ริสกีเพิ่มพูน ในตอนเช้ากันเถอะ จงฉกฉวยโอกาสในเวลายามเช้าตรู่ที่มีคุณค่ามากสำหรับชีวิตของเราในแต่ละวัน ซึ่งมีอยู่ในมัสยิดอันเป็นสถานที่ที่ดีที่สุด
ริสกีเพิ่มพูน ในตอนเช้ากันเถอะ!
ดุอาอยามเช้า
اللَّهُمَّ بِكَ أَصْبَحْنَا وبِكَ أَمْسَيْنَا وبِكَ نَحْياَ ، وَبِكَ نَمُوْتُ ، وَإِلَيْكَ النُّشُوْرُ
คำอ่าน: อัลลอฮุมม่า บิก้า อัสบะฮฺนา วะบิก้าอัมซัยนา วะบิก้านะฮฺยา วะบิก้าน่ามูตู้ วะอิลัยฮินนุชูรฺ
ความว่า: โอ้อัลลอฮฺ ด้วยกับพระองค์ที่เรามีชีวิตยามเช้า และด้วยกับพระองค์ที่เรามีชีวิตยามเย็น และด้วยกับพระองค์ที่เราเป็น และด้วยกับพระองค์ที่เราตาย และยังพระองค์คือการฟื้นคืนชีพกลับไป
ดุอาอฺนี้มาจากฮะดีษบันทึกโดย: อัลบุคอรียฺในหนังสืออัลอะดับอัลมุฟร็อด(1199) อบูดาวูด(5068) อัตติรมิซียฺ(3391) อินบุมาญะฮฺ(3868)
ภารกิจยามเช้าตามซุนนะฮฺ
อัลลอฮฺตรัสว่า :
ความว่า : “ดังนั้นเจ้าจงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขากล่าวร้าย และจงแซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของเจ้า ก่อนตะวันขึ้นและก่อนตะวันลับลงไป และส่วนหนึ่งจากเวลากลางคืนก็จงแซ้ซ้องสดุดีและในปลายช่วงของเวลากลางวันด้วย เพื่อเจ้าจะได้พออกพอใจ” (สูเราะฮฺ ฏอฮา 130)
โองการของพระองค์อัลลอฮฺนั้นถูกน้อมรับด้วยความเต็มเปี่ยมโดยท่านศาสนทูมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ด้วยการเป็นแบบอย่างแก่ประชาชาติของท่าน
ฉะนั้นเราในฐานะประชาติผู้หนึ่งของท่าน มาเถอะมาเราเรียนรู้บางบทของหะดีษ ว่าท่านศาสนทูตของเรานั้นได้กระทำอามัลอะไรบ้างในยามเช้าตรู่ และคำสั่งเสียของท่านนั้นจะได้ปฏิบัติตามกัน ตลอดจนได้รับความประเสริฐและคุณค่าในการปฏิบัติตามซุนนะฮฺดังกล่าว :
1. ความว่า : จากท่านญาบิร บุตร สะมุเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า : เมื่อท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เสร็จสิ้นจากการละหมาดศุบห์(ญะมาอะฮฺที่มัสยิดของท่าน) ท่านจะนั่งอยู่กับที่ที่ท่านได้ทำการละหมาดกระทั่งมีแสงตะวันขึ้นชัดเจน (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 670)
และในสายรายงานของอิบนุคุซัยมะฮฺในหนังสือศอเฮียะของท่าน 1/373 ท่านได้เล่าว่า ท่านเคยถามท่านญาบิรบุตร ซะมูเราะฮฺว่า :
ท่านรอซูลได้ปฏิบัติอย่างไรหลังจากท่านได้ดำรงการละหมาดซุบฮีเสร็จ? ญาบิร กล่าวว่า: ท่านนบีจะนั่ง(ซิกรุลลอฮฺ)ในที่ที่ท่านได้ทำการละหมาดหลังจากที่ท่านได้(เสร็จสิ้น)นมาซซุบฮี จนตะวันขึ้น
2. ความว่า : จากอบู อุมามะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ แท้จริงท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
“แน่แท้แล้ว ถ้าฉันได้นั่ง(ที่ละหมาด)และฉันได้ซิกิร ตักบีร ตะห์มีด ตัสบีห์ และตะฮฺลีลต่อพระองค์อัลลอฮฺ กระทั่งตะวันขึ้น ย่อมเป็นสิ่งที่ฉันรักยิ่งกว่าการปล่อยทาสสองคนหรือมากกว่านั้น จากทาสที่เป็นลูกหลานของนบีอิสมาอีล” (หะดีษ หะสัน บันทึกโดย อะห์มัด 5/255)
3. ความว่า : จากอะนัส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
“ผู้ใดที่ละหมาดศุบห์พร้อมญะมาอะฮ จากนั้นเขาได้นั่งซิกรุลลอฮฺ (รำลึกถึงอัลลอฮฺ) กระทั่งตะวันขึ้น หลังจากนั้นเขาได้ทำการละหมาดสองร็อกอะฮฺเป็นสุนัต(ฎุหา) เขาจะได้รับผลบุญเหมือนไปประกอบพิธีหัจญ์และอุมเราะฮฺที่สมบูรณ์ สมบูรณ์ และสมบูรณ์” (หะดีษ หะสัน บันทึกโดย อัต-ติรมิซีย์ หมายเลข 586 ท่านกล่าวว่า เป็นหะดีษหะสัน เฆาะรีบ และดูใน อัต-ตัรฆีบ วะ อัต-ตัรฮีบ หมายเลข 464)
ส่วนหนึ่งจากบทซิกรุลลอฮฺในยามเช้าตรู่
1. อ่านวิริดหลังการละหมาด หมายถึงการอ่านอิสติฆฟารฺ (ขออภัยโทษ) การซิกรุลลอฮฺ การตักบีรฺ การสรรเสริญ การตสบีหฺ และการขอดุอาอ์ด้วยเนื้อหาและวิธีการที่มาจากท่านนบีหรือจากเศาะหาบะฮฺ ภายหลังจากการเสร็จสิ้นการละหมาดฟัรฎูแล้ว
2. ขอดุอาอ์ หมยถึงการขอดุอาอ์อื่นๆ ที่ครอบคลุม (ดุอาอ์ญามิอฺ) ที่มาจากท่านนบีหรือเศาะหาบะฮฺของท่านหรือดุอาอ์อื่นๆ ที่มีประโยชน์
3. อ่านอัซการ นะบะวียะฮฺ หรือบทซิกิรฺของท่านนบีในยามเช้า หมายถึงการอ่านบทซิกิรฺที่ท่านนบีได้อ่านและปฏิบัติเป็นประจำในยามเช้าตรู่ หรือบทซิกิรฺที่ท่านนบีได้สอนให้แก่เหล่าบรรดาเศาะหาบะฮฺของท่านไว้
4. อ่านกุรอาน ให้อ่านเป็นประจำทุกวัน ประมาณ 1 ญุซอ์ต่อวัน หรืออาจมากกว่านั้นก็ยิ่งดี หรือครึ่งญุซอ์ หรือน้อยกว่านั้น แต่อยากให้เป็นกิจวัตรประจำวันของเรา โดยเฉพาะในยามเช้าตูร่หรืออาจเป็นการท่องอัลกุรอานก็ได้ ทั้งนี้เนื่องจากว่าการซิกิรฺที่ดีสุดนั้นคือการอ่านอัลกุรอาน
5. ศึกษาเรียนรู้อัลกุรอานและซุนนะฮฺหรืออาจจะเป็นการท่องจำทั้งสองอย่างดังกล่าว
6. สอนหรือเรียนรู้วิชาแขนงต่างๆ โดยเฉพาะที่จะนำสู่การเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮฺ หรือวิชาต่างๆ ที่เป็นเครื่องมือในการเข้าใจอัลกุรอานและซุนนะฮฺ
7. การตักเตือนนะศีหะฮฺ ด้วยเนื้อหาที่เป็นสัจธรรมและความเศาะบัร (อดทน) ที่สามารถนำมายกระดับชีวิตของมนุษย์ให้ยำเกรงต่ออัลอฮฺมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองในฐานะที่เป็นมุสลิมคนหนึ่งที่จำต้องรักซุนนะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ในทุกอิริยาบถ
จงฉกฉวยโอกาสในเวลายามเช้าตรู่ที่มีคุณค่ามากสำหรับชีวิตของเราในแต่ละวัน ซึ่งมีอยู่ในมัสยิดอันเป็นสถานที่ที่ดีที่สุด เพราะอากาศยามเช้านั้นช่างดีเหลือเกินสำหรับเรา มันเต็มไปด้วยความบะเราะกะฮฺในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นทางด้านจิตใจ หรือทางด้านความจำของสมอง หรือการตอบสนองของสมองที่มีสภาพสดใสและแข็งแรง โดยเฉพาะบรรดานักศึกษาและคณาจารย์ทั้งหลาย และจงต่อสู้กับอารมณ์ใฝ่ต่ำในยามเช้าที่คอยสร้างปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตของเราในแต่ละวัน จนทำให้เราต้องสูญเสียเวลาอันมีค่านี้ไปอย่างไร้ประโยชน์
ขออัลลอฮฺทรงช่วยเหลือบ่าวพระองค์ด้วยเถิด
อิสมาอีล ลุตฟี จะปะกียา