อย่าให้ฮิญาบปกคลุมแค่เพียงร่างกาย แต่ให้ฮิญาบคลุมถึงหัวใจสตรีผู้ศรัทธา


1,810 ผู้ชม

ฮิญาบ คือสัญลักษณ์แห่งความนอบน้อมถ่อมตนที่รวมไปถึงท่วงท่าการเดิน การพูดจา มุมมองและวิธีคิดของคุณ


ฮิญาบ คือสัญลักษณ์แห่งความนอบน้อมถ่อมตนที่รวมไปถึงท่วงท่าการเดิน การพูดจา มุมมองและวิธีคิดของคุณ และการนอบน้อมเช่นนี้ไม่ได้ถูกบัญญัติให้กับสตรีเพียงอย่างเดียวแต่อิสลามยังกำชับครอบคลุมไปถึงบุรุษด้วยเช่นกัน อัลลอฮได้ทรงบัญญัติในอัลกุรอานว่าให้บุรุษลดสายตาลงต่ำและปกป้องอวัยวะเพศของตนก่อนที่พระองค์จะทรงบัญญัติหลักการดังกล่าวให้กับสตรีเพศเสียด้วยซ้ำ ทั้งชายและหญิงต่างก็ต้องรับผิดชอบการกระทำของตนและพึงประพฤติปฏิบัติในกรอบของศาสนา ทั้งสองต่างก็ต้องให้เกียรติต่อกันทั้งสิ้น

อย่าให้ฮิญาบปกคลุมแค่เพียงร่างกาย แต่ให้ฮิญาบคลุมถึงหัวใจสตรีผู้ศรัทธา

คลุมฮิญาบ แล้วใส่เสื้อแขนสั้น...

ทำไมต้องแต่งกายให้เป็นจุดเด่น....ดึงดูดสายตา
ให้เหล่าผู้ชายที่จ้องมองมา ทำซินาด้วยสายตา

เธอทั้งหลาย ทำแบบนั้น กับอิสลามได้ยังไง !!
คลุมทั้งที ขอให้คลุมที่หัวใจด้วย
อย่าเป็นอิสลามแค่บัตรประชาชนเลย
อิสลามคือทุกอย่างในชีวิตของมุสลิม

หรือว่าศาสนาไม่ได้ซึมลงไปสู่หัวใจของเธอเลยหรือไร
อย่าเอาอารมณ์ลุ่มหลงของดุนยามาเป็นใหญ่
จนลืมอาคิเราะห์ไปแล้วหรือไร พี่น้องมุสลิมมะห์เอ๋ย...
ลืมไปแล้วหรือว่า เอาเราะห์นั้น เปิดได้แค่ไหน...

หลงทางกับความสวยงามที่เป็นแฟชั่น
อวดความงามกับเสื้อผ้าโชว์รูปร่าง..สะดุดตา

เสียใจทุกครั้ง ที่เห็นมุสลิมมะห์ปฏิบัติตนเช่นนั้น
เธอลืมไปแล้วหรือว่า ศาสนาให้ทำตนเช่นไร

แค่เพียงเธอเดินออกจากที่พัก...
เธอก็เป็น 1 ในตัวแทนของอิสลามแล้ว

วันนี้เราจะมาพูดถึงฮิญาบหรืออาภรณ์ที่ผู้หญิงเราสวมใส่เพื่อปกปิดศีรษะ เพื่อให้คุณได้เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่ต้องเจอในเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างเข้าใจและมีกำลังใจต่อไป

อย่าให้ฮิญาบปกคลุมแค่เพียงร่างกาย แต่ให้ฮิญาบคลุมถึงหัวใจสตรีผู้ศรัทธา

1. บางคนอาจเดินออกไปจากชีวิตคุณ

บางครั้งชีวิตคนเรามันก็มีให้เลือกแค่ทางเดียว การเปลี่ยนแปลงของคุณอาจทำให้คนรอบข้างบางคนรู้สึกไม่สบายใจหรือรับไม่ได้กับตัวตนใหม่ของคุณ เขาอาจไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องทำตัวแตกต่าง และที่ยิ่งเจ็บปวดกว่านั้นคือคนที่ปลีกตัวไปจากคุณอาจเป็นคนที่คุณคิดว่าเขาจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ คุณอาจพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์ให้กลับมาเหมือนเดิมแต่ก็ไม่สำเร็จ คุณนึกไม่ออกจริงๆ ว่าคุณทำผิดตรงไหน คุณพยายามโทรไปง้อ ส่งข้อความไปถามไถ่ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเฉยชา จนสุดท้ายคุณเริ่มเข้าใจว่ามันคงไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว สิ่งเหล่านี้มันอาจทำให้คุณเจ็บปวดหัวใจ แม้บางครั้งคุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มทำใจได้แล้ว แต่พอนึกถึงมันเมื่อไหร่หัวใจของคุณก็แตกสลายอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อยากบอกว่า ขอจงเชื่อมั่นเสมอว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีความดีงามซุกซ่อนอยู่ หัวใจของมนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเติมเต็มโดยพระเจ้า หาใช่โดยสรรพสิ่งถูกสร้างอื่นใด ใช้เวลาที่ถูกทอดทิ้งตรงนี้ให้ชีวิตเรียนรู้ที่จะพึ่งพาและเติมเต็มหัวใจด้วยพระเจ้าให้มากที่สุด

บางครั้งคุณอาจต้องยอมปล่อยเขาไป เพราะคนที่ทอดทิ้งคุณเขาไม่คู่ควรกับที่ว่างในใจคุณอยู่แล้ว ความเจ็บปวดที่คุณประสบจะยิ่งช่วยย้ำเตือนว่าโลกดุนยาเป็นเพียงแค่ทางผ่าน ความเจ็บปวดจะช่วยย้ำเตือนให้คุณเรียนรู้ที่จะไม่พึ่งพาใคร นอกจากอัลลอฮเพียงองค์เดียว จงใช้โอกาสตรงนี้ให้ตัวเราได้หันหน้าเข้าหาอัลลอฮ พระเจ้าผู้ทรงรักและเมตตาเรายิ่งกว่าแม่ของเราด้วยซ้ำ

เมื่อคุณเลือกสวมฮิญาบนั่นแปลว่าคุณจะไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมงานปาร์ตี้ไนต์คลับที่ใดอีกแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีบางคนที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับตัวคุณเลย คุณเท่านั้นที่รู้ตัวดีที่สุด อย่าเสียดายสิ่งเหล่านั้น อย่างน้อยสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็ช่วยคัดกรองบางคนออกไปจากชีวิตเราได้ จงเชื่อว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนมีความดีงามซ่อนอยู่ หัวใจของคนเราถูกสร้างมาเพื่อเติมเต็มด้วยพระเจ้าผู้ทรงสร้างเท่านั้น ไม่ใช่ด้วยคนสำคัญหรือเพื่อนที่มีสถานะเป็นเพียงสิ่งถูกสร้าง ต่อให้รักเพื่อนมากเท่าใด เราก็ไม่ควรมอบตำแหน่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตให้เขาเป็นผู้เติมเต็ม

2. คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ใครฟัง

“ทำไมต้องทำตัวเคร่งครัดด้วยนะ?”
“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าเธอแต่งงานใช่ไหม?”
“ทำไมต้องกดขี่ตัวเธอเอง?”
“พ่อเธอบังคับให้ใส่ฮิญาบใช่ไหม?”
“ทำไมต้องโชว์คนอื่นว่าตัวเองเคร่งด้วย? ศาสนามันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างเธอกับพระเจ้าไม่ใช่หรือ?”

บางครั้งคำพูดบางคำมันก็บาดคมยิ่งกว่ามีด มันอาจทิ่มแทงจนคุณต้องเจ็บปวดใจ แต่จำไว้ว่าทั้งหมดคือสิ่งที่คุณเลือกและตัดสินใจแล้ว คุณไม่ได้เลือกมันเพื่อใคร แต่คุณเลือกมันเพื่ออัลลอฮ อย่าไปเสียเวลากับคนที่มีนิยามในตัวคุณในแบบของเขาเองไว้แล้ว เราจะไปบังคับหรือหยุดความคิดใครคงเป็นไปไม่ได้ ให้อภัยพวกเขา ลองยิ้มสวยๆ แล้วเดินจากไป เมื่อมีโอกาสอยู่ตัวคนเดียวก็ลองนั่งนิ่งขอดุอาอ์กับอัลลอฮ บางครั้งเราอาจไม่รู้ว่าคนที่พูดแบบนั้นเขาเจออะไรมาบ้างในชีวิต เราไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาต้องเดือดดาลถึงเพียงนั้น ลองดุอาอ์ขอต่ออัลลอฮผู้ทรงเปลี่ยนแปลงหัวใจ เพราะพระองค์เท่านั้นที่มีอานุภาพเปลี่ยนแปลงหัวใจทุกคน

3. คุณไม่ใช่ลูกอมในห่อ

คุณอาจเคยคุ้นหูกับประโยคนี้ “ชายคนหนึ่งถามชายมุสลิมว่า ‘ทำไมผู้หญิงมุสลิมต้องปกปิดเรือนร่างและผมของเธอด้วย?’ ชายมุสลิมคนนั้นยิ้มแล้วหยิบลูกอมออกมาสองเม็ด เขาแกะเปลือกลูกอมออกมาหนึ่งเม็ดและไม่แกะหนึ่งเม็ด แล้วโยนลงบนพื้นสกปรกทั้งสองเม็ดและถามว่า “ถ้าผมให้คุณเลือกมาหนึ่งเม็ด คุณจะเลือกเม็ดไหน?’ ชายคนนั้นตอบว่า ‘อันที่อยู่ในห่อ’ แล้วชายมุสลิมนั้นก็พูดต่อว่า “นั่นแหละคือมุมมองและการปฏิบัติต่อผู้หญิงของมุสลิมเรา”

อยากจะบอกว่า ไม่จริงเลย..มันไม่ใช่อย่างนั้น คุณมีค่ายิ่งกว่าลูกอมเม็ดนั้น อันที่จริงคำเปรียบเทียบข้างต้นนี้มันขัดต่อหลักการพื้นฐานที่อิสลามเราส่งเสริมให้ผู้หญิงคลุมฮิญาบมาก เพราะเราไม่ได้สวมฮิญาบปกปิดตัวเองเพื่อผู้ชาย แต่เราปกปิดเพื่ออัลลอฮ ผู้หญิงเราไม่ได้เกิดมาเพื่อสร้างความพอใจให้กับผู้ชาย พวกเขาไม่มีสิทธิ์จะมาตัดสินคุณค่าของผู้หญิง ผู้ชายไม่มีสิทธิ์จะมาโยนขว้างผู้หญิงเพื่อทดสอบคุณค่าในตัวเธอ และผู้หญิงที่ไม่คลุมฮิญาบก็ไม่ได้อยากให้ตนเองดูต่ำต้อยจากการโยนทิ้งจนคลุกฝุ่นเปื้อนดินจากผู้ชายด้วยเช่นกัน ไม่มีใครสมควรถูกโยนทิ้งเพื่อเปรียบเทียบความสกปรกเช่นนั้น

4. ฮิญาบไม่ได้ช่วยให้คุณล่องหนได้

ฮิญาบไม่ใช่อาภรณ์วิเศษที่จะช่วยคุ้มครองให้คุณปลอดภัย เพราะยังไงเสียโลกนี้ก็ยังมีมนุษย์วิกลจริตที่คิดว่าการคุกคามทางเพศนั้นไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายอะไร คนที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ไฝ่ต่ำของตัวเองก็ยังคงข่มขืนผู้หญิงต่อไปแม้เธอจะปกปิดหรือไม่ก็ตาม ผู้หญิงใส่ชุดบิกินีมีสิทธิ์โดนข่มขืน ผู้หญิงคลุมฮิญาบปิดหน้าใส่ถุงมือก็มีโอกาสโดนข่มขืนได้ด้วยเช่นกัน มันอาจฟังดูแล้วน่ากลัว แต่มันคือสัจธรรมของโลกใบนี้

5. อย่าตัดสินคนอื่นเพียงเพราะเขาผิดบาปต่างไปจากคุณ

ผู้หญิงมุสลีมะห์คลุมฮิญาบส่วนใหญ่มักเผลอเรอกับสิ่งเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว เรามักจะลืมไปว่าที่เราสามารถสวมฮิญาบได้ถึงทุกวันนี้นั้นก็เพราะอัลลอฮทรงประทานความง่ายดายให้แก่เราต่างหาก มันไม่ใช่ความดีความชอบอะไรของตัวเราเองเลยแม้แต่นิด

การสวมฮิญาบไม่ได้แปลว่าคุณเหนือกว่าคนอื่น มันคือเรื่องระหว่างคุณกับอัลลอฮ และพระองค์ก็ทรงรู้ถึงสิ่งที่อยู่ข้างในใจคุณ เราไม่ควรรีบไปตัดสินหรือด่วนสรุปใคร เพราะเราไม่อาจรู้เลยว่าชีวิตเธอคนนั้นเคยผ่านอะไรมาบ้าง หรือเธออาจทำความดีเพื่ออัลลอฮในที่ลับที่เราอาจไม่ล่วงรู้ก็เป็นได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การไม่ตัดสินใครก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถให้คำแนะนำใครด้วยคำพูดที่ดีและห่วงใยได้ เมื่อครั้งที่อัลลอฮได้บัญชาให้ท่านนบีมูซาและฮารูนไปเข้าพบฟิรเอาน์กษัตริย์จอมโอหัง พระองค์ได้กำชับท่านนบีว่า “ให้พูดกับเขา (ฟิรเอาน์) ด้วยคำพูดที่อ่อนโยน เพื่อที่ว่าเขาจะใส่ใจกับคำตักเตือนและยำเกรงต่อพระเจ้า” ขนาดกับฟิรเอาน์มนุษย์ที่เลวและแย่ที่สุดในปฐพีอัลลอฮยังทรงกำชับให้พูดดีด้วย แล้วกับน้องสาวร่วมสายเชือกที่ไม่ได้เป็นฆาตกรฆ่าใครนั้นเราควรจะพูดดียิ่งกว่าไหม? หากอัลลอฮยังไม่เปิดใจเธอคุณก็เปลี่ยนอะไรเธอไม่ได้ ต่อให้คุณพยายามตะโกนให้ดังสุดเสียงแค่ไหนแล้วก็ตาม ดังนั้นจงรู้จักอ่อนโยนกับทุกคน เพราะคงไม่มีใครในโลกนี้ที่ชอบการถูกด่าทออย่างไม่ให้เกียรติแน่นอน

6. มันจะมีบางวันที่คุณรู้สึกอยากถอดฮิญาบเสียดื้อๆ

ฮิญาบไม่ได้ทำให้คุณสมบูรณ์แบบ อย่าลืมว่าคุณคือมนุษย์คนหนึ่งที่มีอารมณ์และความรู้สึกที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เรามีรัก มีหวัง มีฝัน มีน้ำตา และความกังวลคอยมารุมเร้าในบางช่วงของชีวิต และเส้นทางจะก้าวสู่การใกล้ชิดกับอัลลอฮก็อาจไม่ง่ายดายเสมอไป

แต่จงเชื่อเสมอว่า ไม่มีความคุ้มค่าใดๆที่ได้มาอย่างง่ายดาย พระองค์เท่านั้นที่ทรงรู้ดีในวันที่คุณรู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียด พระองค์เท่านั้นที่รู้ดีในวันที่คุณรู้สึกไม่ปลอดภัย หลายครั้งความกังวลมันอาจทำให้คุณท้อจนอยากถอดฮิญาบ พระองค์เท่านั้นที่รู้ดีว่าคุณกำลังร้องไห้ในใจคนเดียว คุณท้อแท้ในความอ่อนแอของตัวเอง อยากจะบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องปกติมาก การสวมฮิญาบในโลกที่รายล้อมไปด้วยสิ่งเย้ายวนใจ โลกที่เต็มไปด้วยความสวยงามแห่งวัตถุนิยมให้ชื่นชมหลงใหลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

มันเป็นเรื่องยากที่จะยืนหยัดบนจุดยืนแห่งศาสนาโดยเฉพาะกับโลกปัจจุบันที่ภาพลักษณ์อิสลามตกต่ำจากการถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ให้จำไว้เสมอว่าพระองค์นั้นทรงได้ยิน พระองค์ทรงมองเห็น จำไว้ว่าสิ่งใดไม่ท้าทายพอสิ่งนั้นจะไม่ช่วยให้เราเติบโต จงต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เพื่อความสมบูรณ์แบบ และอัลลอฮจะทรงตอบแทนทุกย่างก้าวแห่งความพยายามของเราโดยไม่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนเลยแม้สักนิด

พึงจำไว้เสมอว่าความศรัทธานั้นมีสามมิติ คือการยอมรับด้วยหัวใจ การประกาศวาจาด้วยลิ้น และการปฏิบัติด้วยส่วนต่างๆ ของร่างกาย เราจะต้องรู้จักหลอมรวมหัวใจกับให้ทำงานสัมพันธ์กับลิ้นผ่านวาจาที่เราพูด และสัมพันธ์กับอวัยวะของร่างกายผ่านการกระทำด้วยเช่นกัน

“หากคุณแก้ไขความดีงามภายในตัวคุณ อัลลอฮจะทรงแก้ไขความดีงามภายนอกให้คุณเอง” จงวิงวอนขอต่ออัลลอฮด้วยพระนามที่งดงามยิ่งของพระองค์เพื่อขัดเกลาจิตใจของเรา จงปกป้องจิตใจของเราให้มั่น เพราะเมื่อใดที่ภายในหัวใจของเราสวยงาม ทุกอย่างภายนอกก็จะสะท้อนความสวยงามออกมาเช่นกัน

อัลลอฮทรงเมตตาเปิดหัวใจคุณแล้ว แค่คุณตัดสินใจสวมฮิญาบก็พิสูจน์ได้แล้วว่าคุณแกร่งกล้ากว่าที่คุณคิดมากมายนัก จงหมั่นสะกิดถามตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่าเราเริ่มสวมฮิญาบทำไม และอย่าลืมหมั่นตรวจสอบและทบทวนเหนียต(ความตั้งใจ)ของตนเองอยู่ตลอดเวลา เมื่อใดที่คุณให้ความสำคัญกับอัลลอฮเป็นที่หนึ่ง คุณจะไม่มีวันเป็นคนสุดท้ายในโลกนี้ จงมอบหมายยอมจำนนต่อพระองค์ และจำไว้เสมอว่าพระองค์นั้นไม่เคยจัดวางให้คนหนึ่งต้องเจอกับสถานการณ์ที่เหลือบ่ากว่าแรง และเมื่อใดที่คุณอ่อนแอ ท่องดุอาอฺนี้ไว้ให้ขึ้นใจว่า:

رَبَّنَا لاَ تُزِغْ قُلُوبَنَا بَعْدَ إِذْ هَدَيْتَنَا وَهَبْ لَنَا مِن لَّدُنكَ رَحْمَةً إِنَّكَ أَنتَ الْوَهَّابُ

โอ้พระผู้อภิบาลของพวกเรา ! โปรดอย่าให้หัวใจของพวกเราเอนเอียงออกจากความจริงเลย หลังจากที่พระองค์ได้ทรงแนะนำแก่พวกเราแล้ว และโปรดได้ประทานความเอ็นดูเมตตา จากที่ที่พระองค์ให้แก่พวกเราด้วยเถิด แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ทรงประทานให้อย่างมากมาย

อย่าให้ฮิญาบปกคลุมแค่เพียงร่างกาย แต่ให้ฮิญาบคลุมถึงหัวใจสตรีผู้ศรัทธา

การคลุมฮิญาบที่ถูกต้อง เหมาะสมดังนี้

1. ผ้าฮิญาบอย่าเล็กจนเห็นคอ

2. ดึงผ้าลงมาปิดหน้าอก

3. ไม่รัดรูปจนเห็นสัดส่วน

4. ไม่บางจนเห็นเรือนร่าง

5. หลีกต่างฮิญาบโหนกอูฐ

6. ระวังผมโผล่

7. ใส่ถุงเท้าเพราะเท้าก็เป็นเอาเราะฮฺ

8. ปลายแขนก็ต้องระวังด้วย

9. สีสันไม่ดึงดูดสายตา

10. ไม่ใส่นํ้าหอมเมื่อออกนอกบ้าน

อัพเดทล่าสุด