การอาบน้ำวาญิบ เป็นการอาบน้ำตามข้อบัญญัติของศาสนาเนื่องจากเหตุ ดังต่อไปนี้คือ
ไม่อาบน้ำวาญิบละหมาดได้ไหม?
การอาบน้ำวาญิบ เป็นการอาบน้ำตามข้อบัญญัติของศาสนาเนื่องจากเหตุ ดังต่อไปนี้คือ
1. เหตุที่เป็นวาญิบ อันได้แก่ การหลั่งอสุจิ, การมีเพศสัมพันธ์, หมดประจำเดือน, หมดน้ำคาวปลา เพราะเมื่อมีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นก็ไม่สามารถ ละหมาด, ฎอวาฟ, เอียะติกาฟ อ่านอัลกุรอ่านได้ เพราะฉะนั้นบางคนจึงเรียกการอาบน้ำ เนื่องจากเหตุดังกล่าวว่า การอาบน้ำญะนาบะห์ หรือที่เรียกว่า اَلْغُسْلُ ( อัลฆุสลุ )
2. เหตุที่เป็นซุนนะห์ อันได้แก่ ก่อนละหมาดวันศุกร์, ก่อนละหมาดอีดทั้งสอง, ก่อนการครองเอียะห์รอม, หลังการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง,หลังจากอาบน้ำมัยยิต,หลังการเข้ารับอิสลาม และหลังจากเป็นลมหมดสติ ซึ่งเรามักจะเรียกการอาบน้ำจากเหตุดังกล่าวนี้ว่า การอาบน้ำซุนนะห์
และไม่ว่าการอาบน้ำนี้จะมีเหตุมาจากวาญิบ หรือซุนนะห์ ก็ตาม แต่ก็เป็นการอาบตามคำสั่งใช้และคำสั่งสนับสนุนของศาสนา ดังนั้นจึงมีวิธีการอาบโดยเฉพาะ
วิธีการอาบน้ำวาญิบ มีดังนี้
1. กล่าว บิสมิ้ลลาห์ และล้างมือทั้งสองข้าง
2. ใช้มือซ้ายล้างอวัยวะเพศให้เกลี้ยง
3. อาบน้ำละหมาดโดยยังไม่ต้องล้างเท้า
4. เอาน้ำราดศีรษะ 3 ครั้ง และขยี้ให้ทั่วถึงรากผม
5. เอาน้ำราดตัวโดยเริ่มจากทางขวาก่อนต่อมาเอาน้ำราดตัวทางด้านซ้าย
6. ชำระล้างร่างกายให้ทั่วโดยเพราะตามซอก เช่น ใบหู,สะดือ,ซอกนิ้วมือนิ้วเท้า
7. ขยับออกจากที่เดิมเล็กน้อย ล้างเท้าขวา 3 ครั้ง และล้างเท้าซ้าย 3 ครั้ง
การอาบน้ำวาญิบหรืออาบน้ำซุนนะห์ มีวิธีอาบเหมือนกัน แต่เหตุของการอาบต่างกันเท่านั้นเอง และเมื่อเสร็จสิ้นการอาบน้ำญะนาบะห์แล้วก็ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำละหมาดอีก ถือว่าเขามีน้ำละหมาดแล้ว ดังมี
รายงานจากท่านหญิงอาอิชะห์ว่า
كَانَ رَسُوْلُ اللهِ صَلىَ اللهُ عَليْهِ وَسَلَّمَ لاَ يَتَوَضَّأُ بَعْدَ الْغُسْل
“ท่านรอซูลไม่ได้อาบน้ำละหมาดอีกหลังจากอาบน้ำญะนาบะห์” บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม
สรุป ไม่อาบน้ำวาญิบละหมาดไม่ได้ แต่ถือศีลอดได้
กรณีผู้ถือศีลอดมีญุนุบ อันเนื่องจากมีเพศสัมพันธุ์ แล้วอาบน้ำยกหะดัษหลังละหมาดศุบฮฺ หรือมีญุนุบแต่ตื่นขึ้นมาภายหลังเวลาละหมาดศุบฮฺแล้ว การถือศิลอดของเขาใช้ได้ ให้เขาถือศิลอดต่อไปตามปกติ
รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ และท่านอุมมุสะละมะฮฺ เล่าว่า
ความว่า : "ปรากฏว่าเข้าเวลาละหมาดศุบฮฺ ในสภาพที่ท่านรสูล มีญุนุบอันเนื่องจาก(ร่วมลับนอน)กับภรรยาของท่าน จากนั้นท่านรสูลก็อาบน้ำ(ยกหะดัษ) แล้วถือศีลอด" (บันทึกโดยบุคอรี หะดิษเลขที่ 1926)
ความว่า : “ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีญุนุบที่ไม่ใช่เกิดจากความฝัน หลังจากนั้นท่านได้อาบน้ำและทำการถือศีลอด” (บันทึกโดยบุคอรี หะดิษเลขที่ 1825 1830)
และสำหรับหญิงหมดประจำเดือน หรือหมดเลือดนิฟาส(เลือดหลังคลอดบุตร) ในช่วงเวลากลางคืนของเดือนรอมฎอน หากนางจะประสงค์จะอาบน้ำยกหะดัษภายหลังเข้าเวลาละหมาดศุบฮฺ ก็สามารถทำได้ และการถือศีลอดของนางในวันนั้นก็ใช้ได้
อนึ่งเมื่อถึงเวลาศุบฮฺ คนที่มีญูนุบนี้วาญิบต้องอาบน้ำยกอาดัสใหญ่ก่อนทำละหมาด ทั้งนี้เนื่องจากว่า การละหมาดทั้งที่มีญูนุบนั้นใช้ไม่ได้ เเต่อนุญาตให้ถือศีลอดได้ ญูนุบที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาหรือเนื่องจากฝันเปียกไม่ทำให้การถือศีลอดที่บุคคลคนหนึ่งจะทำในวันนั้นเป็นโมฆะ
ที่มา: www.daasee.com , แสวงหาสัจธรรมจากอิสลาม