การละหมาดอีด นั้นไม่ได้เป็นวาญิบกับผู้หญิง แต่สําหรับนางนั้น นี่คือ ซุนนะฮฺ และสิทธิ ของนาง และพวกนางต้องออกไปละหมาดที่มุศ็อลลา
การละหมาดอีดทั้งสองสําหรับมุสลิมะฮฺ
การละหมาดอีด นั้นไม่ได้เป็นวาญิบกับผู้หญิง แต่สําหรับนางนั้น นี่คือ ซุนนะฮฺ และสิทธิ ของนาง และพวกนางต้องออกไปละหมาดที่มุศ็อลลา (พื้นที่กว้าง , ลานกว้างสําหรับเป็น สถานที่ละหมาดอีด) พร้อมกับบรรดามุสลิมีนทั้งหมด เพราะท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม ได้สั่งใช้พวกนางในเรื่องดังกล่าว
(มูฮัมหมัด ซอและฮฺ อัลมุนัญญิด , http://islamqa.info/ar/26983 คําถามที่ : 26983)
มีรายงานจากอุมมุ อะฏียะฮฺ กล่าวว่า :
“พวกเราได้ถูกใช้ให้นํา (ไปยังสถานที่ละหมาดอีด) สตรีที่มีประจําเดือน หญิงสาววัยรุ่น และหญิงที่มีผ้าคลุมหน้า ส่วนหญิงที่มีประจําเดือนนั้น นางจะได้ร่วม รับความดี และ การขอพรของบรรดามุสลิมด้วย โดยให้หญิงที่มีประจําเดือนอยู่นอกสถานที่ละหมาด ”
(บันทึกโดยบุคอรียฺ บทที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดอีดทั้งสอง : 981)
มีรายงานจากอุมมุอะฏียะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา อีกว่า :
“ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ใช้พวกเราในการที่เราจะต้องพา บรรดาผู้หญิงออกไปในวันอีดิลฟิตริและอีดิลอัฎฮา ไม่ว่าจะเป็น หญิงสาววัยรุ่น หญิงที่ มีประจําเดือน และหญิงที่มีผ้าคลุมหน้า ส่วนหญิงที่มีประจําเดือนจะต้องปลีกตัวออก จากสถานที่ละหมาด และพวกนางจะได้ปรากฏตัวร่วมอยู่กับความดี และดุอาอฺต่าง ๆ ของบรรดามุสลิมีน ฉันได้ถามว่า โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮฺ คนหนึ่งของพวกเราเขาไม่มีผ้า คลุมละ ท่านร่อซูลตอบว่า พี่น้องของเธอควรจะต้องให้ผ้าคลุมของตนแก่เธอใช้” (บันทึกโดยมุสลิม บทที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดอีดทั้งสอง : 890)
ชัยคฺอิบนิ บาซ ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า “และการที่บรรดาสตรีออกมาละหมาด ในวันอีดนั้นเป็นซุนนะฮฺ ไม่ใช่วาญิบ”
สถานที่ละหมาดอีดทั้งสองสําหรับมุสลิมะฮฺ
และพวกนางต้องออกไปละหมาดที่มุศ็อลลา (พื้นที่กว้าง , ลานกว้างสําหรับเป็น สถานที่ละหมาดอีด) พร้อมกับบรรดามุสลิมีนทั้งหมด เพราะท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม ได้สั่งใช้พวกนางในเรื่องดังกล่าว มีรายงานจากอุมมุ อะฏียะฮฺ กล่าวว่า :
“พวกเราได้ถูกใช้ให้นํา (ไปยังสถานที่ละหมาดอีด) สตรีที่มีประจําเดือน หญิงสาว วัยรุ่น และหญิงที่มีผ้าคลุมหน้า ส่วนหญิงที่มีประจําเดือนนั้น นางจะได้ร่วม รับความดี และการ อัชเชากานียฺ ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า
“จากหะดีษนี้ และในหะดีษต่าง ๆ ที่มี ความหมายเช่นเดียวกันนี้ คือ เป็นบทบัญญัติสําหรับมุสลิมะฮฺให้ออกไปละหมาดอีดที่ มุศ็อลลา โดยไม่มีการแยกระหว่างสาวโสด หญิงหม่าย เด็กสาว หญิงชรา หญิงที่มี รอบเดือน หรือคนอื่น ๆ ตราบใดที่นางไม่ใช่เป็นผู้ที่มีอิดดะฮฺ หรือการออกไปของนาง นั้นจะไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ปั่นป่วน หรือเป็นอุปสรรคแต่อย่างใด ” (นัยรุลเอาฏ็อรฺ : 306/3)
(ซอและฮฺ อิบนิ เฟาซาน อัลเฟาซาน , ตันบิฮาต อะลาอะหฺกาม ตัคตัศศุ บิลมุอฺมินาต หน้า : 38-39)
เชคคุลอิสลาม อิบนุ ตัยมียะฮฺ ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวในมัจญฺมัวอฺ : 458-459/6 ว่า:
“แน่นอนว่า ท่านนบีนั้นได้บอกบรรดาหญิงที่อีหม่านว่าการละหมาดในบ้านของพวกนางนั้น ประเสริฐสําหรับพวกนางมากกว่าการละหมาดวันศุกร์และญะมาอะฮฺ (ที่มัสญิด) นอกจากวัน อีด
เพราะท่านนบีได้สั่งใช้พวกนางให้ออกไปในวันอีด (อัลลอฮฺคือผู้รู้ดีที่สุด) ด้วยสาเหตุ ต่อไปนี้ :
ประการที่หนึ่ง : การละหมาดอีด คือ ซุนนะฮฺที่เกิดขึ้นสองครั้งด้วยกัน ซึ่งแตกต่างจากการ ละหมาดวันศุกร์ และละหมาดญะมาอะฮฺ (ที่มีการปฏิบัติตลอดทั้งปี)
ประการที่สอง : การละหมาดอีดนั้นไม่มีสิ่งใดที่จะมาทดแทน แตกต่างจากวันศุกร์และการละหมาดญะมาอะฮฺ เพราะการละหมาดซุฮฺริในบ้านของพวกนางนั้น คือการละหมาดวันศุกร์ ของพวกนาง
ประการที่สาม : การละหมาดอีดนั้นจะต้องออกไปละหมาดที่ทะเลทราย เพื่อรําลึก ถึงอัลลอฮฺ และมันคือสิ่งที่คล้าย ๆ กับการทําฮัจย์ในบางแง่บางมุม และด้วยเหตุนี้เองอีดใหญ่ในฤดูฮัจย์นั้น ก็เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับผู้ประกอบพิธีฮัจย์” (เล่มเดียวกัน หน้า : 39)
แต่สิ่งสําคัญที่บรรดามุสลิมะฮฺต้องรักษาเงื่อนไขต่าง ๆ ของพวกนาง อาทิเช่น การ แต่งกายที่ถูกต้อง ไม่โอ้อวด รัดรูป สีสันดึงดูดเพศตรงข้าม ตลอดจนการรักษากริยา มารยาทต่าง ๆ
วิธีการละหมาดอีด :
ถือเป็นซุนนะฮฺในการที่อิหม่ามจะต้องมีซุตเราะฮฺ (เขตที่ไม่อนุญาติให้ผู้อื่นเข้ามา บริเวณนี้) กั้นข้างหน้า
วิธีการละหมาดอีดิ้ลฟิตรี และอีดิ้ลอัฏฮานั้น มี 2 ร่อกาอัต
โดยไม่มี การอะซานและอิกอมะฮฺ ละหมาดก่อนคุฏบะฮฺ
1 - เริ่มโดยการตักบีรร่อตุลเอี๊ยะหฺรอม หลังจากนั้นอ่านดุอาอฺอิฟติฟตาห์
2 - หลังจากนั้นตักบีรอีก 7 ครั้ง ไม่มีรายงานที่ถูกต้องว่าท่านนบีนั้นยกมือทุก ๆ ตักบีรใน ละหมาดอีด
(อบูมาลิก กะมาล อิบนุ ซัยยิดซาเล็ม , เศาะเหี๊ยะหฺ อัลฟิกฮุซซุนนะฮฺ วะอะดิลละตุฮู วะเตาดิหฺ มะซาฮิบ อัลอะอิมมะอฺ เล่ม : 1 หน้า : 534)
มีรายงานจากอับดุลลอฮฺ อิบนิ อัมรฺ อิบนิ อาศ กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอ ฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
“ตักบีรในละหมาดอีดิลฟิตรีนั้น 7 ครั้งในร่อกาอัตแรก และ 5 ครั้งในร่อกาอัตที่สอง และการอ่าน (ฟาติหะฮฺ) หลังจากตักบีรทั้งสองนั้น”
(บันทึกโดยอบูดาวุด บทที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาด : 1151 ติรมีซียฺ บทที่ว่าด้วยเรื่องละหมาดวันศุกร์ บทที่ว่าด้วย เรื่องอีดทั้งสอง : 536 อิบนุมาญะฮฺ บทที่ว่าด้วยเรื่องการดํารงไว้ซึ่งการละหมาดต่าง ๆ : 1279 อัลบานียฺ , เศาะหี๊ ยะหฺอบูดาวุด : 315/1)
3 – ไม่มีรายงานที่ถูกต้องจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่าท่านกล่าวสิ่งใด ในช่วงสงบนิ่งระหว่างตักบีรต่าง ๆ
แต่ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ มัสอูด กล่าวว่า : “ระหว่างทุก ๆ สองตักบีร จะกล่าวสรรญเสริญต่ออัลลอฮฺ ” (บันทึกโดยบัยฮากียฺ : 291/3)
คําอ่าน : ซุบหานัลลอฮฺ วัลหัมดุลิลลาฮฺ วะลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮฺ วัลลอฮุอักบัร “มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์อัลลอฮฺ การสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ไม่มีพระเจ้าอื่นใด ที่ต้องเคารพสักการะเว้นแต่พระองค์อัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น และพระองค์อัลลอฮฺทรง ยิ่งใหญ่”
4 - อ่านซูเราะฮฺฟาติหะฮฺ และอ่านซูเราะฮฺ ซึ่งส่งเสริมให้อ่าน “ซูเราะฮฺก็อฟ” ส่วนร่อกะอัต ที่ 2 อ่าน “ซูเราะฮฺอัลกอมัร” ดังที่มีรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มี รายงานจากอบู วากิด อัลลัยษี แท้จริง ท่านอุมัร อิบนุ ค็อฏฏอบ ได้ถามเขาว่า :
“สิ่งที่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อ่าน (ในละหมาด) อีดิลอัฎฮาและอีดิลฟิตรี อบู วากิด ตอบว่า ท่านร่อซูล จะอ่านซูเราะฮฺก็อฟ และซูเราะฮฺอัลกอมัร”
(บันทึกโดยมุสลิม บทที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดวันอีดทั้งสอง : 891 นะซาอียฺ , อัลกุบรอ : 11550 ติรมีซียฺ : 534 อิบนุมาญะฮฺ : 1282)
หรือบางทีก็อ่านซุเราะฮฺ “อัลอะอฺลา” ในร่อกาอัตแรก และอ่านซูเราะฮฺ “อัลฆอชิ ยะฮฺ” ในร่อกาอัตที่ 2 มีรายงานจากนัวอฺมาน อิบนิ บะชีร ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า :
“ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะอ่านในละหมาดอีดทั้งสองและวัน ศุกร์ ซูเราะฮฺอัลอะอฺลา และ อัลฆอชิยะฮฺ เขายังบอกต่อว่า เมื่อวันอีดและวันศุกร์มา รวมอยู่ในวันเดียวกัน ท่านก็จะอ่านซูเราะฮฺทั้งสองอีกเช่นกันในสองละหมาดนั้น” (บันทึกโดย มุสลิม บทที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาดวันศุกร์ : 878)
5 - หลังจากนั้นก็รุกุอฺ เงยจากรุกุอฺ สุหยูด นั่งระหว่างสองสุหยูด และสุหยูด
6 – ยืนในร่อกะอัตที่สอง
7 – หลังจากนั้นก็ตักบีร 5 ครั้ง
8 – อ่านฟาติหะฮฺและซูเราะฮฺดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว
9 - หลังจากนั้นก็รุกุอฺ เงยจากรุกุอฺ สุหยูด นั่งระหว่างสองสุหยูด และสุหยูด จนจบการ ละหมาด