หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า พฤติกรรมรักเพศเดียวกันเป็นบาปตามหลักอิสลาม และเนื่องจากกฎหมายของประเทศมุสลิมมีพื้นฐานมาจากกฎหมายศาสนา
รักเพศเดียวกัน พฤติกรรมที่ต้องห้ามในอิสลาม
รักเพศเดียวกัน พฤติกรรมที่ต้องห้าม-ต้องโทษ ละเมิดคำสอนในอัลกุรอาน
หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า พฤติกรรมรักเพศเดียวกันเป็นบาปตามหลักอิสลาม และเนื่องจากกฎหมายของประเทศมุสลิมมีพื้นฐานมาจากกฎหมายศาสนา ดังนั้นจะเห็นได้ว่ากฎหมายประเทศมุสลิมมักจะมีบทลงโทษสำหรับกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน
ปัจจุบันพฤติกรรมดังกล่าว ก็ยังคงมีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง มีมานานนม มีทุกสังคม มีทุกชนชั้น ซึ่งหลายประเทศในแถบอาหรับมีการออกกฎหมายและมีบทลงโทษเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น เซเนกัล ตูนีเซีย โมรอกโค จอร์แดน อียิปต์ ซาอุดิอาระเบีย อิรัก ตุรกี อัฟกานิสถาน อิหร่าน ปากีสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือแม้กระทั่งแถบเอเชียเองก็ตาม เช่นมาเลเซีย และอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติและละเมิดหลักฐานในอัลกุรอาน
การร่วมเพศระหว่างเพศหญิงด้วยกัน หรือเลสเบี้ยน (Lesbian) ไม่ค่อยมีการสำส่อน มักเป็นคู่แน่นอน อาจมีปัญหาเรื่องอิจฉาริษยา โกรธแค้นรุนแรงนำไปสู่การฆ่าได้ ซึ่งแน่นอนเป็นที่ต้องห้ามในอิสลาม
ท่านนบีมูฮัมหมัด(ซ.ล.) กล่าวว่า “ชายและหญิงต้องไม่มองสิ่งพึงสงวนของกันและกัน แม้จะเป็นเพศเดียวกันก็ตาม ชายหญิงต้องไม่ห่มผ้าผืนเดียวกับเพศเดียวกับตน”
หลักฐานดังกล่าวแสดงว่า แม้แต่ผู้หญิงจะห่มผ้าผืนเดียวกันยังเป็นที่ต้องห้าม การแสดงบทรักทั้งด้วยสรีระ อวัยวะ อุปกรณ์ร่วมกับเพศหญิงด้วยกันจึงย่อมเป็นที่ต้องห้าม ไม่ว่าจะร่วมเพศหรือไม่ ต้องถูกลงโทษจากอัลลอฮฺเหมือนกัน
รักร่วมเพศ ระหว่างขายกับชายก็เช่นเดียวกัน อิสลามถือว่าการรักร่วมเพศเป็นบาปอย่างมหันต์ อัลลอฮฺ กล่าวไว้ความว่า "และจงรำลึกถึงนบีลู๊ตขณะกล่าวกับชุมชนของเขาว่า พวกท่านปฏิบัติสิ่งที่น่ารังเกียจ โดยไม่มีบุคคลในหมู่ประชาชาติของท่านได้กระทำไว้ก่อนหรือ แท้จริงพวกท่านจะสมสู่กับเพศชายด้วยตัณหาราคะอื่นจากเพศหญิง ใช่แต่เท่านั้น พวกท่านยังเป็นผู้ละเมิดอีกด้วย”
ท่านนบีมูฮัมหมัด(ซ.ล.) กล่าวว่า “บุคคลใดที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่นกลุ่มชนนบีลู๊ตปฏิบัติมา แน่นอนยิ่ง พวกเขาถูกสาปแช่งจากอัลลอฮฺ(ซบ.)”
อิสลามไม่ยอมรับ ทั้งชายอยู่กินกับหญิงโดยไม่แต่งงาน ท้องก่อนแล้วมาแต่งก็ถือว่าละเมิดประเวณี-ทำซินา ชายแต่งงานกับชาย หญิงแต่งงานกับหญิง ล้วนผิดบาป เป็นการทำลายศีลธรรม ทำลายกฎธรรมชาติที่อัลลอฮฺให้มา อัลลอฮฺไม่ได้สร้างมนุษย์มาเพื่อมุ่งเสวยสุขเสพสมทางเพศ จนคิดลองรูปแบบต่างๆ ที่ผิดธรรมชาติ แต่พระองค์ต้องการให้มนุษย์เคารพภักดีพระองค์ โดยดำเนินชีวิตตามที่บอกไว้ในอัลกุรอาน และตามแบบอย่างของนบีมูฮัมหมัด(ซ.ล.)
ทั้งนี้ เรื่องรักที่อิสลามห้าม คือ ห้ามชายหญิงอยู่กันโดยไม่ได้นิกาห์ ห้ามร่วมเพศทางทวารหนัก ห้ามชายกับชาย หญิงกับหญิงอยู่ร่วมให้ความสุขทางเพศกัน หากใครมีลักษณะเบี่ยงเบนทางเพศมาแต่วัยเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองต้องพยายามแก้ไขพฤติกรรม และอธิบายหลักการศาสนาให้รู้อยู่ตลอดเวลาและต่อเนื่อง แก้ไขสิ่งแวดล้อมทุกอย่างจึงจะเป็นการแก้ต้นเหตุของปัญหา
ส่วนการแบ่งแยกชาย-หญิงอย่างเข้มงวด ทำให้เกิดพฤติกรรมรักเพศเดียวกันได้ เนื่องจากเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ ชายหนุ่มยอมต้องหาที่ระบายอารมณ์ทางเพศ แต่การแยกชายหญิงทำให้ไม่สามารถเข้าถึงตัวผู้หญิงได้นอกจากจะแต่งงานเป็น เรื่องเป็นราวไป ซึ่งอาจปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พวกเขารักเพศเดียวกัน ดังนั้นผู้ปกครองต้องคอยสอดส่องพฤติกรรม
ที่มา: www.thaimuslim.com