ครอบครัวคนตายต้อนรับแขก และทำอาหาเลี้ยงแขก เป็นการสมควร(สุนัต)ให้ญาติ คนตายและเพื่อนบ้านทำอาหารมาให้แก่ครอบครัวของคนตาย
ฟัตวาการทำอาหารเลี้ยงที่บ้านคนตาย
อ.อรุณ บุญชม ฟัตวา เรื่องทำอาหารเลี้ยงที่บ้านคนตาย
ครอบครัวคนตายต้อนรับแขก และทำอาหาเลี้ยงแขก เป็นการสมควร(สุนัต)ให้ญาติ คนตายและเพื่อนบ้านทำอาหารมาให้แก่ครอบครัวของคนตาย เพราะมีรายงานว่าเมื่อ ญะอ์ฟัร บิน อะบูตอลิบถูกสังหาร ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า
"พวกท่านจงทำอาหารไปให้แก่ครอบครัวของญะอ์ฟัรเถิด เพราะมีเรื่องหนึ่งได้เกิดกับพวกเขาและทำให้พวกเขาเป็น พะวงจนไม่มีเวลาทำอาหาร"
และให้ส่งอาหารไปให้พวกเขาเพื่อเป็นการช่วยเหลือและปลอบใจพวกเขา เพราะพวกเขากำลังยุ่งอยู่กับเรื่องที่เกิดกับพวกเขา(คือความตายของคนใกล้ชิด) และมัวยุ่งอยู่กับคนที่มาหาพวกเขา จนไม่มีเวลาทำอาหารให้แก่ตัวเอง การทำอาหาร ก็เพื่อทำให้พวกเขาอิ่มในคืนนั้นและวันนั้น
ส่วนการที่คนในครัวของคนตาย ทำอาหารเลี้ยงผู้คนเองนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ(มักโรห์)และเป็นบิดอะห์ ที่ไม่มีต้นตอใดๆ เพราะเท่ากับเป็นการเพิ่มความเดือดร้อนให้แก่พวกเขา และเพิ่มความยุ่งยากให้แก่ครอบครัวของคนตาย และเป็นการลอกเลียนแบบการกระทำของพวกญาฮิลียะห์ และถ้าหากในทายาทของผู้ตายมีผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุศาสนภาวะรวมอยู่ด้วย ก็ห้าม(ฮารอม) ทำอาหารและเลี้ยงอาหาร
ญะรีร บิน อับดุลเลาะห์ ได้กล่าวว่า "พวกเราถือว่าการมารวมตัวกันที่ครอบครัวคนตายและทำอาหาร เป็นการรำพันถึงผู้ตาย"
แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้นก็อนุญาตให้กระทำได้ เพราบางทีมีคนมาเยี่ยมศพจากต่างตำบลและสถานที่ห่างไกล และต้องพักค้างอยู่กับพวกเขา ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ครอบครัวคนตาย จะต้องให้การต้อนรับและเลี้ยงดูเขาเป็นแขก
สำหรับท่านที่ชอบอ้างตนว่าปฏิบัติตามซุนนะห์นั้น ขอถามว่า ท่านเคยทำอาหารไปให้แก่ครอบครัวของคนตายบ้างหรือไม่
และท่านสังเกตบ้างไหมว่า คนที่ทำอาหารบ้านคนตายนั้นไม่ใช่คนในครอบครัวของคนตายเป็นผู้ทำ แต่เป็นเพื่อนบ้านหรือญาติเป็นผู้มาช่วยทำ ซึ่งไม่เข้าข่ายอยู่ในข้อห้าม
จากหนังสือฟิกฮ์ อิสลามีย์
ดร.วะห์บะห์ ซุฮัยลีย์
islamhouse.muslimthaipost.com