ทำไมสวนสวรรค์ถึงอยู่ใต้ฝ่าเท้ามารดา มีบ้างมั้ยลูกสักคนที่เสียสละเพื่อแม่เหมือนที่เเม่เสียสละเพื่อลูก?
ทำไมสวนสวรรค์ถึงอยู่ใต้ฝ่าเท้ามารดา
-มีบ้างมั้ยลูกสักคนที่เสียสละเพื่อแม่เหมือนที่เเม่เสียสละเพื่อลูก?
-แม่ยอมเจ็บเกือบตายตอนคลอดลูก มีบ้างมั้ยลูกสักคนที่ยอมเจ็บเกือบตายเพื่อเเม่?
-แม่อดหลับอดนอนตลอดทั้งคืนเพื่อดูลูกให้หลับสบาย ไม่ให้ลูกร้อง ไม่ให้ยุงตอม ไม่ให้มดกัด ให้กินนมตลอดทั้งคืน มีบ้างมั้ยลูกสักคนที่อดหลับอดนอนตลอดทั้งคืนเพื่อดูแม่ให้หลับสบาย?
-แม่ไม่เคยรังเกียจอุจจาระ ปัสสาวะของลูก เช็ดให้ได้ทุกครั้ง มีบ้างมั้ยลูกสักคนที่ยอมทำให้กับเเม่ขนาดนี้?
-เเม่เจ็บยิ่งกว่า เมื่อเห็นว่าลูกเจ็บและร้องไห้ มีบ้างมั้ยลูกสักคนที่เจ็บมากกว่า เมื่อเห็นว่าแม่เจ็บ?
-แม่ยอมตายเเทนลูกได้ มีบ้างมั้ยลูกสักคนที่ยอมตายเเทนเเม่ได้
-แม่ยอมเสียความสวยงาม ยอมให้เต้านมยาน เพื่อให้ลูกดูดนมจากเต้า เพื่อลูกจะได้เเข็งเเรง มีบ้างมั้ยลูกสักคนที่ยอมเสียสละความสวยงามของร่างกายเพื่อแม่ได้ขนาดนี้?
-แม่ยอมเหนื่อย เพื่อหาเงินเลี้ยงลูกตั้งเเต่เล็กจนกระทั่งลูกโต มีลูกสักกี่คนที่ยอมเลี้ยงเเม่ตั้งเเต่แม่แก่ชราจนถึงแม่ตาย?
-แม่ยอมอดอยาก ยอมหิว เพื่อให้ลูกมีกินอิ่ม มีบ้างมั้ยลูกสักคนที่ยอมหิว เพื่อให้เเม่อิ่ม?
-หากการเลี้ยงลูกคือการทำงาน แม่ก็ต้องทำงานตั้งเเต่ลูกเกิด ทำทุกวันไม่มีวันหยุด ไม่มีวันพัก ไม่มีวันลาป่วย มีเพียงแค่วันลาตาย
ด้วยกับการเสียสละของแม่อย่างมากมายเพื่อลูก ดังนั้น ศาสนาจึงสั่งใช้อย่างมากให้ทำดีต่อมารดาและบิดา และห้ามเนรคุณต่อท่านทั้งสอง
อัลลอฮ์ดำรัสว่า
وَوَصَّيْنَا ٱلْإِنسَٰنَ بِوَٰلِدَيْهِ حَمَلَتْهُ أُمُّهُ وَهْنًا عَلَىٰ وَهْنٍ وَفِصَٰلُهُ فِى عَامَيْنِ أَنِ ٱشْكُرْ لِى وَلِوَٰلِدَيْكَ إِلَىَّ ٱلْمَصِيرُ
"และเราได้สั่งเสียกับมนุษย์เกี่ยวกับบิดามารดาของเขา มารดาของเขาได้อุ้มท้องเขาโดยที่นางต้องอ่อนแอลงครั้งเเล้วครั้งเล่า และการหย่านมของเขา ภายในระยะเวลา2ปี เจ้าจงขอบคุณต่อข้า และจงขอบคุณต่อบิดามารดาของเจ้า ยังข้านั้นคือการกลับไป" (ซูเราะห์ ลุกมาน 14)
وَوَصَّيْنَا ٱلْإِنسَٰنَ بِوَٰلِدَيْهِ إِحْسَٰنًا حَمَلَتْهُ أُمُّهُ كُرْهًا وَوَضَعَتْهُ كُرْهًا وَحَمْلُهُ وَفِصَٰلُهُ ثَلَٰثُونَ شَهْرًا
"และเราได้สั่งเสียผู้คนให้ทำดีต่อบิดามารดาของเขา มารดาของเขาอุ้มท้องเขาโดยที่นางอ่อนแอ และคลอดเขาโดยที่นางเจ็บปวด และการตั้งท้องของเขา และการหย่านมของเขาในระยะเวลา30เดือน" (ซูเราะห์ อัลอะห์กอฟ15)
وَقَضَىٰ رَبُّكَ أَلَّا تَعْبُدُوٓا۟ إِلَّآ إِيَّاهُ وَبِٱلْوَٰلِدَيْنِ إِحْسَٰنًا إِمَّا يَبْلُغَنَّ عِندَكَ ٱلْكِبَرَ أَحَدُهُمَآ أَوْ كِلَاهُمَا فَلَا تَقُل لَّهُمَآ أُفٍّ وَلَا تَنْهَرْهُمَا وَقُل لَّهُمَا قَوْلًا كَرِيمًا* وَٱخْفِضْ لَهُمَا جَنَاحَ ٱلذُّلِّ مِنَ ٱلرَّحْمَةِ وَقُل رَّبِّ ٱرْحَمْهُمَا كَمَا رَبَّيَانِى صَغِيرًا
"และผู้อภิบาลของเจ้าได้บัญชาใช้ให้พวกเจ้าอย่าสักการะสิ่งอื่นใดนอกจากพระองค์ และให้ทำดีต่อบิดามารดา เมื่อคนใดจากทั้งสอง หรือทั้งสอง ได้บรรลุถึงวัยชราอยู่กับเจ้า เจ้าอย่าได้กล่าวกับทั้งสองว่า "อุฟ"(เสียงที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ) และอย่าได้ขู่เข็นท่านทั้งสอง และจงกล่าวกับท่านทั้งสองด้วยกับคำพูดที่ดีงาม* และเจ้าจงนอบน้อมถ่อมตนกับท่านทั้งสองด้วยความเมตตา และเจ้าจงกล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ ได้โปรดเมตตาแก่ท่านทั้งสอง เหมือนดังที่ท่านทั้งสองได้เลี้ยงดูข้าพระองค์เมื่อยังเยาว์วัย" (ซูเราะห์ อัลอิสรออ์23-24)
แม่คือคนที่สมควรทำดีด้วยมากที่สุด
رجلٍ جاء إلى النبي صلى الله عليه وسلم يسأله: "من أحق الناس بصحابتي يا رسول الله؟ قال: «أمك»، قال: ثم من؟ قال: «أمك»، قال: ثم من؟ قال: «أمك»، قال: ثم من؟ قال: «أبوك»"
ชายคนหนึ่งได้มาหาท่านนบี และถามว่า : ใครคือคนที่ฉันสมควรอยู่ร่วมกับเขาอย่างดีที่สุด?
ท่านนบีตอบว่า : คือแม่ของท่าน
เขาถามต่อว่า : หลังจากนั้นคือใคร?
ท่านนบีตอบว่า : คือแม่ของท่าน
เขาถามต่อว่า : หลังจากนั้นคือใคร?
ท่านนบีตอบว่า : คือแม่ของท่าน
เขาถามต่อว่า : หลังจากนั้นคือใคร?
ท่านนบีตอบว่า : คือพ่อของท่าน
(บุคคอรีย์ ฮาดิษเลขที่5971, มุสลิมฮาดิษเลขที่6380)
ไม่มีการทำความดีใดที่ลูกจะตอบเเทนการเลี้ยงดูของแม่ นอกจากแม่เป็นทาส และปล่อยให้เป็นอิสระชน
أَنَّ رَجُلا كَانَ فِي الطَّوَافِ حَامِلا أُمَّهُ يَطُوفُ بِهَا فَسَأَلَ النَّبِيّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيه وَسَلَّم هَلْ أَدَّيْتُ حَقَّهَا؟ قَالَ: لا، ولاَ بِزَفْرَةٍ وَاحِدَةٍ، أَوْ كَمَا قَالَ.
ชายคนหนึ่งได้เดินตอวาฟโดยแบกแม่ไว้บนหลัง แล้วเขาได้ถามท่านนบีว่า : การทำแบบนี้ถือว่าฉันตอบเเทนสิทธิที่นางควรได้รับจากฉันหรือยัง? ท่านนบีตอบว่า : ไม่ ไม่เลย ถึงแม้จะเพียงเท่ากับลมหายใจตอนที่นางเบ่งคลอดลูกของนางหนึ่งครั้งก็ตาม
(มุสนัดอัลบัซซาร ฮาดิษเลขที่4380, และสำนวนใกล้เคียงกันใน อัลอาดับอัลมุฟร๊อด ฮาดิษเลขที่11)
ท่านนบี ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
لَا يَجْزِى وَلَدُ وَالِدَهُ إِلَّا أَنْ يَجِدَهُ مَمْلُوكًا فيشتَريَه فيعتقه
"ลูกไม่สามารถทำความดีตอบแทนพ่อ(และแม่)ได้เลย นอกจากว่าเขาพบว่าพ่อแม่ของเขาตกเป็นทาส แล้วเขาก็ซื้อท่านทั้งสอง และปล่อยทั้งสองให้เป็นอิสระ" (อัลอาดับอัลมุฟร๊อด เลขที่10)
สวนสวรรค์อยู่ใต้ฝ่าเท้าของมารดา
الرجل الذي جاء إلى النبي صلى الله عليه وسلم فقال: "يا رسول الله أردت أن أغزو، وقد جئت أستشيرك، فقال: «هل لك من أم؟» قال: نعم، قال: «فالزمها فإن الجنة تحت رجليها»"
ชายคนหนึ่งได้มาหาท่านนบี และกล่าวว่า : โอ้รอซูลุ้ลลอฮ์ ฉันต้องการออกไปทำสงคราม และฉันมาในครั้งนี้เพื่อปรึกษาท่าน ท่านนบีถามเขาว่า : แม่ของท่านยังมีชีวิตอยู่กับท่านมั้ย? เขาตอบว่า : ยังมีอยู่คับ
ท่านนบีจึงกล่าวว่า : ถ้าเช่นนั้นเจ้าจงอยู่ดูแลนาง เพราะสวรรค์อยู่ใต้ฝ่าเท้าของนาง
(สุนันนาซาอีย์ ฮาดิษเลขที่3104)
وَقَالَ صلى الله عَلَيْهِ وَسلم : الْجنَّة تَحت أَقْدَام الْأُمَّهَات
ท่านนบีกล่าวว่า : สวนสวรรค์อยู่ใต้ฝ่าเท้าของมารดา
(กีตาบุ้ลกาบาเอร อีหม่ามซาฮาบีย์ หน้า43)
คนมากมายต้องเข้านรกเพราะเนรคุณต่อบิดามารดา
ท่านนบี ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
رَغِمَ أنْفُه رَغِمَ أنْفُه رَغِمَ أنْفُه قَالُوا يَا رَسُولَ اللَّهِ مَنْ؟ قَالَ: مَنْ أَدْرَكَ وَالِدَيْهِ عنده الكبر أو أحدهما فدخل النار
"ช่างต่ำต้อยเหลือเกิน ช่างต่ำต้อยเหลือเกิน ช่างต่ำต้อยเหลือเกิน บรรดาซอฮาบะห์จึงพากันถามว่า : เขาคนนั้นคือใครกัน ท่านนบีตอบว่า : คือบุุคลที่ได้อยู่ร่วมกับบิดามารดาจนท่านทั้งสองถึงวัยชรา หรือคนใดจากทั้งสอง แต่เขากลับต้องเข้านรก" (อัลอาดับอัลมุฟร็อด ฮาดิษเลขที่21)
คนที่เนรคุณต่อบิดามารดาจะถูกลงโทษตั้งเเต่ในโลกดุนยา
وَقَالَ صلى الله عَلَيْهِ وَسلم كل الذُّنُوب يُؤَخر الله مِنْهَا مَا شَاءَ إِلَى يَوْم الْقِيَامَة إِلَّا عقوق الْوَالِدين فَإِنَّهُ يعجل لصَاحبه يَعْنِي الْعقُوبَة فِي الدُّنْيَا قبل يَوْم الْقِيَامَة
"ทุกๆความผิด อัลลอฮ์จะประวิงเวลาการลงโทษไว้ในวันกิยามะห์ นอกจากการเนรคุณต่อบิดามารดา ที่พระองค์จะรีบลงโทษเขาตั้งเเต่อยู่ในโลกดุนยา" (กีตาบุ้ลกาบาเอร อีหม่ามซาฮาบีย์ หน้าที่41)
การเนรคุณค่อบิดามารดาเป็นบาปใหญ่
ويروى أَنه إِذا دفن عَاق وَالِديهِ عصره الْقَبْر حَتَّى تخْتَلف فِيهِ أضلاعه وَأَشد النَّاس عذَابا يَوْم الْقِيَامَة ثَلَاثَة الْمُشرك وَالزَّانِي والعاق لوَالِديهِ
มีรายงานว่า เมื่อคนที่เนรคุณต่อบิดามารดาถูกฝังลงสู่หลุมกุโบร กุโบรจะบีบอัดเขา จนกระทั่งกระดูกซี่โครงของเขาประสานเข้าหากัน และมนุษย์ที่โดนลงโทษรุนเเรงมากที่สุดในวันกิยามะห์มี3บุคคล คือ คนที่ทำชีริกต่ออัลลอฮ์ คนที่ทำซินา และคนที่เนรคุณต่อบิดามารดา
وَقَالَ بشر : مَا من رجل يقرب من أمه حَيْثُ يسمع كَلَامهَا إِلَّا كَانَ أفضل من الَّذِي يضْرب بِسَيْفِهِ فِي سَبِيل الله وَالنَّظَر إِلَيْهَا أفضل من كل شَيْء
"ท่านบิชร์กล่าวว่า : ไม่มีชายคนใดที่เขาขยับเข้าใกล้มารดาของเขา เพื่อให้ได้ยินเสียงคำพูดของนาง เว้นเเต่ว่าเขาจะเป็นบุคคลที่ดีเลิศยิ่งกว่าคนที่ใช้ดาบต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์ และการมองดูมารดาของเขาด้วยความรัก ดีเลิศยิ่งกว่าสิ่งใด"
(กีตาบุ้ลกาบาเอร อีหม่ามซาฮาบีย์ หน้า43)
จงระวังการทำให้พ่อแม่เสียใจให้มากมาก เพราะมันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเข้านรก และจงพยายามทำให้พ่อแม่พอใจให้มาก เพราะมันอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่เขาได้เข้าสวนสวรรค์
โดย Nut Radinghin / อิสลามตามอุลามาอฺแบบฉบับนบี
