ท่านอนที่อัลลอฮฺไม่ชอบ


29,437 ผู้ชม

ท่านอนที่อัลลอฮฺไม่ชอบ อิสลมสอน มารยาทในการนอน อย่างไร...


ท่านอนที่อัลลอฮฺไม่ชอบ

ท่านรอซูลุลลอฮฺ (ซ.ล.) ได้ห้ามการนอนคว่ำ ไว้ในหลายหะดีษด้วยกัน ซึ่งเป็นการห้ามในลักษณะของมักรูฮฺ (ไม่ชอบให้กระทำ) ไม่ใช่การห้ามที่ หมายถึง หะรอม (ห้ามกระทำโดยเด็ดขาด)

ท่านฏิคฟะฮฺ อัลฆิฟารีย์ رضي الله عنه กล่าวว่า : ขณะที่ฉันนอนเอกเขนกอยู่ในมัสยิดโดยนอนทับท้อง (นอนคว่ำ) ก็มีชายคนหนึ่งมาสกิดฉันด้วยขาของเขา แล้วกล่าวว่า : “ท่านอนนี้เป็นท่าที่อัลลอฮฺทรงกริ้ว” ชายผู้นั้นคือ ท่านรอซูลุลลอฮฺ (ซ.ล.)

(หะดีษบันทึกโดยอิมาม อบูดาวูด ด้วยสายรายงานที่ซอเฮียะห์)

อีกรายงานหนึ่ง ระบุว่า : 

هَذِهِ ضَجْعَةُ الشَّيْطَانِ  

“นี่คือท่านอนของชัยฏอน”

อีกหะดีษซึ่งรายงานโดย ท่านอบูหุรอยเราะห์ رضي الله عنه บันทึกอยู่ในสุนันอัตติรมีซีย์ ระบุว่า:

 إن هذا ضجعة لا يحبها الله

“แท้จริงแล้ว ท่านอนนี้เป็นท่าที่อัลลอฮฺไม่พอพระทัย”

และในหะดีษของอบูซัร رضي الله عنه ในบันทึกของอิมาม อิบนิ มาญะฮฺ ระบุว่า

“ แท้จริงแล้ว มันคือท่านอนของชาวนรก ”

ในหนังสือ “มุฆนีย์ อัลมุฮฺตาจ” เชค อัชชิรบีนีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ ระบุว่า ชอบให้ปลุกคนที่นอนคว่ำ (โดยเจตนา) ให้ตื่น เพราะเป็นท่าที่อัลลอฮฺทรงกริ้ว ดังกล่าวเป็นการสนับสนุนว่า การนอนคว่ำเป็นท่านอนที่รับทราบโดยทั่วกันว่า “มักรูฮฺ” (น่ารังเกียจ ไม่ชอบให้กระทำ)

อนึ่ง ผู้ที่หลับไปโดยไม่ได้เจตนานอนคว่ำตั้งแต่ต้น แล้วพบว่า ภายหลังตนนอนคว่ำอยู่นั้นก็ถือว่า ไม่เป็นไร เพราะคนนอนหลับสนิทจะไม่ถูกนับเอาความผิดจนกระทั่งเขาตื่น เช่นเดียวกับผู้ป่วย หากมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาโดยการนอนคว่ำ ก็ไม่ถือเป็นความผิดแต่ประการใด เพราะเข้าอยู่ในขอบข่ายที่ว่า “ความจำเป็น (ฎ่อรูเราะห์) สามารถทำให้ข้อจำกัดทางศาสนาเป็นที่อนุมัติ”

อิสลมสอน มารยาทในการนอน อย่างไร 

1. ก่อนนอนซุนนะฮฺให้อาบน้ำมะหมาดเหมือนการอาบน้ำละหมาดเพื่อละหมาด (หะดีษรายงานโดยบุคอรี, มุสลิม)

2. ซุนนะฮฺให้สะบัดเครื่องนอน ปัดกวาดที่นอนก่อนที่จะปูมัน (หะดีษรายงานโดยบุคอรี)

3. ก่อนนอนจงตรวจเช็คตัวเองว่าได้ทำอามัลความดีอะไรบ้างในรอบวันที่ผ่านมาเพื่อปรับปรุงตนเองในวันต่อไป (หะดีษรายงานโดยอุมัรฺ, บิน ค็อฎฏ็อบ)

4. ก่อนนอนให้เนียตว่าจะตื่นขึ้นมาละหมาดตะฮัจญุด และให้ปลุกคนในครอบครัวให้ตื่นขึ้นละหมาดด้วย (หะดีษรายงานโดยบุคอรี, มุสลิม, อบูดาวูด)

5. รรอซูลุลลอฮฺนอนโดยใช้หมอน หมอนของท่านรอซูลทำด้วยหนังบรรจุใบอินทผาลัมและเสื่อของท่านก็ทำด้วยหนัง เมื่อถึงฤดูหนาวท่านจะพับเป็นทบบาง ๆ หากเป็นฤดูร้อนท่านก็จะพับให้มันหนาขึ้น (หะดีษรายงานโดยติรฺมีซี)

ท่านอนที่อัลลอฮฺไม่ชอบ

6. ท่านอนแบบซุนนะฮฺคือนอนข้างขวาหันไปทางกิบลัตมือขวารองใต้แก้มขวา (หะดีษรายงานโดยบุคอรี, มุสลิม, ติรฺมีซี)

7. สามารถนอนหงายโดยใช้เท้าข้างหนึ่งวางบนเท้าอีกข้างหนึ่งได้ (หะดีษรายงานโดยบุคอรี, มุสลิม)

8. ทางที่ดีแล้วทั้งผู้หญิงและผู้ชายควรรักษาการเอาเราะฮฺแม้จะอยู่บนเตียงนอนของตนเอง (หลักฐานจากอัลกุรฺอานุลการีม, หะดีษรายงานโดยติรฺมีซี, นาซาอี) สนับสนุนให้ผู้หญิงใช้ห่มผ้าเวลานอน

9. ห้ามผู้หญิงและผู้ชายนอนกับเพศเดียวกันในผ่าห่มผืนเดียวกัน (หะดีษรายงานโดยมุสลิม)

10. ควรแยกที่นอนระหว่างลูกหญิงและลูกชายเมื่อเธอมีอายุ 6 ขวบ (หะดีษรายงานโดยอบูดาวุด, ติรฺมีซี)

11. ก่อนนอนควรนำของมีคมออกห่างจากที่นอนเช่น มีด ดาบ กริช หรืออื่น ๆ

12. หากฝันร้านอย่าเล่าให้ ใครฟัง หากฝันดีซุนนะฮฺให้เล่าสู่กันฟังกับคนที่ไว้ใจ (หะดีษรายงานโยบุคอรี)

ข้อห้ามในการนอน 

1. อย่านอนคว่ำ เพราะเป็นท่านอนที่อัลลอฮฺไม่ชอบ (หะดีษรายงานโดยอบูดาวูด, ติรฺมีซี)

2. อย่านอนโดยยื่นเท้าไปทางกิบลัต

3. อย่านอนใต้ผ้าห่มโดยไม่ได้สวมเสื้อผ้าอยู่ด้วย (หะดีษรายงานโดยมุสลิม)

ท่านอนที่อัลลอฮฺไม่ชอบ

ซูเราะห์อัลฟะลัก

สิ่งที่ควรอ่านก่อนนอน

1. อ่านซูเราะฮฺ อัลอิคลาส, อัลฟะลัก, อันนาส จากนั้นเป่าลงในมือแล้วใช้ลูบทั่วร่างกาย ทำเช่นนี้ 3 ครั้ง (หะดีษรายงานโดยบุคอรี, มุสลิม, ติรฺมีซี, นาซาอี)

2. อ่านซูเราะฮฺอัลกาฟีรูน ผู้ใดอ่านซูเราะฮฺนี้ก่อนนอนจะห่างไกลจากลักษณะแห่งการซีริก (หะดีษรายงานโดยฏ็อบรอนี, อบูดาวูด, นาซาอี)

3. อ่านซูเราะฮฺอัลมุลกิ  ผู้ใดอ่านซูเราะฮฺนี้อัลลอฮฺจะให้รอดพ้นจากการลงโทษในหลุมฝังศพ (หะดีษรายงานโดยนาซาอี)

4. านซูเราะฮฺอัลวากิอะฮฺ  ผู้ใดอ่านซูเราะฮฺนี้ทุกๆ คืนอัลลอฮฺจะให้รอดพ้นจากการอดอยากหิวโหย (ดีษรายงานโดยบัยฮะกี)

5. านซูเราะฮฺยาซีน ผู้ใดอ่านซูเราะฮฺยาซีน บาปของเขาจะได้รับการอภัย ได้รับการปกป้องคุ้มครองโดยมาลาอีกะฮฺและชัยฏอนจะไม่เข้าใกล้ (หะดีษรายงานโดยอิบนุหิบบาน)

6. อ่านอิสติฆฟารฺให้มากๆ อย่างน้อยที่สุด 3 ครั้ง (หะดีษรายงานโดยติรฺมีซี)

7. อ่านอายะฮฺจากอัลกุรอานประมาณ 10 อายะฮฺ ก่อนนอนในยามค่ำคืน  ผู้ใดที่อ่านอัลกุรอานในยามค่ำคืนแล้วเขาเสียชีวิตไป  ดังนั้นเขาไม่ถูกบันทึกให้อยู่ในหมู่ผู้หลงลืม  (หะดีษรายงานโดยติรฺมีซี)

8. อ่านซัยยิดุลอิสติฆฟารฺ (หัวหน้าของดุอาอฺแห่งการขออภัยโทษ) ก่อนนอน คือให้อ่านว่า

“อัลลอฮุมมะอันตะร็อบบี ลาอิลาฮาอิลลาอันตา เคาะลักตะนี วะอะนะอับดุกา วะอะลาอะฮฺดิกะ วะวะอฺดิกะ  มัสตะเฏาะอฺตถ อะอูซุบิกะมินชัรฺริมาศอนะอฺตุ อะบูอุละกะ บินิอฺมะติกะอะลัยยา วะอะบูอุบิซัมบี ฟัฆฟิรฺลี ฟะอินนะฮู ลายัฆฟิรุซซุนูบะอิลลาอันตา”

ผู้ใดอ่านมันก่อนนอนแล้ว เขาก็เสียชีวิตลงแน่แท้เขาจะเข้าสวรรค์ (หะดิษรายงานโดยบุคอรี)

9. อ่านตัสเบี๊ยะหฺฟาตีมะฮฺ คือ สุบฮานัลลอฮฺ 3 ครั้ง อัลหัมดุลิลลาฮฺ 3 ครั้ง  อัลลอฮูอัคบัรฺ 3 ครั้ง  ผู้ใดที่อ่านสิ่งนี้จะตึ่นขึ่นมาในสภาพที่สดใสปลอดโปร่ง (หะดีษรายงานโดยมุสลิม)

10. อ่านดุอาอฺก่อนนอน “อัลลอฮถมมะบิสมิกะ อะมูตุ วะอะหฺยา” (หะดีษรายงานโดยบุคอรี, มุสลิม, นาซาอี, อิบนุมาญะฮฺ)

11. หากตกใจตื่นเนื่องจากฝันร้าย ให้กล่าวว่า “อะอูซถบิลลาฮิมินัชชัยฏอนิรฺรอญิม” หลังจากนั้นทำท่าถมน้ำลายไปข้างซ้าย 3 ครั้ง  (หะดิษรายงานโดยบุคอรี)  หากทำสามครั้งแล้วยังฝันร้ายอยู่ก็ให้ย้ายที่นอน และพลิกหมอนเสีย

12. หากฝันดีซุนนะฮฺ ให้กล่าวว่า “อัลหัมดุลิลลาฮฺ” (หะดิษรายงานโดยบุคอรี)

อัพเดทล่าสุด