นับถือศาสนาใดก็ตาม
12. จงรักษาความสะอาด เพราะความสะอาดเป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา
13. เมื่อแขก (ผู้มาเยี่ยม) จะกลับบ้านเจ้าของบ้านต้องออกไปส่งถึงประตู ถ้ามีรั้วก็ถึงประตูรั้ว
14. เมื่อจะกระทำกิจกรรมใดๆ ที่เป็นผลดีต่อสังคม จงกระทำอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าจะกระทำสิ่งนั้นวันละนิดละน้อยก็ตาม
15. จงรักษาคำมั่นสัญญา
16. จงให้อภัยภรรยาวันละ 70 ครั้ง (อภัยวันละหลายๆ ครั้ง )
17. จงห่างไกลสิ่งต่างๆ ที่เป็นสิ่งชักนำไปสู่ความชั่วช้า
18. เมื่อจะทำกิจกรรมใดๆ ต้องทำเพื่ออัลลอฮฺ เช่น เมื่อจะบริจาคสิ่งใดๆ ก็ตาม ไม่ต้องให้ใครรู้โดยเฉพาะสื่อมวลชน
19. เมื่อจะไปไหนมาไหนต้องสวมรองเท้าเสมอ
20. จงให้เพื่อนบ้านมีอาหารกินอย่างที่เรามี
21. เมื่อพบศพผู้ใด ไม่ว่าศพนั้นจะนับถือศาสนาใด ถ้าเห็นแล้วต้องนำศพนั้นไปฝัง ห้ามนำศพนั้นไปเผา
22. จงปฏิบัติต่อศพอย่างสุภาพ อ่อนโยน ห้ามหักแขน หักขาศพ ไม่ว่าศพนั้นจะเป็นใคร
23. จงตรงต่อเวลาในการใช้หนี้สิน และจงผ่อนปรนลูกหนี้
24. จงจ่ายค่าแรงของผู้ที่ใช้แรงงานก่อนที่เหงื่อของเขาจะแห้ง (ให้จ่ายเร็วๆ)
25. จงช่วยกันทำลายความชั่วช้าที่เกิดขึ้นทุกรูปแบบ
26. เมื่อจะทำนิติกรรมใดๆ ต้องมีพยานผู้ชายอย่างน้อยสองคนหรือผู้หญิงสี่คน
27. จงขี่สัตว์เมื่อมันเหมาะสมที่จะขี่ และจงลงจากหลังของมันเมื่อมันเหนื่อย เมื่อลงแล้วต้องเอาสัมภาระบนหลังลงด้วย
28. เมื่อจะเข้าบ้านของตัวเองหรือบ้านของผู้ใดต้องให้สัญญาณโดยกล่าวคำทักทายคนในบ้านนั้นด้วยคำว่า “อัสสะลามุอะลัยกุม” แปลว่า “ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน”
29. มารดาควรให้นมของตนเองแก่บุตรเป็นเวลา 2 ปี หลังจากนั้นจึงสามารถตั้งครรภ์บุตรคนต่อไปได้ (ทั้งนี้เพื่อให้มารดาและเด็กมีความสมบูรณ์แข็งแรง)
30. เมื่อเด็กอายุ 7 ขวบ ให้เริ่มสอนหนังสือ รวมทั้งมารยาท และจริยธรรม และเมื่ออายุ ได้ 10 ขวบ ให้แยกที่นอนระหว่างเด็กหญิงกับเด็กชาย
31. จงชักชวนให้มนุษย์กระทำความดี และยับยั้งการกระทำความชั่ว
32. จงช่วยกันและร่วมมือกันทำลายความชั่วทุกรูปแบบที่มันทำลายตัวเองและสังคม
33. ต้องต่อสู้ดิ้นรนขวนขวายเพื่อให้ได้มาซึ่งสัจธรรม
34. จงต่อสู้ดิ้นรนขวนขวายเพื่อให้ชนะกิเลสหรืออำนาจใฝ่ต่ำของตนเอง
35. ต้องดิ้นรนขวนขวายเพื่อมวลมนุษย์มีเอกภาพเดียวกัน และ ให้มนุษยชาติมีความเท่าเทียมกันในทุกๆ ด้าน การทำความดีตามทรรศนะอิสลามคือ เมื่อกระทำความดีไปแล้วต้องให้สังคมได้รับผล
ประโยชน์จากการกระทำของผู้ปฏิบัติการกระทำความดีเพื่อตนเองคนเดียวนั้นยังไม่พอต้องชักชวนให้ผู้อื่นกระทำความดีด้วย พร้อมๆ กันนั้นก็ต้องช่วยกันกำจัดความชั่วร้ายทุกรูปแบบที่มักเกิดขึ้นในสังคมของเรา