
อัลมะซีฮุดดัจญ์ญาล (อาหรับ: المسيح الدجّال, Al-Masīḥ ad-Dajjāl "เมสสิยาห์ปลอม, โกหก, คนหลอกลวง"; ซีรีแอก: ܡܫܝܚܐ ܕܓܠܐ Mšiha Daggala) เป็นสิ่งที่ชั่วร้ายในวันโลกาวินาศของศาสนาอิสลาม
อัลมะซีฮุดดัจญ์ญาล ตัวเอกในวันสิ้นโลก
อัลมะซีฮุดดัจญ์ญาล (อาหรับ: المسيح الدجّال, Al-Masīḥ ad-Dajjāl "เมสสิยาห์ปลอม, โกหก, คนหลอกลวง"; ซีรีแอก: ܡܫܝܚܐ ܕܓܠܐ Mšiha Daggala) เป็นสิ่งที่ชั่วร้ายในวันโลกาวินาศของศาสนาอิสลาม มันจะปรากฏพร้อมกับอ้างตนเองว่าเป็น อัลมะซีห์ (หรือเมสสิยาห์) ก่อน เยามุลกิยามะฮ์ (วันแห่งการทำลายล้าง) เป็นตัวแทนของผู้ต่อต้านเมสสิยาห์ เหมือนกับศัตรูของพระคริสต์ในวันโลกาวินาศของศาสนาคริสต์ และอาร์มิลุสในวันโลกาวินาศของศาสนายูดายช่วงยุคกลาง
ดัจญ์ญาล (อาหรับ: دجال) เป็นคำวิเศษณ์ที่มีต้นกำเนิดมาจากภาษาซีรีแอก และเป็นคำที่อยู่ในขั้นที่สุดของภาษาอาหรับ มีรากมากจากคำว่า ดัจญล์ หมายถึง "โกหก" หรือ "การหลอกลวง". อัลมะซีฮุดดัจญ์ญาล หมายถึง "ผู้อ้างตัวเป็นเมสสิยาห์" ในช่วงวันสุดท้าย และคำว่า ดัจญ์ญาล คือสิ่งมีชีวิตที่มีความชั่วร้ายที่ต้องการแอบอ้างตนเองเป็นพระเมสสิยาห์ที่แท้จริง
ชื่อดัจญ์ญาลเป็นรากในภาษาอาหรับของคำว่า ดาญิล ซึ่งหมายถึง "แผ่นทอง" หรือ "ผ้าคลุมทอง" ซึ่งที่ได้มาจากคำหนึ่งที่มีความหมายว่า "ผสม"
รายงานจาก ฮะดีษ ศาสดามุฮัมมัดได้กล่าวว่าอัลมะซีฮุดดัจญ์ญาลจะเป็นตัวสุดท้ายจากบรรดาดัจญ์ญาล หรือผู้อ้างตนเอง ทั้งสิบสามตน
ศาสดามุฮัมมัดได้กล่าวว่า :
"ตาข้างขวาของอัด-ดัจญ์ญาลบอด โดยที่ตาข้างนั้นโปนเหมือนองุ่น"
อะลีได้กล่าวว่า :
ตาข้างขวาของมันจะถูกทำลาย และตาข้างซ้ายของมันจะขึ้นอยู่ที่หน้าผากแล้วจะสว่างเหมือนดาว มีแต่ผู้ศรัทธาเท่านั้นที่จะอ่านคำว่า "กาฟิร [ผู้ปฏิเสธศรัทธา] ที่อยู่บนหน้าผากได้ จากนั้นจะมีควันที่สูงเท่าภูเขาที่ติดตามมันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผู้คนจะได้อาหารในภูเขาเหล่านี้ในช่วงหน้าแล้ง แม่น้ำทุกสายที่มันไปถึง จะเหือดแห้งหมด แล้วมันจะพูดกับผู้คนด้วยเสียงที่ดังว่า "โอ้เพื่อนของข้า มาหาข้าซิ! ข้าคือพระเจ้าที่สร้างขาของเจ้า และให้ปัจจัยยังชีพแก่เจ้า"
ศาสดามุฮัมมัดได้กล่าวว่า :
"ถ้ามันมาขณะที่ฉันยังอยู่กับพวกท่าน ฉันจะเป็นคนที่จะโต้ตอบกับมันในนามของคุณ แต่ถ้ามันมาในตอนที่ฉันไม่ได้อยู่กับพวกท่านแล้ว ชายคนหนึ่งจะโต้ตอบกับมันในนามของเขาเอง...ใครก็ตามที่อยู่ในเวลานั้นให้อ่านอายะฮ์แรก [และสิบอายะฮ์สุดท้าย] ของซูเราะฮ์อัล–กะฮ์ฟี เพื่อปกป้องหายนะที่มาจากมัน. เราได้ถามว่า: มันจะอยู่บนโลกนานเท่าใด? ท่านได้กล่าวว่า: 40 วัน โดยวันแรกจะนานเป็นปี อีกวันจะนานเป็นเดือน ส่วนอีกวันจะนานเป็นสัปดาห์ และวันที่เหลือจะเหมือนวันปกติ. เราได้ถามว่า: ศาสนทูตของอัลลอฮ์ การละหมาดในหนึ่งวันนี้จะอยู่เป็นปีได้หรือ? ท่านตอบว่า: ไม่ พวกท่านต้องหาเวลาละหมาดเอง. จากนั้นอีซาบุตรของมัรยัมจะลงมาที่หออะซานสีขาวทางตะวันออกของดามัสกัส ท่านจะตามมันไปที่กำแพงแห่งลุดด์แล้วฆ่ามัน"
ศาสดามุฮัมมัดได้กล่าวว่า :
"ความเจริญของเยรูซาเลมจะเกิดขึ้นเมื่อเมืองยัษริบถูกทิ้งร้าง เมืองยัษริบจะถูกทิ้งร้างเมื่อมีสงครามครั้งใหญ่ สงครามครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อมีการยึดคอนสแตนติโนเปิล และการยึดคอนสแตนติโนเปิลจะเกิดขึ้นเมื่อดัจญ์ญาล (ศัตรูของพระคริสต์) ปรากฏตัว ท่าน (ศาสดา) ได้ตีขาหรือไหล่ของเขาด้วยมือของเขาและกล่าวว่า : นี่คือความจริงเหมือนตอนที่คุณอยู่ตรงนี้หรือกำลังนั่งอยู่" (หมายถึงมุอาซ อิบน์ ญะบัล)
สัญญาณการมาของอัลมะซีฮุดดัจญ์ญาล
ในฮะดีษได้บันทึกว่า ศาสดามุฮัมมัดได้บอกสัญญาณการมาของ ดัจญ์ญาล ที่จะเข้าเมืองทั่วโลกยกเว้นมักกะฮ์ และมะดีนะฮ์ และบอกให้ผู้คนติดตามศาสนาปลอมของมัน ศาสดามุฮัมมัดได้กำชับทุกคนอ่านอายะฮ์แรก และสิบอายะฮ์สุดท้ายของซูเราะฮ์อัล-กะฮ์ฟี (ตอนที่ 18 ในอัลกุรอาน) เพื่อปกป้องจากสิ่งชั่วร้ายที่มาจาก ดัจญ์ญาล. สัญญาณที่อยู่ด้านล่างนี้ถูกกล่าวโดยอะลี :
- ผู้คนจะเลิกละหมาด
- ความไม่ซื่อสัตย์จะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
- ความเท็จจะกลายเป็นคุณธรรม
- ผู้คนจะขายศาสนาตนเองเพื่อความสุขของโลกนี้
- ดอกเบื้ย และสินบนจะถูกกฎหมาย
- จะมีทุกขภิกขภัยที่ร้ายแรงในเวลานั้น
- จะไม่มีความอัปยศในหมู่คน
- ผู้คนจะเริ่มบูชาซาตาน
- จะไม่มีการให้เกียรติกับผู้ที่มีอายุมากกว่า
- ผู้คนจะเริ่มฆ่ากันเองโดยไม่มีเหตุผล
สัญญาณการปรากฏตัว
สัญญาณที่อยู่ตรงนี้ คือ สัญญาณการปรากฏตัวของดัจญ์ญาลที่ปรากฏในฮะดีษส่วนใหญ่
- ทะเลกาลิลีเริ่มเหือดแห้ง
- เมื่อต้นปาล์ม-อินทผาลัมแห่งบัยซันหยุดออกผล
- การสักการะซาตานถือเป็นเรื่องปกติ
- การยึดครองคอนสแตนติโนเปิล (ปัจจุบันคืออิสตันบูล ประเทศตุรกี)
- สัญญาณหลังจากการปรากฏตัว
- มันจะสร้างปาฏิหาริย์และสร้างทรัพยากรที่ให้ผลผลิต (วัตถุดิบ, อาหาร) จากพลังของมัน
- มันจะเดินทางไปทั่วโลก ยกเว้นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของอิสลาม (มักกะฮ์และมะดีนะฮ์)
- มันจะบังคับกระแสน้ำไปตามคำสั่งของมัน และนำลมอ่อนๆ ผ่านทะเลแดง
- มันจะเป็นที่รู้จักโดยผู้ศรัทธาในศาสนาอิสลาม (มุสลิม)
บทความที่น่าสนใจ