เวลาดุอาอฺมุสตะญาบ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า....
ดุอาอฺมุสตะญาบวันศุกร์
เวลาดุอาอฺมุสตะญาบ
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
“ในวันศุกร์มีช่วงเวลาที่ไม่มีบ่าวของอัลลอฮฺที่เป็นมุสลิมคนหนึ่งคนใดปรากฏในเวลานั้นยืนวิงวอนขอต่อ อัลลอฮฺในสิ่งที่เป็นความดี เว้นแต่อัลลอฮฺจะให้เขาอย่างแน่นอน”
(ช่วงเวลานั้นคือเวลาก่อนมักริบ)
วันศุกร์เป็นวัน บริสุทธิ์
ท่านพี่น้องมุสลิมที่รัก พึงยำเกรงอัลลอฮฺ เถิดทั้งในที่ลับและที่เปิดเผย และจงเกรงกลัวอัลลอฮฺ ให้มากๆซึ่งจะเป็นเสบียงที่ดียิ่งสำหรับเราและท่านทั้งหลายทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ
วันศุกร์เป็นวันที่ประเสริฐที่สุดกว่าวันทั้งหลาย เป็นวันที่ท่านนบีอาดัมได้ถูกสร้างขึ้นมา เป็นวันที่ท่านถูกนำเข้าสวนสวรรค์ เป็นวันที่ท่านออกจากสวนสวรรค์ และวันกิยามะฮฺก็จะเกิดขึ้นในวันศุกร์เช่นเดียวกัน
ในวันศุกร์มีแบบอย่างจากท่านนบีมุฮัมมัด มากมาย ท่านนบีมุฮัมมัด ส่งเสริมให้เราอ่านกุรอ่านให้มากๆโดยเฉพาะซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟิในวันศุกร์ เพราะมีคำพูดของท่านนบีมุฮัมมัด ที่ได้กล่าวเอาไว้ว่า
ความว่า: “ ใครก็ตามที่อ่านซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟิ อัลลอฮฺ จะให้แสงสว่างแก่เขาจากวันศุกร์หนึ่งไปถึงอีกวันศุกร์หนึ่งซึ่งมันมีบะรอกัตมาก”
นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมให้มีการซอละวาตและให้สลามแก่ท่านนบีมุฮัมมัด ให้มากๆ ในกลางคืนและกลางวัน ที่ท่านนบี ได้บอกว่า
ความว่า: “พวกท่านทั้งหลายจงกล่าวซอละวาตขอพรให้แก่ฉันทั้งในกลางวันและกลางคืนของวันศุกร์”
ในวันศุกร์มีซุนนะฮฺ ให้มุสลิมอาบน้ำเหมือนกับอาบน้ำญะนาบะฮฺแล้วก็รีบเดินทางอย่างสุขุมและนอบน้อมไปมัสยิด ฮะดีษทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่าจำเป็นที่มุสลิมทุกคนจะต้องออกไปละหมาดวันศุกร์แต่เช้า และไม่ควรออกไปล่าช้าในการละหมาดวันศุกร์ เราจะเห็นได้ว่าบางมัสยิดมีบางกลุ่มบางคนที่จะออกจากบ้านไปละหมาดวันศุกร์ล่าช้า จะออกไปในช่วงที่อิหม่ามขึ้นคุตบะฮฺแล้วก็มี บางคนออกไปในช่วงที่อิกอมะฮฺแล้วก็ไม่ได้ฟังคุตบะฮฺก็มี ซึ่งการกระทำเช่นนี้ไม่ตรงกับแบบอย่างของท่านนบีมุฮัมมัด บางทีก็ยังมีการค้าขายในช่วงที่อิหม่ามขึ้นคุตบะฮฺแล้วซึ่งไม่ตรงกับคำสั่งของอัลลอฮฺ ที่่ว่าการค้าขาย เมื่อมีเสียงอะซานและมีการขึ้นคุตบะฮฺแล้วก็จะต้องหยุดการค้าขายเพื่อเตรียมตัวเข้าเฝ้าอัลลอฮฺ ฟังคุตบะฮฺและมีการละหมาด ดังมีคำสั่งใช้จากอัลลอฮฺ ความว่า
"โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายเมื่อมีเสียงอะซานเพื่อทำการละหมาดวันศุกร์พวกท่านจงรีบเร่งไปสู่การรำลึกถึงอัลลอฮฺ และจงละทิ้งการค้าขายเสียก่อน"
(ซูเราะฮฺอัลญุมุอะฮฺอายะฮฺที่9)
จากอายะฮฺกุรอ่านนี้ชี้ให้เห็นว่าที่มุสลิมจะต้องหยุดการค้าขายเมื่อได้ยินเสียงอะซานในวันศุกร์เพื่อมุ่งไปสู่การละหมาดและการรำลึกถึงอัลลอฮฺเมื่อการละหมาดได้สิ้นสุดแล้วก็อนุญาติให้ออกไปทำการค้าขายได้ตามปกติหรือไปทำภาระกิจต่างๆได้ ตามที่พระองค์ได้ตรัส ความว่า
“ เมื่อการละหมาดวันศุกร์เสร็จสิ้นแล้วก็จงแยกย้ายกันไปในแผ่นดิน และจงแสวงหาความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ” (ซูเราะฮฺอัลญุมุอะฮฺอายะฮฺที่10)
จุดประสงค์ของผู้ที่ไปมัสยิดซึ่งเป็นบ้านของอัลลอฮฺ เพื่อละหมาดรวมกันเท่ากับเป็นการเผยแพร่และประกาศให้ทราบว่าเขานั้นยอมมอบหมายเพื่อการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺเพียงองค์เดียว และการละหมาดวันศุกร์เป็นการเน้นให้ทราบถึงภราดรภาพ ความเป็นพี่น้องกันในอิสลาม และชี้ให้เห็นความเท่าเทียมกันระหว่างคนร่ำรวยและคนยากจน เพราะทุกคนทำการรุกั๊ว ทำการสุญูดเพื่ออัลลอฮฺ เหมือนกัน สำหรับผู้ที่มีเกียรติยิ่ง ณ ที่อัลลอฮฺ ก็คือ ผู้ที่มีความตักวาต่ออัลลอฮฺ ตามที่อัลลอฮฺ ได้ตรัสไว้ความว่า
“ แท้จริงคนที่มีเกียรติยิ่ง ณ ที่อัลลอฮฺนั้นก็คือผู้ที่มีความตักวามีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ มากนั่นเอง” (ซูเราะฮฺอัลฮุญุรอตอายะฮฺที่ 13)
ท่านร่อซูลส่งเสริมให้ผู้ที่จะมาละหมาดวันศุกร์อาบน้ำซุนนัตวันศุกร์ และเน้นให้ออกไปมัสยิดแต่เช้าๆ ดังที่ท่านร่อซูล ได้บอกไว้ในฮะดีษที่ว่า
اغتسل يوم الجمعة غسل الجنابة ثم راح ، فكأنما قرب بدنة ، ومن راح في الساعة الثانية ، فكأنما قرب بقرة ، ومن راح في الثالثة ، فكأنما قرب كبشا أقرن ، ومن راح في الساعة الرابعة ، فكأنما قرب دجاجة ، ومن راح في الساعة الخامسة ، فكأنما قرب بيضة ، فإذا خرج الإمام حضرت الملائكة يستمعون الذكر .
خلاصة حكم المحدث: صحيح
ท่านนบีมุฮัมมัด ได้กล่าวไว้ว่า
“ผู้ใดก็ตามที่อาบน้ำวันศุกร์เช่นเดียวกับการอาบน้ำญะนาบะฮฺ และได้ออกไปมัสยิดเสมือนเขาได้เชือดอูฐพลีเพื่ออัลลอฮฺ
ผู้ใดที่ไปมัสยิดในชั่วโมงที่สองเสมือนกับเขาได้เชือดวัวพลีเพื่ออัลลอฮฺ
ผู้ใดที่ไปมัสยิดในชั่วโมงที่สามเสมือนกับเขาได้เชือดแกะที่มีอายุแก่เพื่ออัลลอฮฺ
ผู้ใดที่ไปมัสยิดในชั่วโมงที่สี่ก็เสมือนว่าเขาได้เชือดไก่เพื่ออัลลอฮฺ
ผู้ใดที่ไปมัสยิดในชั่วโมงที่ห้าก็เสมือนว่าเขาได้ทำบุญด้วยกับไข่เพื่ออัลลอฮฺ
และเมื่ออิหม่ามออกมามลาอีกะฮฺก็จะออกมาเพื่อฟังการซิกรุลลอฮฺนั่นก็คือการฟังคุตบะฮฺ “
จุดยืนของชาวสลัฟอัซซอลิฮีนต่อการละหมาดวันศุกร์นั้นก็คือพวกเขาจะรักษาการละหมาดวันศุกร์อย่างเคร่งครัด หลังจากอัลกุรอ่านได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับท่านนบี ขณะที่ท่านกำลังขึ้นคุตบะฮฺ มีกองคาระวารขนเสบียงสินค้ามามากมาย ผู้ที่กำลังฟังคุตบะฮฺกับท่านนบี ส่วนหนึ่งก็ลุกขึ้นและออกไปจากมัสยิด โดยปล่อยให้ท่านนบีมุฮัมมัด ยืนคุตบะฮฺ จึงเป็นสาเหตุทำให้อายะฮฺอัลกุรอ่านนี้ถูกประทานลงมา เพราะบรรดาศ่อฮาบะฮฺบางส่วนได้ลุกขึ้นและออกไปจากมัสยิดขณะที่ท่านนบีมุฮัมมัด กำลังขึ้นคุตบะฮฺอยู่ พวกเขาออกไปเพื่อซื้อสินค้าจากกองคาราวาน
อัลลอฮฺ ตรัสความว่า
"และเมื่อพวกเขาได้เห็นการค้าการละเล่น พวกเขาก็กรูกันไปที่นั่นและปล่อยเจ้าให้อยู่คนเดียว
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดว่าสิ่งที่มีอยู่ ณ ที่อัลลอฮฺ นั้นดีกว่าการละเล่นและการค้า และอัลลอฮฺ นั้นทรงเป็นเลิศยิ่งในหมู่ผู้ที่ประทานปัจจัยยังชีพ “
อายะฮฺนี้ชี้ให้เห็นว่าเมื่ออิหม่ามขึ้นคุตบะฮฺแล้วมุสลิมทุกคนจะต้องรับฟังคุตบะฮฺ จะต้องหยุดกิจการทุกอย่างในช่วงที่มีการกล่าวคุตบะฮฺ จะพูดคุยกันไม่ได้โดยเด็ดขาด อย่างที่ผมเคยเตือนพี่น้องก่อนขึ้นคุตบะฮฺทุกครั้งว่าเรานั้นจะมีการพูดคุยกัน หรือเล่นกัน หรือเตือนกันไม่ได้ เพราะจะทำให้การละหมาดของเราใช้ไม่ได้ จะต้องกลับมาละหมาดใหม่ และจะไม่ได้รับอะไรเลยในการละหมาดวันศุกร์ของเรา
วันศุกร์เป็นวันที่มุสลิมทั้งหลายจะต้องมารวมกันเพื่อรับฟังคุตบะฮฺที่อิหม่ามนำมาตักเตือนด้วยความตั้งใจ จะไม่มีการพูดคุยกันเด็ดขาดสำหรับผู้ที่เป็นมะอฺมูม คือผู้ที่นั่งฟังคุตบะฮฺเพื่อที่เขาจะได้รับความรู้ ได้รับการตักเตือนที่ดีในเรื่องของศาสนานั่นเอง การละหมาดวันศุกร์นั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับมุสลิมที่จะต้องรักษาไว้อย่างเคร่งครัด อย่าได้ปล่อยปละละเลยเป็นอันขาด ท่านร่อซูล กำชับมุสลิมถึงความสำคัญของการละหมาดวันศุกร์ว่า
من ترك الجمعة ثلاث جمع متواليات فقد نبذ الإسلام وراء ظهره
خلاصة حكم المحدث: إسناده صحيح
"ผู้ใดที่ละทิ้งการละหมาดวันศุกร์ติดต่อกันถึงสามศุกร์ก็เท่ากับว่าเขาได้ทำให้อิสลามหมดความสำคัญ แท้จริงเขานั้นได้ทิ้งอิสลามไว้ด้านหลังแล้ว"
ท่านทั้งหลายจงเกรงกลัวอัลลอฮฺ ทั้งในที่ลับและที่เปิดเผย และจงรักษาการละหมาดวันศุกร์ของท่านให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะการรักษาการละหมาดวันศุุกร์นั้นเท่ากับเป็นการรักษาศาสนาของอัลลอฮฺ และวันศุกร์ยังเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ สำหรับผู้ที่เป็นมุสลิม เป็นวันที่พิเศษกว่าวันอื่นๆ ดังที่ท่านนบี ได้บอกว่า
إن يوم الجمعة سيد الأيام وأعظمها عند الله
خلاصة حكم المحدث: فيه عبدالله بن محمد بن عقيل وبقية رواته ثقات مشهورون
“แท้จริงวันศุกร์นั้นเป็นวันที่พิเศษและยิ่งใหญ่กว่าวันอื่นๆสำหรับอัลลอฮฺ ”
นอกจากนี้วันศุกร์ยังมีช่วงเวลาหนึ่งที่อัลลอฮฺ จะทรงรับดุอาอฺของเรา ดังนั้นมุสลิมทุกคนจะต้องฉวยโอกาสในวันนี้ให้ดีเพื่อที่เราจะได้เป็นบ่าวที่ดี ขอบคุณอัลลอฮฺ และเกรงกลัวอัลลอฮฺ ตลอดไป
ที่มา: คุตบะฮฺวันศุกร์ มัสยิดดารุลอิห์ซาน