การละหมาดอีดใช้ เนื่องจากมีอุปสรรค หรือกรณีไม่ทราบว่าเป็นวันอีด
การละหมาดอีดใช้ กรณีไม่ทราบว่าเป็นวันอีด
การละหมาดอีดใช้ เนื่องจากมีอุปสรรค หรือกรณีไม่ทราบว่าเป็นวันอีด :
มีรายงานจากอะบู อุมัยร์ อิบนุ อะนัส ได้ฟังจากบรรดาอาของเขาซึ่งเป็นเศาะฮาบะฮ์ของท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า :
“แท้จริงได้มีกองคาราวานหนึ่งได้มายังท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม พวกเขาได้มายืนยันว่า พวกเขาได้เห็นจันทร์เสี้ยว (เดือนเชาวาล) เมื่อวานนี้ ดังนั้นท่านนบีก็ได้สั่งให้บรรดาเศาะฮาบะฮฺละศีลอด และให้ออกไปที่มุศ็อลลาของพวกเขา (เพื่อละหมาดอีด) ในวันพรุ่งนี้”
(บันทึกโดยอะบูดาวุด หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาด : (1157) / อะหมัด ฮะดีษริญาลมินัลอันศอร :(20860) , (20855))
ในฮะดีษบทนี้เป็นหลักฐานให้กับบรรดาผู้ที่พูดว่า กลุ่มชนที่พลาดการละหมาดอีดด้วยกับอุปสรรคหนึ่งอุปสรรคใด ๆ ก็แล้วแต่ ให้เขาออกมาละหมาดอีดในวันรุ่งขึ้น
(ซัยยิด ซาบิก , อ้างแล้ว บทที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดอีด เล่ม : (1) หน้า : (384))
- อ่าน ข้อพึงระวังสําหรับมุสลิมะฮฺในวันอีด
- อ่าน หากวันอีดตรงกับวันศุกร์ ต้องทำอย่างไร?
- อ่าน ดุอาอฺในวันอีด
วิธีการละหมาดอีดทั้งสอง
การละหมาดอีด ถือเป็นซุนนะฮ์ในการที่อิหม่ามจะต้องมีซุตเราะฮฺ (เขตที่ไม่อนุญาติให้ผู้อื่นเข้ามาบริเวณนี้) กั้นข้างหน้า มีรายงานจากท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุ อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมาเล่าว่า :
“ความจริงแล้วท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เมื่อท่านได้ออกไปในวันอีด ท่านได้ให้พวกเรานาหอกมาไว้ข้างหน้าท่าน โดยท่านได้ละหมาดหันไปหอกนั้น และผู้คนได้ละหมาดอยู่ข้างหลังท่าน ท่านได้กระทาเช่นนี้ในการเดินทาง ด้วยเหตุนี้ผู้นาทั้งหลายจึงได้เอาหอกมา (วางข้างหน้าละหมาดอีด)”
(บันทึกโดยบุคอรีย์ หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดอีดทั้งสอง : (495) / มุสลิม หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดอีดทั้งสอง : (501))
วิธีการละหมาดอีดิลฟิฏริ และอีดิลอัฏฮานั้น มี 2 ร็อกอะฮ์ โดยไม่มีการอะษานและอิกอมะฮ์ มีรายงานจากท่านอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า :
“ละหมาดเดินทางมี 2 ร็อกอะฮ์ ละหมาดวันศุกร์ก็มี 2 ร็อกอะฮ์ ละหมาดอีดทั้งสองก็มี 2 ร็อกอะฮ์ ซึ่งมันสมบูรณ์แล้ว โดยไม่ต้องย่ออีก ตามสิ่งที่ท่านนะบีย์มุฮัมหมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้บอกไว้”
(บันทึกโดยอิบนุมาญะฮ์ หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดและซุนนะฮ์ของมัน : (1063))
โดยรูปแบบการละหมาดนั้นมีดังต่อไปนี้
1. เริ่มโดยการตักบีเราะตุลเอียะห์รอม หลังจากนั้นอ่านดุอาอิฟติฟตะฮ์
2. หลังจากนั้นตักบีรอีก 7 ครั้ง ก่อนอ่านฟาติฮะฮ์และซูเราะฮ์ โดยไม่มีรายงานที่ถูกต้องว่าท่านนะบีนั้นยกมือทุก ๆ ตักบีรในละหมาดอีด
(อะบูมาลิก กะมาล อิบนุ ซัยยิดซาเล็ม , อ้างแล้ว เล่ม : (1) หน้า : (534))
มีรายงานจากอับดุลลอฮ์ อิบนุ อัมร์อิบนุ อาศ กล่าวว่า : ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
“ตักบีรในละหมาดอีดิลฟิฏร์นั้น 7 ครั้งในร็อกอะฮ์แรก และ 5 ครั้งในร็อกอะฮ์ที่สองและการอ่าน (ฟาติฮะฮ์) หลังจากตักบีรทั้งสองนั้น”
(บันทึกโดยอะบูดาวุด หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาด : (1148) / ติรมีซีย์ หมวดที่ว่าด้วยเรื่องละหมาดอีดทั้งสอง : (534) / อิบนุมาญะฮ์ หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการดารงไว้ซึ่งการละหมาดต่าง ๆ :(1279))
อิหม่าม ฮาฟิซ มุฮัมหมัด อัลมุบาร็อกฟูรีย์ ได้กล่าวว่า “คือตักบีรในร็อกอะฮ์แรก7 ครั้ง ซึ่งไม่นับรวมตักบีเราะตุลเอียะห์รอม และในร็อกอะฮ์ที่สองนั้นตักบีร 5 ครั้ง ซึ่งไม่นับรวมตักบีรกิยาม (ตักบีรที่ขึ้นมาจากสุหญูด-ผู้แปล)”
(มุฮัมหมัด อัลมุบาร็อกฟูรีย์ , อ้างแล้ว อธิบายฮะดีษที่ : (534) เล่ม : (3) หน้า : (65))
อิหม่ามมาลิก อิบนุ อะนัส เราะฮิมะฮุลลอฮ์ ได้กล่าวว่า : “มันคือสิ่งที่พวกเราถูกสั่งใช้”
(บันทึกโดยมาลิก อัลมุวัฏเฏาะอ์ หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดวันอีด บทที่ : (10) ฮะดษี : (433))
3. ไม่มีรายงานที่ถูกต้องจากท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่าท่านกล่าวสิ่งใดในช่วงสงบนิ่งระหว่างตักบีรต่าง ๆ แต่ท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุ มัสอูด กล่าวว่า : “ระหว่างทุก ๆ สองตักบีร จะกล่าวสรรเสริญต่ออัลลอฮ์ ”
(บันทึกโดยบัยฮากีย์ : (291/3))
سبحان الله ، والحمد لله ، ولا إله إلا الله ، والله أكبر
คำอ่าน : “ซุบฮานัลลอฮฺ วัลฮัมดุลิลลาฮฺ วะลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮฺ วัลลอฮุอักบัร”
“มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์อัลลอฮ์ การสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ต้องเคารพสักการะเว้นแต่พระองค์อัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้น และพระองค์อัลลอฮ์ทรงยิ่งใหญ่”
4. หลังจากตักบีรครบ 7 ครั้งแล้ว ก็อ่านฟาติฮะฮ์ และอ่านซูเราะฮ์ ซึ่งส่งเสริมให้อ่าน “ซูเราะฮ์ก็อฟ” ส่วนร็อกอะฮ์ที่ 2 อ่าน “ซูเราะฮ์อัลกอมัร” ดังที่มีรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีรายงานจากอะบู วากิด อัลลัยษีย์ แท้จริง ท่านอุมัร อิบนุค็อฏฏอบ ได้ถามเขาว่า :
“สิ่งที่ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อ่าน (ในละหมาด) อีดิลอัฎฮาและอีดิลฟิฏร์ อะบู วากิด ตอบว่า ท่านเราะซูล จะอ่านซูเราะฮฺก็อฟ และซูเราะฮฺอัลเกาะมัร”
(บันทึกโดยมุสลิม หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดวันอีดทั้งสอง : (891) / อะบูดาวุด หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาด : (1151) / ติรมีซีย์ หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดวันศุกร์ : (534) / อิบนุมาญะฮ์หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดและซุนนะฮ์ของมัน : (1282) / มาลิก , อัลมุวัฏเฏาะอ์ , หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดวันอีด บทที่ : (10) ฮะดีษ : (432))
หรือบางทีก็อ่านซูเราะฮ์ “อัลอะอ์ลา” ในร็อกอะฮ์แรก และอ่านซูเราะฮ์ “อัลฆอชิยะฮ์” ในร็อกอะฮ์ที่ 2 มีรายงานจากนัวอ์มาน อิบนิ บะชีร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุได้กล่าวว่า :
“ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะอ่านในละหมาดอีดทั้งสองและวันศุกร์ ซูเราะฮ์อัลอะอ์ลา และ อัลฆอชิยะฮ์ เขายังบอกต่อว่า เมื่อวันอีดและวันศุกร์มารวมอยู่ในวันเดียวกัน ท่านก็จะอ่านซูเราะฮ์ทั้งสองอีกเช่นกันในสองละหมาดนั้น”
(บันทึกโดยมุสลิม หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดวันศุกร์ : (878) / อิบนุมาญะฮ์ , หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดและซุนนะฮ์ของมัน : (1281) / อัดดารีมีย์ หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดอีดทั้งสอง: (1610)
5. หลังจากนั้นก็ก้มรุกัวอ์ เงยจากรุกัวอ์ แล้วก็ก้มลงสุหญูด นั่งระหว่างสองสุหญูด และสุหญูด
6. ยืนในร็อกอะฮ์ที่ 2
7. หลังจากนั้นก็ตักบีร 5 ครั้ง
8. อ่านฟาติฮะฮ์และซูเราะฮ์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว
9. หลังจากนั้นก็ก้มรุกัวอ์ เงยจากรุกัวอ์ แล้วก็ก้มลงสุหญูด นั่งระหว่างสองสุหญูด และสุหญูด เงยขึ้นมานั่งอ่านตะชะฮุด เศาะละวาต ดุอาอ์หลังตะชะฮุด และก็ให้สลาม จนจบการละหมาด
ที่มา: วะเราะษะตุซซุนนะฮฺ