ภายในมัสยิดนาบาวีย์จะมีเขตพิเศษอยู่เขตนึงเรียกว่า เราเฎาะฮ์ คือ สถานที่อยู่ระหว่างมิมบัร (แท่นอ่านบทธรรมเทศนา) กับบ้านของท่านนบีมูฮำหมัด(ซล) ขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ มีพื้นที่ประมาณ 330 ตารางเมตร
สาวกชีอะห์ รับอิสลามด้วยกับ มัสยิดนาบาวีย์ และกุโบร ท่าน อบูบักร และท่าน อุมัร รอฏิยัลลอฮุอัลฮุมา
ภายในมัสยิดนาบาวีย์จะมีเขตพิเศษอยู่เขตนึงเรียกว่า เราเฎาะฮ์ คือ สถานที่อยู่ระหว่างมิมบัร (แท่นอ่านบทธรรมเทศนา) กับบ้านของท่านนบีมูฮำหมัด(ซ.ล.) ขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ มีพื้นที่ประมาณ 330 ตารางเมตร (ท่านนบีมุฮัมมัดได้กล่าวว่า "พื้นระหว่างบ้านของฉันกับมิมบัรมันเป็นสวนหนึ่งแห่งสวนสวรรค์ บันทึกโดยบุคคอรี/มุสลิม)
เป็นบริเวณที่ท่านนบีพำนักพักพิงอาศัยเป็นเนืองนิจขณะท่านมีชีวิต โดยเป็นที่ชุมนุมในการละหมาดญามาอะห์,อบรมตักเตือนวางแผนกิจการต่างๆพร้อมกับบรรดาซอฮาบะห์(สหายของท่าน)
ถัดจาก เขตเราเฎาะฮ์มาสักเล็กน้อย จะเป็นสถานที่ฝังศพของท่านนบีมุฮัมมัด(ซ.ล) กับบรรดาสหายของท่าน คือ
ท่านอบูบักร อัฎศิ๊ดดิ๊ก และท่านอุมัร อิบนิค๊อบฎ๊อบ(ร.ฎ) คอลีฟะฮ์ คอลิฟะห์ ท่านที่ 1 และ 2 ในอิสลาม อยู่ใต้โดมสีเขียว
ท่านนบีมุฮัมมัดกล่าวว่า (ผู้ใดเยี่ยมสุสานของฉัน เขาจะได้รับความช่วยเหลือจากฉัน)
สุสานท่านนบีถูกฝังอยู่ในห้องนอนของท่านหญิงอาอิชะฮ์(ร.ฎ) ภรรยาของท่าน
และสหายทั้ง2ของท่านก็เช่นกัน อบูบักร,อุมัร ถูกฝังอยู่ในห้อง ภรรยาท่านนบี เคียงข้างศาสนทูตคนสุดท้ายแห่งพระผู้เป็นเจ้า
ด้านหน้าของกูบุรมีทางเดินที่พาดผ่านมาจากทางเข้าประตูบาบุสลาม
จะเห็นได้ว่าสุสาน มีอยู่3ช่อง ช่องกลาง เป็นสุสานของท่านนบีมุฮัมมัด(ซ.ล) และด้านขวาและซ้าย
จะเป็นสุสานของท่านอบูบักรและท่านอุมัร (ร.ฎ)
ขณะเดินเข้าไปที่กูบุรนบีให้มุสลิมทั่วโลก กล่าวสลามแด่ท่านนบี ซ.ล. จากนั้นก็กล่าวสลามกับท่านอบูบักรและท่านอุมัร ร.ฎ. ด้วยซุนนะห์นี้เองที่ทำให้เหล่าชีอะห์จำนวนไปน้อยได้รับสัจจะธรรมที่กุโบรแห่งนี้ เกิดจากการที่เหล่าสาวกชีอะห์ได้มาเห็นและรับรู้ด้วยตาของตัวเองว่า บุคคล ที่เป็นกาเฟร เลวที่สุดใน ตามความเชื่อในศาสนาชีอะห์ อย่างท่าน อบูบักร และ ท่าน อบูบักร นั้น ฝังอยู่เคียงข้างบุคคลที่ ประเสริฐที่สุดอย่างท่าน นบี ซ.ล.
มีความจริงบางประการที่เล่าขานในทำนองเดียวกันว่า มีหลายๆเหตุการณ์ ที่ บรรดาอุลามาอ ชีอะห์ ได้นำ คณะฮุจญาตสาวกชีอะห์ ไปเยี่ยม กุโบร ของท่านนบี แต่ด้วยกับความไม่เคยรู้มาก่อนว่า กุโบร ข้างๆ กุโบรของท่านนบี นั้น คือ กุโบรของ ท่่าน อบูบักร และท่านอุมัร ทันใดนั้น มีมุสลิมกลุ่มหนึ่งได้เดินผ่านไปยังหลุมศพ ของท่านนบี และกล่าวสล่ามแก่ ท่าน นบี และ กล่าวสล่าม แก ท่าน อบูบักร และทัน อุมัร ทำให้ สาวกชีอะห์ ถึงกับ ตกใจ เมื่อได้ยิน ชื่อ ท่าน อบูบักร และท่าน อุมัร พร้อมๆกับส่งเสียงตะโกนออกมา ด้วยคำถามที่ว่า ใครก็ได้ช่วยบอกความจริงกับฉันที กุโบร ที่ขนาบข้าง ท่านนบี ผู้ที่ประเสริฐที่สุด เป็นใครกัน ทันใดนั้น ก็มีเสียงตอบรับจาก เจ้าหน้าที่ดูแลกุโบรว่า หลุมศพ ทั้งสองที่ ขนาบข้าง หลุมศพของท่านนบี นั้น เป็นของ สหายของท่าน ท่าน อบูบักร และท่าน อุมัร ด้วยกับความจริงข้อนี้ที่บรรดาสาวกชีอะหืไม่เคยได้รับรู้มาก่อน เพราะถูก ตะกียะห์ จากบรรดาอุลามาอ ชีอะห์ ทำให้ สาวกชีอะห์ ต้องหันไปถามคำตอบ จาก อุลามาอชีอะห์ที่เป็นหัวหน้า ฮุจญาตทันที
ท่าน ช่วยบอกความจริงกับเราว่า เป็นความจริง หรือ ไม่ที่ อบูบักร และ อุมัร ถูกฝัง ติดกับ หลุมศพของท่านนบี ?
อุลามาอ ชีอะห์ จึงตอบว่า ใช่แล้ว หลุมศพ ทั้งสอง คือ อบูบักร และอุมัร แต่ยังแถมด้วยคำพูดใส่ไคล้ ที่ว่า กุโบร ถูกตบแต่งขึ้น จากฝีมือมนุษย์ที่ไม่หวังดีกับอิสลาม
ทันใดนั้น สาวกชีอะห์ ได้กล่าว อัสตัฆฟิรุลลออฮ ฉันขอ อภัยโทษ ต่อ อัลลอฮ ซ.บ. ที่เคยสาปแช่ง ท่าน อบูบักร และท่านอุมัร และหันไปพูดกับ อุลามาอชีอะห์ว่า ด้วยสติปัญญาของความเป็นมนุษย์ ไม่มีทาง ที่ อัลลอฮ ซ.บ. จากให้ หลุมศพ ของมนุษย์ที่ประเสริฐที่สุด จะถูกขนาบข้าง ด้วยกับ หลุมศพของ คนสองคนที่เลวที่สุด อย่าง อบูบักรและ อุมัร นอกเสียจากว่า ท่าน อบูบักร และท่าน อุมัรจะเป็นผู้ที่ประเสริฐรองลงมาจาก ท่าน นบี ซ.ล. พวกเราถูกปกปิดความจริงจากอุลามาอชีอะห์ จากความจริงข้อนี้มาตลอดชีวิต เราขอ เตาบะห์ตัวของพวกเรา และขอรับอิสลาม ในวันนี้ อัลฮัมดุลิลลาห์
ที่มา: Anti Rofidah