ทำบาปใหญ่ไม่เลิก อย่าหวังว่าริซกีจะเพิ่มพูน ตกลงเราเคยหาสาเหตุหรือไม่ว่า ทำไมริซกีของเราจึงไม่เพิ่มพูน?
ทำบาปใหญ่ไม่เลิก อย่าหวังว่าริซกีจะเพิ่มพูน
บทความโดย : อ.มุรีด ทิมะเสน
ท่านรสูลุลลอฮฺ กล่าวว่า
وَإِنَّ الْعَبْدَ لَيُحْرَمُ الرِّزْقَ بِالذَّنْبِ يُصِيبُهُ
“และแท้จริงบ่าว (คนหนึ่ง) ริซกี (ปัจจัยยังชีพ) จะถูกห้าม (สำหรับเขา) ตราบที่เขายังกระทำความผิด (บัญญัติศาสนา)” [หะดีษหะสัน, บันทึกโดยอะหฺมัด, หะดีษที่ 22413]
- ดุอาอ์ปลดหนี้ หนี้เท่าภูเขาก็หมดลงได้ด้วยดุอาอ์บทนี้!
- ซูเราะห์ที่ทำให้สบายใจ
- อยากขายของดีมีริสกีเพิ่มพูน ต้องขอดุอาอฺอย่างไรบ้าง?
สิ่งที่ได้รับจากหะดีษ
บางคนเคยปรารถนาว่า ทำไมเขาไม่ค่อยมีริซกีเอาเสียเลย? บางคนว่า แต่ละวันที่ค้าขาย ไม่ใคร่มีกำไรสักเท่าใด? และอีกบางคนว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจก็ดีอยู่หรอก แต่ทำไมตัวเขาจึงมีรายจ่ายมากกว่ารายรับก็ไม่รู้? อะไรทำนองนี้เป็นต้น
ด้วยคำถามข้างต้น ตกลงเราเคยหาสาเหตุหรือไม่ว่า ทำไมริซกีของเราจึงไม่เพิ่มพูน? การกลับไปหาต้นตอนี่แหละ คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด เรามัวแต่โทษเศรษฐกิจ เรามัวโทษสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่เราไม่เคยหันกลับมาทบทวนเลยว่า เอาเข้าจริง สาเหตุอะไรเหรอที่ริซกีของเราพร่องไม่เพิ่มพูน?
อิสลามมีคำตอบ สาเหตุที่ริซกีพร่อง ไม่เพิ่มพูน ก็เพราะ เรายังคงทำบาปใหญ่อยู่เป็นอาจิณ ตรองดูเถิด ตัวเราเองยังทำบาปอะไรบ้างที่ยังไม่เตาบะฮฺตัวต่ออัลลอฮฺ?
คิดให้ดี คิดให้ถี่ถ้วนสิว่า เรายังทำบาปใหญ่อะไรไว้บ้าง?
ยังกินดอกเบี้ยอยู่ไหม?
ยังคิดไม่ดีกับมุสลิมด้วยกันเองไหม?
ยังนินทาชาวบ้านไม่เลิกไหม?
ยังไม่จ่ายซะกาตไหม?
ตระหนี่ถี่เหนียวไม่บริจาคไหม?
ละเลยหน้าที่ในครอบครัวไหม?
ยังอธรรมผู้อื่นอยู่อีกหรือไม่? และอีกจิปาถะ, สิ่งข้างต้นคือส่วนหนึ่งอันเป็นเหตุทำให้ริซกีของเราพร่อง ไม่เพิ่นพูน....นั่นแล, พูดง่ายๆ ก็คือ ตราบใดที่เรายังคงทำบาปใหญ่อยู่เนืองๆ ตราบนั้นอย่าหวังว่าริซกีของเราจะเพิ่มพูน, ท่านนบีวัจนะไว้ว่า “และแท้จริงบ่าว (คนหนึ่ง) ริซกี (ปัจจัยยังชีพ) จะถูกห้าม (สำหรับเขา) ตราบที่เขายังกระทำความผิด (บัญญัติศาสนา)”
ด้วยความเป็น “มนุษย์” อย่างเราๆ เรามักโทษแต่คนอื่น หรือมักโทษแต่สิ่งอื่นก่อนเสมอ กระทั่งลืมไปว่า ตัวเราต่างหากเป็นสาเหตุทำให้ริซกีไม่เพิ่นพูน, เราถูกสอนให้โทษแต่คนอื่น หรือสิ่งอื่นก่อนเพื่อน เพราะเราหลงในตัวเอง ไม่โทษตัวเอง ไม่มองว่าเราเป็นเหตุอันขวางกั้นริซกีของเรา
ผู้ศรัทธาต่างหากซึ่งถูกขัดเกลาให้มองตัวเองก่อนเสมอ อะไรก็ช่าง พิจารณาตัวเองก่อนเพื่อน สาเหตุทั้งหลายทั้งปวงมาจากตัวเราเองทั้งสิ้น ไม่ต้องไปโทษใครเขาหรอก, ดูกร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา ศาสนากำชับให้เราพิจารณาตัวเราเองก่อน นั่นคิดสะระตะสิว่า ตัวเราผิดอะไรกับอัลลอฮฺ เราฝ่าฝืนอะไรกับพระองค์ เราไปเผลอเรออะไรหนออันเป็นเหตุทำให้ริซกีของเราต้องลดลง และไม่เพิ่มพูนเสียที?
พฤติกรรมข้างต้นนั่นหละ คืออยู่ในตัวของ “ผู้ศรัทธามั่น” เท่านั้น, ฉะนั้น วันนี้เราปรารถนาให้ริซกีเพิ่มพูน เราจงขจัดบาปใหญ่ซึ่งอยู่ในตัวเราออกให้หมด เตาบะฮฺให้หมด เมื่อนั่นแหละ “ริซกี” ของเราจะพรั่งพรูชนิดที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว