
แด่ทุกคนที่กำลังมุ่งหน้าสู่ลานฏอวาฟ นี้คือ เครื่องหมายของอัลอิสลามที่เด่นชัด ถือได้ว่าเป็นบทบัญญัติของอิสลาม
การเดินฏอวาฟ หมายถึง เดินเวียน กะบะฮฺถือว่าเป็นความประเสริฐที่ดียิ่งและนี้คือ เครื่องหมายของอัลอิสลามที่เด่นชัด ถือได้ว่าเป็นบทบัญญัติของอิสลามตั้งแต่การสร้างกะบะฮฺสมัยท่านนบี อิบรอฮีม อะลัยอิสลาม
อัลเลาะห์ตรัจว่า
“และเราได้สั่งเสียแก่อิบรอฮีม และอิสมาอีลว่า เจ้าทั้งสองจงทำความสะอาดบ้านของข้าเพื่อบรรดาผู้ทำการเฎาะวาฟ และบรรดาผู้ทำการเอียะติกาฟ และบรรดาผู้ที่ทำรุกัวะและสุญูด”
( ซูเราะห์อัล บะกอเราะห์ 125 )
บทเรียนที่ได้จากลานฏอวาฟ
1. คุณจะพบว่า..
ไม่มีความรู้สึกใดในชีวิตจะเหมือนกับความรู้สึกตอนที่ได้เห็นกะอ์บะฮ์ครั้งแรก
ความอิ่มเอิบ ซาบซึ้งขณะได้เห็นบ้านของอัลลอฮ์นั้นล้นใจยากอธิบาย
แล้วจะเป็นอย่างไร ในวันที่เราได้เห็นพระพักตร์เจ้าของบ้าน
มันจะเป็นความสุขปริ่มล้นใจสักเพียงไหนกัน
ฉะนั้น เหมือนเช่นที่เราดิ้นรนขวนขวายเพื่อจะได้มาเห็นบ้านของอัลลอฮ์
จงดิ้นรนขวนขวายจนกระทั่งได้พบพระพักตร์ของพระองค์ในสวนสวรรค์เถิด
2. คุณจะพบว่า..
ทุกรอบที่ย่ำเดินวนเวียนไปนั้นมีบ้านของอัลลอฮ์เป็นศูนย์กลาง
เหมือนชีวิตของเราที่หมุนเคลื่อนไปโดยมีอัลลอฮ์เป็นศูนย์กลาง
รอบปีแล้ว รอบปีเล่า
บางช่วงเวลาก็สุขล้ำเหมือนหัวใจจะโลดออกมา
บางช่วงเวลาก็เหนื่อยล้าเหมือนจะเดินต่อไม่ไหว
แต่เพียงบอกตัวเองว่าที่กำลังย่ำเดินอยู่นั้นเป็นเส้นทางที่อัลลอฮ์พอใจ
มันก็มีแรงไปต่อจนสุดทาง
3. คุณจะพบว่า..
ผู้คนในลานฏอวาฟนั้นเต็มไปด้วยความหลากหลายทั้งเชื้อชาติ ภาษา และบททดสอบ
พวกเขามารวมตัวกันเพื่อวอนขอความเมตตา การอภัย และการตอบรับจากพระเจ้าของบ้านอันเก่าแก่
มันคือภาพจำลองการรวมตัวของผู้คนในวันหนึ่งข้างหน้า
ฉะนั้น จงตรึงหัวใจไว้กับอัลลอฮ์ให้เต็มพลังที่สุดขณะรวมตัวกับผู้คนรอบบ้านของพระองค์ในวันนี้
ด้วยหวังว่ามันจะเป็นการงานที่ทำให้เรารอดปลอดภัยในการรวมตัวเบื้องหน้าพระองค์ในวันแห่งการตัดสิน
4. คุณจะพบว่า...
ในลานฏอวาฟมีผู้คนมากมายที่ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยของคุณดูแทบเป็นเรื่องไร้สาระ
คุณจะได้พบคนตาบอดที่ลากไม้เดินฏอวาฟทีละก้าว
ได้พบชายตัวแคระที่ย่ำขาผิดรูปอย่างเชื่องช้าจนแทบจินตนาการเวลาตอวาฟเสร็จสิ้นไม่ออก
ได้พบแม้กระทั่งคนไร้ขาที่ค่อยๆ เคลื่อนกายรอบบ้านของอัลลอฮ์ด้วยการถดตัวไปทีละคืบ
พวกเขาคือคนที่จะทำให้คุณรู้สึกขอบคุณอัลลอฮ์ล้นใจในก้าวเดินที่ย่ำได้ด้วยเท้าอันสมบูรณ์แม้จะปวดหนึบ
และทำให้ย่างก้าวที่ล้าชาจนคล้ายจะก้าวต่อไม่ไหวรู้สึกว่าไปต่อได้
เหมือนเช่นผู้คนจำนวนมากในชีวิตเรา
ที่เพียงก้มดูเขาสักหน่อย
เราก็จะมองเห็นว่าปัญหาใหญ่โตในชีวิตที่คิดบ่นเบื่อนั้นมันเป็นความเมตตายิ่งใหญ่ขนาดไหน
5. คุณจะพบว่า..
คนที่เดินฏอวาฟคนเดียวนั้นโดดเดี่ยว แต่ไปได้เร็วลิ่ว
คนที่เดินฏอวาฟเป็นคู่นั้นมีห่วงให้ต้องคอยพะวงจับ แต่มันก็มากับความอบอุ่น
คนที่เดินฏอวาฟกับเด็กนั้นดูพะรุงพะรัง แต่น่าเอ็นดู
คนที่เดินฏอวาฟกับคนแก่นั้นดูแบกภาระ แต่น่านับถือ
คนที่เดินฏอวาฟเป็นหมู่คณะดูเกะกะ แต่ก็ทรงพลัง
เหมือนชีวิตของเราแต่ละช่วง แต่ละสถานะ
มันจะมีทั้งมุมที่น่าหนัก และมุมที่น่ารัก
อยู่ที่เราจะขับเน้นมุมไหนให้เด่นชัดกว่า
6. คุณจะพบว่า...
ไม่ว่าเราจะใส่ดุอาอ์อะไรไปมากมายแค่ไหนในแต่ละรอบของการฏอวาฟ
เราก็จะถูกสอนให้ปิดแต่ละรอบด้วยดุอาอ์พื้นฐานที่สุด
เป็นศูนย์รวมความดีงามอันเรียบง่ายที่สุด แต่ยิ่งใหญ่ที่สุด
นั่นคือดุอาอ์ที่ว่า
“ร็อบบ่ะนาอาตินา ฟิดดุนยา ฮะซะนะฮ์
วะฟิลอาคิเราะติ ฮะซะนะฮ์
วะกินาอะซาบันนาร”
ย้ำเตือนไม่ให้เราลืมขอในสิ่งที่เรียบง่ายที่สุดแต่เปี่ยมความหมายที่สุด
ไม่ว่าจะในช่วงดุอาอ์มุสตะญาบใดของชีวิต
อย่าลืมขอดุอาอ์พื้นฐานที่ประมวลทุกความดีงามเอาไว้
นั่นคือ ขอความดีทั้งมวลสำหรับชีวิตในโลกนี้ ชีวิตในโลกหน้า
และขอให้พ้นจากการลงโทษในไฟนรก
7. คุณจะพบว่า...
ก่อนเริ่มต้นฏอวาฟทุกๆ รอบ และเมื่อจบสิ้นการฏอวาฟรอบสุดท้าย
เราถูกสอนให้กล่าวพระนามของอัลลอฮ์ และยืนยันความยิ่งใหญ่ของพระองค์
“บิสมิลลาฮิ”..เหมือนทีเราเริ่มต้นการวนรอบบ้านของอัลลอฮ์แต่ละรอบด้วยพระนามของอัลลอฮ์
อย่าได้ลืมที่จะเริ่มต้นทุกกิจการงานของชีวิตด้วยพระนามของอัลลอฮ์
“อัลลอฮุอักบัร”...เหมือนที่เรายืนยันในทุกรอบการฏอวาฟว่าอัลลอฮ์ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
ขอให้ชีวิตของเราต่อจากนี้เป็นไปเพื่อยืนยันในเรื่องเดียวกันอย่างไรข้อกังขา
ไม่มีใครหรืออะไรอีกแล้วในชีวิตที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าอัลลอฮ์!
สุดท้ายแล้วนั้น การละหมาดจะประเสริฐกว่าการตอวาฟ หรือการตอวาฟจะประเสริญกว่า ตรงนี้ ต้องการอธิบายจากบรรดาผู้รู้กล่าวว่า แน่นอน สิ่งที่ประเสริฐที่สุด การทำตอวาฟมากๆ เพราะว่า การละหมาดนั้น ย่อมที่จะละหมาดได้ทุกๆที่ ไม่ใช่เฉพาะที่มัสยิด อัลหะรอมมักกะฮฺ เท่านั้น แต่การตอวาฟนั้นมีไว้เฉพาะ ที่ บัยตุลลอฮฺ มักกะฮฺ เท่านั้น ส่งเสริมชอบให้กระทำการตอวาฟสิ่งแรกๆสำหรับคนต่างถิ่น
ส่วนคนที่พำนักในนครมักกะฮฺ การละหมาดถือว่าที่ดีกว่า ชนิดของการละหมาดย่อมประเสริฐกว่าชนิดของการตอวาฟ