มุสลิมจะต้องรักษาละหมาดของเขาให้ตรงตามเวลาของมัน มีเงื่อนไข หลักใหญ่ และสิงจำเป็นต่างๆของมันอย่างครบครัน
การรักษาเวลาละหมาด ช่วยจัดการชีวิตได้ดีขึ้น ที่มุสลิมหลายคนเพิกเฉย
มุสลิมจะต้องรักษาละหมาดของเขาให้ตรงตามเวลาของมัน มีเงื่อนไข หลักใหญ่ และสิงจำเป็นต่างๆของมันอย่างครบครัน
พระองค์อัลลอฮุ ศุบฮานะฮูวะตาอาลา ตรัสว่า
وَأَقِمْنَ الصَّلَاةَ وَآتِينَ الزَّكَاةَ وَأَطِعْنَ اللَّهَ وَرَسُولَهُ )
"และจงดำรงการละหมาดและจ่ายซะกาต และจงภักดีต่ออัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์ " (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-อะฮฺซาบ 33: 33)
จากอัลกุรอาน เป็นบทสั่งโดยทั่วไป การละหมาดนั้นเป็นหลักใหญ่ระดับสองของอิสลาม และเป็นเสาของอิสลาม การละทิ้งมันนั้น ถือเป็นการปฏิเสธ ที่ทำให้ออกจากศาสนา ดังนั้นจะไม่มีศาสนา จะไม่มีอิสลาม สำหรับผู้ที่ไม่มีการละหมาดสำหรับเขาจากพวกผู้ชาย และพวกผู้หญิง และการละหมาดไม่ตรงเวลาโดยไม่มีอุปสรรคทางด้านบทบัญญัตินั้นถือเป็นการทำให้ละหมาดหายไป
และมุสลิมเราจำนวนไม่น้อย มักจะมีนิสัยอย่างหนึ่งคือ การละหมาดไม่ตรงเวลาหรือล่าช้าในการละหมาด รวมถึงไม่ละหมาดที่มัสยิด (สำหรับผู้ชาย) โดยคิดว่ายังมีเวลาละหมาดอีกเยอะ ไม่ต้องรีบก็ได้ ละหมาดตอนไหนก็ได้แต่อย่าให้เลยเวลา
จริงอยู่ที่อิสลามได้กำหนดให้มีช่วงเวลาในการละหมาดแต่ก็ไม่ใช่ว่าสนับสนุนให้เรามีนิสัยเฉื่อยชาในการปฏิบัติศาสนกิจที่สำคัญนี้ การรักษาเวลาละหมาดให้ตรงต่อเวลาและให้ละหมาดรวมกันที่มัสยิด (สำหรับผู้ชาย) นั้นเป็นสิ่งที่อัลลอฮฺ ซ.บ.และท่านนบี ซ.ล.ได้สั่งใช้ให้เราถือปฏิบัติ
หากเราคิดดูดีๆ จะเห็นว่ามีเหตุผลเบื้องหลังนานัปการในการที่ให้เราดำรงการละหมาดให้ตรงเวลา สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดคือการที่เรามีความจริงใจต่ออัลลอฮฺ ซ.บ. เมื่อเราได้ยินเสียงประกาศก้อง "อัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่" จะเป็นการวัดใจเราว่าเวลานี้ ใครจะใหญ่กว่ากันระหว่างอัลลอฮฺ ซ.บ.กับกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งแน่นอนที่สุดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสิ่งอื่นจะยิ่งใหญ่มากกว่าพระผู้เป็นเจ้าของเรา
การที่พระองค์อัลลอฮฺ ซ.บ.ทรงกำหนดการละหมาดเป็นภารกิจหลักให้กับเรานั้นนอกเหนือจากการที่ให้เราได้ติดต่อสร้างความใกล้ชิด-เชื่อมโยงความเป็นบ่าวของเรากับความเป็นพระเจ้าของพระองค์แล้ว ยังเป็นการสร้างคุณลักษณะของการเป็นผู้ที่มีวินัยอีกด้วย ไม่มีมุสลิมคนไหนที่จะประสบความสำเร็จทั้งในโลกนี้และโลกหน้า..หากเขายังคิดว่าจะละหมาดหรือไม่ก็ได้ , ขาดละหมาดก็ไม่เป็นไร..ค่อยไปชด หรือคิดว่าละหมาดช้าๆ (สายๆ) ได้พร้าเล่มงาม!
มุสลิมที่จะเป็นตัวแทนของอัลลอฮฺ ซ.บ.บนผืนแผ่นดินนี้ต้องมีความเคร่งครัดในเรื่องการละหมาดให้ตรงต่อเวลา เพราะเขาจะทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ไม่ได้หากเขายังไม่ให้ความสำคัญกับการละหมาดเป็นอันดับแรก
การรักษาเวลาละหมาดนอกจาก จะได้รับผลบุญอันมากมายแล้ว ยังเป็นการฝึกฝนผู้ศรัทธาให้รู้จักคุณค่าของเวลาอีกด้วย เป็นการบริหารเวลาชีวิตด้วยการละหมาด ละหมาดจะเป็นตัวกำหนดเวลาชีวิตของเราในหนึ่งวัน ในรอบหนึ่งวันของผู้ศรัทธานั้นหากชีวิตของเขาถูกผูกพันอยู่กับการละหมาดแล้ว กิจกรรมต่างๆ ของเขาจะดำเนินไปได้ด้วยความสะดวกเรียบร้อย เขาจะมีเวลาสำหรับหน้าที่บนโลกนี้ มีเวลาทำงานหาเลี้ยงชีพหรือศึกษาเล่าเรียนในช่วงเช้า พักผ่อนในช่วงบ่าย มีเวลาให้ครอบครัวมิตรสหาย เวลาสำหรับการพักผ่อน เวลาสำหรับศาสนกิจพิเศษ และอื่นๆ อีกมาย
การรักษาเวลาละหมาด จะเป็นการฝึกฝนความเป็นระเบียบวินัยของชีวิต ไม่ตื่นสาย ไม่ขี้เกียจ ไม่เป็นคนที่ผิดสัญญากับใคร เพราะการละหมาดที่ตรงเวลาสอนให้เขาซื่อสัตย์และมีวินัยต่ออัลลอฮฺ ซ.บ. ดังนั้นหน้าที่ต่อผู้อื่นเขาก็ต้องไม่ละเลย เพราะอัลลอฮฺ ซ.บ.สั่งใช้ให้เขามีความรับผิดชอบ ที่สำคัญที่สุดการรักษาเวลาละหมาด คือไม่เผลอเรอและหลงลืมต่อหน้าที่ที่เขาต้องปฏิบัติต่อพระผู้เป็นเจ้า อันเนื่องมาจากความเกี่ยวพันเชื่อมโยงระหว่างเขากับพระองค์ในช่วงต่างๆ ของวัน
จะเห็นได้ว่า การที่เรารักษาการละหมาดให้ตรงเวลานั้น จะช่วยให้เราบริหารจัดการชีวิตได้ดีขึ้น ช่วยทำให้เรารักษาเวลามากขึ้น นับว่าเป็นความโปรดปรานอย่างยิ่งที่อัลลอฮฺ ซ.บ.ทรงมอบเวลาต่างๆ ของการละหมาดให้กับเรา ให้เราได้มีโอกาสใกล้ชิดกับพระองค์ตลอดวันตลอดคืน เป็นความใกล้ชิดที่เราทุกคนสัมผัสได้ในทุกๆ วัน เพียงแต่ว่าเรานั้นจะเห็นคุณค่าของมันหรือเปล่า - แค่นั้นเอง...
" แท้จริงการละหมาดนั้นได้ถูกกำหนดเหนือบรรดาผู้ศรัทธาตามกำหนดเวลาที่แน่นอน " (ซูเราะฮฺอันนิซาอฺ : 103)
ที่มา: วารสารชมรมมุสลิม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย