เดือนรอมาฏอนกำลังเดินทางจากไปแล้ว เราลองมาทบทวนตัวของเราดูว่า เราได้รับอะไรจากรอมาฏอนบ้าง
ได้ข้อคิดอะไรบ้างจากรอมาฏอน?
บทความโดย: อิสมาอีล กอเซ็ม
เดือนรอมาฏอนกำลังเดินทางจากไปแล้ว เราลองมาทบทวนตัวของเราดูว่า เราได้รับอะไรจากรอมาฏอนบ้าง
ไม่ว่าในเรื่องการประกอบอิบาดะห์ ในรูปแบบต่าง อ่านอัลกุรอาน การละหมาดฟัรฎู และซุนนะฮ์ การละทิ้งสิ่งที่ไร้สาระที่จะมาทำให้การถือศีลอดต้องขาดตกบกพร่อง รอมาฏอนเปรียบเสมือนการเข้าค่ายอบรมหลักสูตรระยะสั้น แต่เต็มไปด้วยคุณค่าและความประเสริฐ
ถ้าเราไม่ใช้เวลาที่มีความประเสริฐที่สุดมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ปล่อยให้มันผ่านไปโดยไม่ใยดี นั้นเป็นสิ่งที่น่าเสียดายยิ่ง แต่เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ในยามที่เขามีอะไรสักอย่างอยู่ เขามักจะไม่เห็นคุณค่าของมัน จะมาเห็นคุณค่าอีกทีเมื่อสิ่งนั้นมันไม่ได้อยู่กับเราเสียแล้ว
คนที่อยู่ในวัยหนุ่มและมีสุขภาพแข็งแรงนั้น ถ้ามีใครมาเตือนให้เขารำลึกถึงความตาย เขามักจะมโนภาพไม่ออกว่า เขาจะตายได้อย่างไร ในเมื่อเขามีสุขภาพที่แข็งแรง คนหนุ่มส่วนมากมักจึงไม่คิดในเรื่องของความตาย
ต่างกับคนที่เป็นโรคร้ายเขาเตรียมตัวและทำใจที่จะพบกับความตาย ด้วยเหตุนี้ท่านนบี (ซ.ล.) ใช้ให้ไปเยี่ยมเยียนสุสานเพื่อที่จะได้ข้อเตือนใจ ได้ระลึกถึงความตาย และได้คิดว่าความตายมันเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย
ในวันกิยามะฮ์ เป็นวันที่ทุกคนต้องการความดี เพื่อให้มีน้ำหนักในตราชั่ง แต่วันนั้นเป็นวันแห่งการพิพากษาไม่ใช่วันแห่งการประกอบการงาน สำหรับรอมาฏอนที่เหลืออยู่ มีความดีอีกมากมายที่ให้เราได้ไขว่คว้า อย่าได้ปล่อยให้ความดีผ่านไปโดยที่ไม่คว้ามันไว้ และการที่เราถือศีลอด คือการสร้างบุคลิกของมุสลิม และเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
การถือศีลอด แน่นอนจะต้องได้รับความหิวจากการอดอาหาร และจากความหิวที่เราได้รับนั้น ได้สอนอะไรให้เราบ้าง และเราได้ข้อคิดอะไรจากความหิวหรือไม่
มันทำให้จิตใจของเรามีความสงสารเห็นอกเห็นใจแก่คนยากจน คนยากไร้บ้างหรือเปล่า เราเคยคิดถึงบุคคลที่ขาดแคลนอาหาร เครื่องนุ่งห่ม คนที่ไร้ที่อยู่อาศัยที่รอคอยการช่วยเหลืออีกมากมายบ้างหรือไม่ แต่ถ้าการถือศีลอดของเรา เพียงแต่ประสบกับความหิว แต่ไม่ได้สอนอะไรให้กับเราเลย
แสดงว่า เรายังไม่สามารถเข้าถึงเจตนารมณ์ของการถือศีลอด คำว่า “เพื่อพวกเจ้าจะได้มีความยำเกรง” มันคลอบคลุมการงานที่ดีทั้งหมดคือ ความยำเกรงต่ออัลลอฮ์ ในโลกนี้
คนบางคนต้องจบ ชีวิตด้วยกับการที่มีอาหารกินที่มากมาย เขาต้องจบชีวิตด้วยกับพฤติกรรมของการกินที่ทำให้เกิดโรคร้ายและจบชีวิตลง
แต่คนอีกหลายชีวิตที่ต้องจบชีวิตโดยที่ไม่มีอะไรจะกิน ทั้งที่คนเหล่านั้นคือมนุษย์เหมือนกัน
คนบางคนครอบครองทรัพย์สินที่มากมายจนไม่รู้จะเอาไปไหน แต่คนบ้างคนไม่มีแม้ที่จะอยู่ นี่คือความเลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ปัจจุบัน
ดังนั้น ในฐานะที่เป็นมุสลิมอิสลามสอนให้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เราจงใช้ช่วงเวลาแห่งการถือศีลอด ฝึกฝนตัวเองให้เป็นคนที่รักในการบริจาค รักที่จะเป็นคนที่ช่วยเหลือผู้อื่น เสียสละอุทิศตนเพื่อส่วนรวม และพยายามขัดเกลาจิตใจให้เป็นคนที่มีความรักต่อพี่น้องมุสลิม โดยเฉพาะคนที่ขัดสนยากจน
และอีกประการหนึ่งที่ลืมเสียไม่ได้ คือ การช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมที่ประสบกับความยากลำบากทั่วโลก ไม่ว่าจะด้วยกับการขอดุอาร์ หรือการบริจาคให้แก่พวกเขา
สุดท้ายนี้ ขอให้อัลลอฮ์ ทรงให้การถือศีลอดของพวกเราเป็นการถือศีลอดที่ถูกตอบรับจากอัลลอฮ์ .....อามีน
ที่มา: www.islammore.com