ภรรยาไม่ยอมร่วมหลับนอนด้วย สามีมุสลิมควรจ่ายค่าเลี้ยงดูหรือไม่?


10,589 ผู้ชม

ภรรยาไม่ยอมร่วมหลับนอนด้วย สามีมุสลิมควรจ่ายค่าเลี้ยงดูหรือไม่?


ภรรยาไม่ยอมร่วมหลับนอนด้วย สามีมุสลิมควรจ่ายค่าเลี้ยงดูหรือไม่?

เมื่อภรรยาประพฤติไม่ดีหรือขัดขืนสามี(ไม่ยอมร่วมหลับนอน) ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูแก่นางนอกจากว่านางได้ตั้งครรภ์

ท่านนบีมุหัมมัดกล่าวไว้ว่า:  "เมื่อสามีเรียกภรรยาของเขามายังที่นอน (หมายถึง การเชิญชวนมาสู่การมีเพศสัมพันธ์) แต่นางปฏิเสธ (ความต้องการของสามี) ซึ่งทำให้เขานอนหลับในสภาพที่โกรธ (นาง) เช่นนี้แหละมลาอิกะฮฺ (ทูตสวรรค์) ได้สาปแช่งนางจนกระทั่งถึงรุ่งเช้า" (บันทึกโดยมุสลิม ลำดับหะดีษที่ 2536)

จากหะดีษข้างต้นสรุปได้ว่า ไม่อนุญาตให้ภรรยาขัดขืนความต้องการของสามีว่าด้วยเรื่องเพศ  แต่ทว่าในกรณีที่ถามว่า หากสามีมีความต้องการทางเพศทุกวัน แล้วก็เรียกภรรยาให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยทุกวัน นั่นก็แสดงให้เห็นว่าสามีมีความต้องการทางเพศสูง เมื่อเป็นเช่นนั้นต้องสอบถามภรรยาว่า พอใจหรือสามารถจะมีเพศสัมพันธ์กับสามีของนางทุกวันหรือไม่? หากมีความพอใจและสามารถกระทำได้ก็ถือว่าผ่านไม่เป็นไร

แต่ถ้านางไม่พอใจเพราะสามีมีความต้องการเพศสูงเช่นนี้ก็มีทางออกหลายทางออก  เช่นพูดคุยกับสามีว่าให้ช่วยลดการมีเพศสัมพันธ์ลงบ้างโดยให้เขาถือศีลอดสุนนะฮฺให้มากๆ หรือแนะนำให้สามีไปแต่งงานกับภรรยาคนที่สองต่อไป หรือตัวนางขอยกเลิกการแต่งงานกับสามีคนดั่งกล่าวเพราะไม่สามารถสนองความต้องการของสามีได้ทุกวันนั่นเอง

 ภรรยาไม่ยอมร่วมหลับนอนด้วย สามีมุสลิมควรจ่ายค่าเลี้ยงดูหรือไม่?

ถ้าภรรยามีความต้องการบ้างจะทำให้สามีได้ไหม?

ถ้าภรรยามีความต้องการสูงถึงขนาดที่ว่านางต้องการมีเพศสัมพันธ์ทุกวัน เช่นนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าสามีสามารถตอบสนองความต้องการให้แก่นางได้หรือไม่  หากสามีตอบสนองสิ่งดังกล่าวได้ ก็ไม่เป็นไร  ก็ยังคงอยู่ด้วยกันได้ แต่ถ้าสามีไม่สามารถตอบสนองได้ เช่นนี้ก็ต้องคุยกับนางว่าต้องให้ลดปริมาณการมีเพศสัมพันธ์ เช่นให้นางถือศีลอดสุนนะฮฺมากๆ เป็นต้น

หากสามีไม่มีความสามารถตอบสนองให้แก่นางได้จริงๆ เช่นนี้ก็ต้องหย่านางให้เป็นอิสระ แต่แนะนำว่าเรื่องการหย่านางขอให้เป็นทางเลือกสุดท้าย  เพราะกรณีข้างต้นหากแก้ปัญหาด้วยการหย่า เป็นไปได้ว่านางอาจจะไปทำซินาอย่างแน่นอน เช่นนั้นจึงต้องพยายามหาทางแก้ไขอื่น โดยหลีกเลี่ยงการหย่าจะถือว่าประเสริฐยิ่ง

มุสลิมะฮ์ในอุดมคติ (พอสังเขป)

1. เธอตระหนักในหน้าที่ที่มีต่อตัวเธอเอง เธอเข้าใจว่าเธอคือมนุษย์ที่ประกอบด้วยร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณ ซึ่งแต่ละส่วนต่างมีความต้องการและข้อผูกพันของตัวเอง ดังนั้น เธอจึงพยายามที่จะรักษาสมดุลระหว่างกาย จิต และวิญญาณ เธอจึงไม่มุ่งเพียงด้านใดด้านหนึ่งแล้วทำให้ส่วนที่เหลือเสียหายโดยใช้อิสลามเป็นทางนำที่มีรากฐานจากอัล-กุรอ่านและซุนนะฮ์ที่ท่านร่อซู้ล (ศ.ล.) ได้ให้ไว้เป็นแบบฉบับ

2. เธอเอาใจใส่ดูแลรูปร่างภายนอกโดยไม่ได้ใส่ใจอยู่กับการอวดโฉมแต่มุ่งให้ความสำคัญกับคุณค่าภายในเพื่อสร้างความมีสมดุลย์ทั้งทางด้านร่างกายและความคิด ความมีเหตุผลและพฤติกรรมทั้งหลาย เธอจะไม่ยอมให้ร่างกายและจิตใจห่างเหินไปจากมิติทางจิตวิญญาณ เธออุทิศทุ่มเทให้กับการพัฒนาทางจิตวิญญาณและชำระล้างผ่านการละหมาด การซิเกร และการอ่านอัล-กุรอ่าน เพื่อรักษาบุคลิกภาพที่ดีของความเป็นมุสลิมะฮ์

3. เธอปฏิบัติต่อพ่อ-แม่ด้วยความเมตตาอ่อนโยนและความเคารพ เธอรู้ดีถึงสถานภาพของตัวเองและหน้าที่ที่เธอจะต้องปฏิบัติต่อท่านทั้งสอง เธอให้การเชื่อฟัง ให้ความเคารพและให้ความรักเอาใจใส่ท่านทั้งสองอย่างเต็มที่

4. เธอคือภรรยาในอุดมคติของสามี ที่มีความเฉลียวฉลาด ให้ความเคารพ เชื่อฟังในสิ่งที่ดี อดทน และให้ความรักและสิ่งที่สามีพึงพอใจ รวมถึงการให้เกียรติต่อครอบครัวและญาติฝ่ายสามี เธอปกปิดความลับ และให้การช่วยเหลือแก่เขาสู่แนวทางที่ดีงาม เกรงกลัวต่ออัลลอฮ (ซ.บ.) เธอเติมเต็มหัวใจของเขาด้วยความสุข สงบ และชุ่มชื่นใจ

5. เธอเอาใจใส่ต่อเพื่อนบ้าน และปฏิบัติดีต่อพวกเขา เธอตระหนักดีถึงสิทธิของเพื่อนบ้านที่มีต่อเธอ ดังที่ท่านญิบรีลได้ย้ำเน้นอย่างหนักแน่นต่อท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ.ล.) ให้ปฎิบัติต่อเพื่อนบ้านเหมือนดั่งคนในครอบครัว ดังนั้น เธอจึงอยากให้เพื่อนได้รับสิ่งดีงามดั่งเช่นที่เธอปรารถนาอยากจะได้รับเช่นกัน เธอจึงรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา และละเลยไม่ใส่ใจในข้อบกพร่องหรือความผิดที่อาจจะทำให้เพื่อนบ้านรู้สึกอับอาย

6. เธอให้ความสุภาพอ่อนน้อมต่อผู้อื่น และคอยต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของผู้อื่นและปกป้องอันตรายที่อาจเกิดแก่ผู้อื่น คอยช่วยเหลือผู้ที่กำลังประสบกับความเดือดร้อน ไม่เคยเป็นผู้ที่มีแต่ความอิจฉาริษยาหรือหยิ่งผยอง แต่เป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนเข้าคนได้ง่าย ร่าเริง ทำให้คนที่อยู่ใกล้มีแต่ความสุขอยู่เสมอ และแต่งตัวด้วยความสุภาพเรียบร้อยตามหลักการอิสลาม

7. เธอสนใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อสังคมมุสลิม ให้เกียรติแก่แขก เอาใจใส่ผู้อื่นมากกว่าตัวเอง หมั่นตรวจสอบนิสัยและพฤติกรรมของเธออยู่เสมอว่าว่ายังอยู่ในกรอบหรือออกนอกลู่นอกรอยอิสลามมากน้อยเพียงใด เธอให้เกียรติผู้อาวุโส ไม่มองไปยังบ้านผู้อื่นนอกจากบ้านของตัวเอง เธอะเลือกงานที่เหมาะสมกับลักษณะความเป็นผู้หญิง และไม่เลียนแบบผู้ชาย

8. เธอเรียกร้องเชิญชวนผู้อื่นสู่สัจธรรม หมั่นเพียรปฏิบัติแต่ความดีและละเว้นความชั่ว เธอเผยแพร่เชิญชวนด้วยความฉลาดหลักแหลม เธอคบหาแต่หญิงที่ดี และไม่รีรอที่จะช่วยให้คนคืนดีกัน เธอเยี่ยมเยียนคนป่วยตามหลักคำสอนของอิสลาม

ข้อมูลดังกล่าว เป็นเพียงบางส่วน ในเรื่อง สิทธิของภรรยา อิสลาม เท่านั้น ทั้งนี้ ควรศึกษาและสอบถามจากนักวิชาการศาสนา ในเรื่อง ครอบครัว อย่างละเอียดอีกด้วย

ที่มา: www.halalthailand.comwww.halalbangkok.com

อัพเดทล่าสุด