อิสลามกับการเคาท์ดาวน์: มุมมองและการปฏิบัติตน
เมื่อเข็มนาฬิกาเดินทางมาถึงสิ้นปี บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองและการ "เคาท์ดาวน์" มักจะปกคลุมไปทั่วทุกมุมโลก สำหรับมุสลิมในสังคมพหุวัฒนธรรม เรื่องนี้มักนำมาซึ่งคำถามเสมอว่า "อิสลามอนุญาตให้ร่วมเฉลิมฉลองได้หรือไม่?"
1. รากฐานของการเฉลิมฉลองในอิสลาม
ในทางศาสนาอิสลาม วันรื่นเริงที่ถูกกำหนดไว้อย่างเป็นทางการมีเพียง 2 วันเท่านั้น คือ วันอีดิ้ลฟิฏริ (วันออกบวช) และ วันอีดิ้ลอัฎฮา (วันรายาฮัจญี) การจัดงานเฉลิมฉลองในวาระอื่นๆ ที่ผูกโยงกับความเชื่อทางศาสนาอื่นหรือวัฒนธรรมที่ขัดกับหลักการ จึงเป็นเรื่องที่นักวิชาการศาสนาส่วนใหญ่ให้ระมัดระวัง
2. ข้อควรระวังในการเคาท์ดาวน์
สาเหตุที่การเคาท์ดาวน์ถูกมองว่าไม่สอดคล้องกับวิถีอิสลาม มักประกอบด้วยปัจจัยดังนี้:
- การเลียนแบบชนกลุ่มอื่น: มีหลักการว่า "ผู้ใดเลียนแบบชนกลุ่มใด เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของชนกลุ่มนั้น" โดยเฉพาะหากการฉลองนั้นมีที่มาจากความเชื่อทางจิตวิญญาณหรือศาสนาอื่น
- พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม: บ่อยครั้งที่งานเคาท์ดาวน์มักมาคู่กับการดื่มสุรา การปะปนระหว่างเพศที่ไม่เหมาะสม และสถานบันเทิง ซึ่งขัดกับหลักศีลธรรมอิสลามอย่างชัดเจน
- การสุรุ่ยสุร่าย: การใช้จ่ายเงินจำนวนมากไปกับพลุไฟหรือความบันเทิงเพียงชั่วข้ามคืน ถูกมองว่าเป็นความฟุ่มเฟือยที่ไม่มีประโยชน์ต่อโลกหน้า
3. การใช้เวลาอย่างมีความหมาย
แทนที่จะจดจ่อกับการนับถอยหลังเพื่อความรื่นเริงเพียงอย่างเดียว อิสลามสนับสนุนให้มุสลิมใช้ช่วงเวลานี้ในการ "มุฮาซะบะฮ์" (การตรวจสอบตนเอง)
- ทบทวนอดีต: 1 ปีที่ผ่านมาเราทำความดีความชั่วอย่างไรบ้าง?
- วางแผนอนาคต: ตั้งเป้าหมายในการขัดเกลาจิตใจและเข้าหาพระเจ้าให้มากขึ้น
- ตระหนักถึงเวลา: ความจริงที่ว่า "เวลาที่ผ่านไป คืออายุขัยที่สั้นลง"
บทสรุป
อิสลามไม่ได้ห้ามการมีความสุขหรือการรับรู้ถึงวันเวลาที่เปลี่ยนไป แต่มุสลิมควรแสดงออกด้วยความสำรวม การขอบคุณ (ชูกูร) ต่อพระเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่ และหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีสิ่งต้องห้ามปนเปื้อน
"เวลาคือดาบ หากคุณไม่เชือดมัน มันจะเชือดคุณ" — คำคมอาหรับ
บทความที่น่าสนใจ
