จริงหรือไม่ เพราะลืมซูโกรริสกีถึงได้ลด : islamhouses


187,462 ผู้ชม

บางครั้งเราอาจมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อย ที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงให้สิ่งที่ดีกับตัวเรา จนมองข้ามการซูโกร (ขอบคุณ) ต่อเอกองค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.) ประเด็นนี้จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ อัลลอฮฺ(ซ.บ.) ทรงลดริสกี...


 รายงานจากอะบีบักเราะฮ์ ความว่า : 

‏عَنْ النَّبِيِّ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏أَنَّهُ كَانَ ‏ ‏إِذَا جَاءَهُ أَمْرُ سُرُورٍ أَوْ بُشِّرَ بِهِ خَرَّ سَاجِدًا شَاكِرًا لِلَّهِ

"จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แท้จริงเมื่อมีสิ่งหนึ่งจากความปีติยินดีได้มาหาท่านหรือท่านได้รับแจ้งข่าวดี  ท่านจะก้มลงสุยูดเพื่อชุโกรต่ออัลเลาะฮ์" รายงานโดยอะบูดาวูด (2393) ฮะดีษฮะซัน

อามิร บุตร สะอัด ได้รายงานจากบิดาของเขาว่า

‏قَالَ ‏ ‏إِنِّي سَأَلْتُ رَبِّي وَشَفَعْتُ لِأُمَّتِي فَأَعْطَانِي ثُلُثَ أُمَّتِي فَخَرَرْتُ سَاجِدًا شُكْرًا لِرَبِّي ثُمَّ رَفَعْتُ رَأْسِي فَسَأَلْتُ رَبِّي لِأُمَّتِي فَأَعْطَانِي ثُلُثَ أُمَّتِي فَخَرَرْتُ سَاجِدًا لِرَبِّي شُكْرًا ثُمَّ رَفَعْتُ رَأْسِي فَسَأَلْتُ رَبِّي لِأُمَّتِي فَأَعْطَانِي الثُّلُثَ الْآخِرَ فَخَرَرْتُ سَاجِدًا لِرَبِّي

"ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า  ฉันได้ขอต่อผู้อภิบาลของฉันและทำการอนุเคราะห์ช่วยเหลือแก่ประชาชาติของฉัน  ดังนั้นพระองค์จึงอนุญาตให้แก่ฉัน(ทำการอนุเคราะห์ช่วยเหลือ)ถึงเศษหนึ่งส่วนสามของประชาชาติของฉัน  ดังนั้นฉันจึงก้มลงสุยูดเพื่อชุโกรต่อผู้อภิบาลของฉัน  หลังจากนั้นฉันก็เงยศีรษะขึ้น  แล้วขอต่อผู้อภิบาลของฉันให้แก่ประชาชาติของฉัน  ดังนั้นพระองค์จึงอนุญาตแก่ฉัน(ช่วยเหลือ)อีกเศษหนึ่งส่วนสามจากประชาชาติของฉัน  แล้วจึงก้มลงสุยูดเพื่อชุโกรต่อผู้อภิบาลของฉัน  จากนั้นฉันเงยศีรษะขึ้น แล้วขอต่อผู้อภิบาลของฉันให้แก่ประชาชาติของฉัน  ดังนั้นพระองค์จึงอนุญาตแก่ฉัน(ช่วยเหลือ)อีกเศษหนึ่งส่วนสามจากประชาชาติของฉัน  แล้วจึงก้มลงสุยูดเพื่อชุโกรต่อผู้อภิบาลของฉัน" รายงานโดยอบูดาวูด (2394) ฮะดีษฮะซัน 

อนึ่ง การสุยูดชุโกรนั้น  จะไม่กระทำในละหมาด  แต่ให้กระทำนอกละหมาดในขณะที่เกิดเนี๊ยะมัตหนึ่งหรือได้รอดพ้นจากภัยพิบัติหนึ่ง เป็นต้น

จริงหรือไม่ เพราะลืมซูโกรริสกีถึงได้ลด

บางครั้งเราอาจมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อย ที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงให้สิ่งที่ดีกับตัวเรา จนมองข้ามการซูโกร (ขอบคุณ) ต่อเอกองค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.) ประเด็นนี้จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ อัลลอฮฺ(ซ.บ.) ทรงลดริสกีลง Berita muslim เห็นว่าทุกคนไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้

อิสลามสอนว่าเมื่อได้รับสิ่งดีๆแล้ว อย่าลืมซูโกร (ขอบคุณ) เพราะเมื่อเราซูโกร อัลลอฮฺก็จะเพิ่มความเมตตาและริสกีมากกว่าเดิม แต่หากลืมซูโกร ก็อย่าได้แปลกใจที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ได้ลดริสกี การที่เราจะซูโกรไม่จำเป็นต้องเป็นริสกีที่ใหญ่เสมอไป เช่น การซูโกรต่อ ริสกีที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงให้เรามีความเป็นมนุษย์ที่ครบสมบูรณ์และไม่พิการที่ดี มีครอบครัวที่ดี หน้าที่การงานดี เพื่อนดี ความคิดดี ซึ่งหากสามารถมองบททดสอบที่ผ่านมาเป็นบนเรียน ก็ล้วนให้เราคิดและไตร่ตรองความซูโกรอยู่เสมอ

การซูโกรจะมีสองลักษณะ คือ การซูญูดทันทีทันใดเมื่อได้รับสิ่งที่เราต้องการหรือซูญูดเมื่อเวลาใดก็ได้ โดยตอนซูญูดให้เหนียตว่า ขอซูโกรทุกสิ่งทุกอย่างที่อัลลอฮฺ(ซ.บ.) ทรงมอบให้แก่เรา บางทีเราอาจกล่าวสิ่งที่ได้รับด้วย

แบบที่สอง คือ การซูโกรด้วยการละหมาด หนึ่งในวิธีการละหมาดซูนัตซูโกรสามารถทำได้ ดังนี้

ในขณะที่ตักบีร ให้เหนียตว่า “ข้าพเจ้าละหมาดซูนัตซูโกร สองรอกะอัต เพื่ออัลลอฮฺตะอาลา”

จริงหรือไม่ เพราะลืมซูโกรริสกีถึงได้ลด

รอกะอัตแรก ให้อ่าน ซูเราะฮฺ  الْفَاتِحَةِ  (อัลฟาติหะฮฺ) และตามด้วย ซูเราะฮฺ (อัลกาฟิรูน) قُلْ يَا أَيُّهَا الْكَافِرُونَ

รอกะอัตที่สอง ให้อ่าน ซูเราะฮฺ الْفَاتِحَةِ  (อัลฟาติหะฮฺ) และตามด้วย ซูเราะฮฺ (อัลอิคลาส) قُلْ هُوَ اللَّهُ أَحَدٌ

เสร็จจากการละหมาด ต่อด้วยดุอาอฺ อ่านตามนี้

จริงหรือไม่ เพราะลืมซูโกรริสกีถึงได้ลด

 เวลาที่สามารถทำการละหมาด คือทันทีทันใดที่ได้รับสิ่งที่ดีหรือ ช่วงไหนก็ได้ เว้นแต่ช่วงเวลาที่ห้ามละหมาด

อยากให้ทุกคนรู้ไว้ว่า ถ้าอยากได้ดีมากกว่าเดิม หรือไม่อยากให้อัลลอฮฺ(ซ.บ.) ลดริสกีลง ก็อย่าลืมซูญูดซูโกร อินชาอัลลอฮฺมีดีในชีวิตเพิ่มกว่าเดิม

เรียบเรียงโดย Fateemoh

ขอขอบคุณข้อมูลจาก  beritamuslimmag.com

เรื่องที่น่าสนใจ